เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) เผยทิศทางและแผนการดำเนินธุรกิจในไทย พร้อมเปิดตัว MG IM6 รถเอสยูวีไฟฟ้าระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ล่าสุด ในราคาเริ่มต้น 1,399,900 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ Prime Package สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถ NEW MG IM6 ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมถึง 30 เมษายน 2568 นี้
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เผยทิศทางและแผนการดำเนินธุรกิจในไทยตั้งเป้าปีนี้ครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 5% และมุ่งก้าวสู่ ท็อป 5 ในตลาดยานยนต์ไทย ภายในทศวรรษที่ 2 ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก เตรียมส่งรถยนต์ไฟฟ้า และ ไฮบริด รุ่นใหม่ เพิ่มเติมพอร์ตโฟลิโอภายในปี 2026 เพื่อขับเคลื่อนแบรนด์สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เติมเต็มพรีเมียมอีวี NEW MG IM6 เข้าเสริมทัพ ชูจุดเด่น The First-ever Premium Intelligent e-SUV ที่มาพร้อมกับความสามารถในการชาร์จเร็วที่สุดในประเทศไทย ณ เวลานี้ ฟังก์ชันครบถ้วน พร้อมแรงม้าสูงถึง 778 แรงม้า สะท้อนภาพยนตรกรรมที่ล้ำสมัย มอบความตื่นเต้นให้ลูกค้า พร้อมส่งมอบในช่วงเมษายนนี้
เอ็มจี ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงสำคัญในวงการยานยนต์ไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำเสนอยนตรกรรมคุณภาพสูง ที่ครอบคลุมทุกรูปแบบการขับเคลื่อนในหลากหลายเซกเมนต์ ด้วยจุดเด่นของฟีเจอร์ที่ครบถ้วนและราคาที่เข้าถึงง่าย ด้วยยอดขายสะสม ณ ปัจจุบันรวมกว่า 220,000 คัน ทั้งยังมียอดการส่งออกรถยนต์ จากฐานการผลิตในไทยไปยังภูมิภาคอาเซียนแล้วมากกว่า 32,000 คัน ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จที่ได้รับความเชื่อมั่นไม่เพียงแค่ตลาดภายในประเทศ แต่ยังขยายไปสู่การเติบโตในระดับภูมิภาคได้อย่างมั่นคง ในทศวรรษที่ 2 เอ็มจี ยังคงมุ่งมั่นพัฒนา และนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดย เอ็มจี มีแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ และรถไฮบริด เพิ่มเติมภายในปี 2026 เริ่มต้นด้วย NEW MG IM6 ยนตรกรรมไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่นเรือธง ที่จะเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมียมอีวี และ B-SUV ไฟฟ้าล้วน อย่าง NEW MG S5 EV ที่จะเปิดตัวในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 พร้อมเสริมทัพ แผนการขยายผลิตภัณฑ์ ในกลุ่มพลังงานทางเลือกตามเทรนด์โลก และมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจ ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
1.การตอกย้ำความเป็นผู้บุกเบิกด้านยานยนต์ไฟฟ้าในไทย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง
เอ็มจี ยังเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียว ที่มอบการรับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ มอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ตลอดอายุการใช้งาน (LIFETIME WARRANTY) ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์สำคัญของแบรนด์ เพื่อคลายความกังวลเกี่ยวกับความทนทานของระบบไฟฟ้า และเพิ่มมูลค่าให้กับรถมือสอง ทั้งยังให้ความสำคัญกับการยกระดับโรงงานผลิตแบตเตอรี่ เพื่อให้พร้อมต่อการขยายตัวในการใช้รถอีวี
- การพัฒนายานยนต์พลังงานทางเลือก เพื่อเสริมประสิทธิภาพและยกระดับประสบการณ์การขับขี่
เอ็มจี เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดภายใต้แนวคิด “Global Quality, Local Relevance” ด้วยการนำเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชันที่ 2 จาก SAIC MOTOR CORPORATION มาชูจุดเด่นด้านสมรรถนะที่ดีขึ้น การประหยัดน้ำมันที่เหนือกว่า และการขับขี่ที่นุ่มนวล พร้อมคงความคุ้มค่าในการใช้งาน พร้อมกันนี้ เอ็มจี ยังเตรียมขยายไลน์อัพรถยนต์ไฮบริดอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนเปิดตัวรุ่นใหม่ภายในปี 2026 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าชาวไทย ทั้งในกลุ่มครอบครัวและกลุ่มที่มองหาความประหยัดเป็นหลัก
3) สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าในทุกด้าน
สำหรับ เอ็มจี เรามุ่งมั่นยกระดับบริการหลังการขายให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนา E-Workshop ระบบบริการดิจิทัล ที่ให้ลูกค้าติดตามงานซ่อมได้แบบเรียลไทม์ สะดวก และมั่นใจได้ในทุกขั้นตอน นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าอัตราการจัดหาอะไหล่ 99% เพื่อให้บริการได้รวดเร็ว ลดระยะเวลารอคอย พร้อมเสริมด้วยบริการ ช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และการดูแลแบบใส่ใจรายบุคคล เพราะที่ เอ็มจี เราเชื่อว่า ลูกค้าทุกคนคือคนสำคัญ และเราพร้อมดูแลตลอดการเดินทาง
4.การขับเคลื่อนแบรนด์สู่ความยั่งยืน พร้อมเคียงข้างสังคมไทย
ในปีนี้ เอ็มจี จะยังคงเดินหน้าพันธกิจนำแบรนด์สู่ความยั่งยืน โดยบูรณาการความร่วมมือกับทั้งลูกค้า พาร์ทเนอร์ และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อพัฒนาองค์กรและสังคมไปพร้อมกัน ทั้งยังสานต่อกิจกรรมเพื่อสังคม และมุ่งถ่ายทอดทักษะด้านนวัตกรรมในการพัฒนาเทคโนโลยี NEV ด้วยแผนการขยายความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำทั่วประเทศ เพื่อต่อยอดสู่การพัฒนาทักษะในอนาคตและสร้างบุคลากรเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างมีคุณภาพ
และอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 กับการเปิดตัว NEW MG IM6 ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของแบรนด์ เอ็มจี ซึ่ง NEW MG IM6 ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมรุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “ขับเคลื่อนตัวตน บนความเป็นตัวเอง” (I’M WHO I’M) โดยนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ เติมเต็มทั้งความหรูหราและการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหารถเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้า ที่ไม่เพียงแค่มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม แต่ยังสะท้อนถึงตัวตนของผู้ขับขี่ ผ่านการออกแบบที่โดดเด่นและแตกต่างอย่างมีสไตล์
NEW MG IM6 ยนตรกรรมรุ่นล่าสุดที่เข้ามาเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์อีวีพรีเมียมของ เอ็มจี ด้วยการเป็น The First-ever Premium intelligent e-SUV ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่แตกต่าง วิถีใหม่ที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การใช้รถอีวีไปสู่อีกระดับ
นิยามบทใหม่แห่งการสร้างสรรค์ยนตรกรรมสุดพรีเมียมที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยี
NEW MG IM6 สะท้อนภาพการไม่หยุดนิ่งในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ใหม่ๆ ที่พร้อมเปลี่ยนโลกยนตรกรรมของ SAIC MOTOR CORPORATION ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ เอ็มจี ในการรังสรรค์ยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตระดับพรีเมียม ที่พร้อมตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ เพื่อส่งมอบประสบการณ์การใช้รถที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และเติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะ อาทิ ระบบอัจฉริยะแสดงผลในที่มืดและฝนตก (Intelligent Rainy Night Mode) ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ APA (Auto Park Assist) ระบบช่วงล่างถุงลมอัจฉริยะ(Intelligent Air Suspension)
ดีไซน์ภายนอกหรูหราแต่ล้ำสมัย แปลกใหม่และโดดเด่นไม่ซ้ำใคร
NEW MG IM6 รถเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้าสุดหรู สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่พร้อมสร้างภาพจำของรถเอสยูวีอีวีครั้งใหม่ โดยเป็นผลงานการออกแบบดีไซน์ร่วมกันของนักออกแบบจาก SAIC MOTOR CORPORATION และ University of Art London ดีไซน์ภายนอกภายใต้คอนเซ็ปต์ Gentle Sculpture ที่ตัวรถ เน้นความโค้งมน ดูพลิ้วไหว ดีไซน์กระจังหน้าเป็นเอกลักษณ์ พร้อมไฟหน้าดีไซน์แบบ L Shape ทำให้รถดูโฉบเฉี่ยว ไฟท้ายพาดยาวแบบ Skyline Taillights และการออกแบบเส้นสายให้ดูโค้งโอบล้อมลงตัวเข้ากับช่วงท้ายรถ ทั้งยังคำนึงถึงการใช้หลักอากาศพลศาสตร์ หรือ Aero Dynamics ในการออกแบบเพื่อช่วยเสริมสมรรถนะและเพิ่มประสิทธิภาพของตัวรถได้อย่างลงตัว
• มิติตัวถัง 4,904 x 1,988 x 1,669 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
• ระยะความยาวฐานล้อ 2,950 มิลลิเมตร
• กระจกข้างแบบไร้กรอบ พร้อมกระจกรอบคัน 2 ชั้น
• ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
• ไฟหน้า ไฟท้าย และ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
• ระบบควบคุมการ เปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ
• กระจกมองข้างพับ และปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
• ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
• หลังคากระจกพาโนรามิก
• ที่เปิดประตูแบบเก็บซ่อนในตัวรถ (Hidden Door Handle)
• ล้ออัลลอยด์ ขนาด 21 นิ้ว สำหรับรุ่น Performance AWD และขนาด 20 นิ้ว สำหรับรุ่น Premium 2WD
ภายในเหนือระดับ กับหลากลูกเล่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ สะดวกสบาย และลงตัว
การออกแบบภายในเน้นความเรียบหรู และคำนึงถึงความสะดวกสบายให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน โดย NEW MG IM6 ให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุพรีเมียม และการจัดวางเส้นสายที่ประณีตบรรจง ช่วยเพิ่มสุนทรีย์ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมการออกแบบเพื่อการใช้งาน ที่เน้นความกว้าง ทำให้ดูโล่ง โปร่ง สบาย แต่ยังมีสไตล์ และมีความเฉพาะตัว ทั้งยังคงจุดเด่นของการเป็นรถอเนกประสงค์ ด้วยพื้นที่เก็บสัมภาระรอบคัน ครบครันด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ล้ำสมัย และใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ระดับไฮเอนด์
• ดีไซน์คอนโซลหน้าเน้นความเรียบหรูด้วยวัสดุ Soft Touch พร้อมที่วางแก้ว และรองรับการชาร์จแบบไร้สายกำลังไฟสูงสุด 50 วัตต์ (Wireless Charger)
• ดีไซน์พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์
• ให้ความนุ่มนวลและสบายในทุกที่นั่ง ด้วยเบาะนั่ง POPO Sofa ทรงขนมปัง พร้อมสัมผัสพรีเมียมโดยหุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์
• เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อม Lumbar Support และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง โดยเบาะคู่หน้าเป็นแบบระบายความร้อน พร้อมระบบนวดสำหรับผู้ขับขี่
• เบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้ 60:40
• หน้าจออัจฉริยะระบบสัมผัส Intelligent Immersive Touch Screens จำนวน 2 จอขนาดใหญ่ ประกอบด้วย หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 26.3 นิ้ว และหน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 10.5 นิ้ว สำหรับควบคุมส่วนต่าง ๆ ภายในรถ
• ระบบลำโพงรอบทิศทาง 20 จุด ประกอบด้วย ลำโพงรอบทิศทาง 16 จุด และลำโพงบริเวณหลังคา 4 จุด
• ระบบสั่งการอัจฉริยะ IM OS
• Interactive Ambient Light ที่สามารถเปลี่ยนได้ 256 เฉดสี
• กระจกไฟฟ้า One Touch Up-Down
• กระจกมองหลังแบบ Streaming Media Rearview Mirror
• ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกโซนอิสระ พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5
• ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
• พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหน้ารถ จุได้มากถึง 32 ลิตร
• พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรถ จุได้มากถึง 596 ลิตร และเมื่อพับเบาะสามารถจุได้มากถึง 1,640 ลิตร พร้อมที่เก็บสัมภาระเพิ่มเติมที่ท้ายรถได้อีก 69 ลิตร
• ฝาท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบเตะเปิดอัตโนมัติ
• ระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android แบบไร้สาย
• ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE C จำนวน 2 จุด
• เพิ่มเติมความพิเศษด้วย IM MAG HUB อุปกรณ์เสริมติดแม่เหล็กภายในตัวรถ เพื่อใช้ติดตั้งแอคเซสเซอรี่ต่าง ๆ อาทิ โคมไฟ กระจกแต่งหน้า ไฟอ่านหนังสือ ฯลฯ จำนวน 5 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นผลงานการสร้างสรรค์เฉพาะจาก SAIC เพื่อครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานรถอย่างแท้จริง
ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ไปอีกขั้น ด้วยสมรรถนะและขุมพลังการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพ
NEW MG IM6 รังสรรค์บนแชสซีดิจิทัลอัจฉริยะใหม่ (IM Digital Chassis) ที่ทำจากอะลูมิเนียม มอบความสมดุลและประสิทธิภาพในการขับขี่ได้อย่างยอดเยี่ยม มาพร้อมกับชิปประมวลผลระดับไฮเอนด์สำหรับระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง
• ขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor
o รุ่น Premium 2WD มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ให้พละกำลังสูงสุด 295 แรงม้า (217 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 5.9 วินาที
o รุ่น Performance AWD มอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุด 778 แรงม้า (572 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 802 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.48 วินาที โดยสามารถทำความเร็วสูงสุด (Top speed) ได้มากกว่า 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
• ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 2 ระดับ
• รัศมีวงเลี้ยว 5.09 เมตร ทำให้ขับเลี้ยว และเข้าออกในพื้นที่แคบได้อย่างง่ายดาย
• ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมช่องระบายความร้อน จาก Continental
• ระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ Double Wishbone พร้อมระบบถุงลม และด้านหลังแบบอิสระมัลติลิงค์พร้อมระบบถุงลมสำหรับรุ่น Performance AWD
• ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ (Intelligent Four-Wheel Steering System) ทำให้การเปลี่ยนเลนมีเสถียรภาพ แม้ในช่วงความเร็วสูง รวมถึงทำให้การกลับรถในที่แคบ ทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
• ถอยจอดและขับออกอย่างสะดวกสบายด้วยปลายนิ้วสัมผัส กับระบบ One Touch iAD ที่ช่วยในการถอยจอดด้านข้าง (One Touch Side Parking) รวมถึงการจอดและออกจากช่องจอดรถในพื้นที่จำกัด (One Touch Escape) และการถอยหลังอัตโนมัติเมื่อขับเจอซอยตัน (One Touch Reverse)
• ฟังก์ชัน Crab Mode เพื่อปรับมุมทั้ง 4 ล้อ ในมุมเดียวกัน เพื่อทำการเคลื่อนรถออกจากพื้นที่จำกัด
• ระบบการขับขี่ 6 โหมด ได้แก่ Eco / Comfort / Sport / Snow / Custom และ Super Eco ซึ่งจะดึงไฟสำรองจากแบตเตอรี่มาใช้ อีก 80 กิโลเมตร สำหรับในยามฉุกเฉิน
• ระบบช่วงล่างถุงลมอัจฉริยะ (Intelligent Air Suspension) สามารถปรับสูง-ต่ำได้ 3 ระดับ ได้แก่ ระดับความสูงปกติ (Standard) ปรับเตี้ยลง 5 เซนติเมตร และปรับสูงขึ้น 2 เซนติเมตร พร้อมปรับการทำงานอัตโนมัติตามรูปแบบการขับขี่
มั่นใจทุกเส้นทางกับเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ล้ำสมัย
NEW MG IM6 มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย มอบความมั่นใจในทุกการขับขี่ ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ซึ่งรวมระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) หรือระบบอำนวยความสะดวกช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งยังผ่านการทดสอบและรับรองมาตรฐานระดับ 5 ดาวจาก China NCAP และดีไซน์เพื่อรองรับ EURO-NCAP
• ระบบอัจฉริยะแสดงผลในที่มืดและฝนตก (Intelligent Rainy Night Mode) ที่ผสานการทำงานของกล้องรอบคัน การปรับค่าช่วงล่างถุงลมอัตโนมัติ ช่วยลดปัญหาทัศนวิสัยในการมองเห็นระหว่างการขับขี่
• ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ APA (Auto Park Assist)
• ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-Lock Brake System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake Force Distribution)
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบควบคุมการทรงตัว VDC (Vehicle Dynamic Control System)
• ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HHC (Hill Hold Control)
• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
• ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System)
• ระบบช่วยเบรก AEB (Automatic Emergency Braking)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LCC (Lane Centering Control)
• ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
• ระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา ที่ทำงานประสานกัน ทั้งระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection) ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบช่วยเบรกขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Braking) และระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)
• ระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง (FOLLOW ME HOME)
นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ(Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะด้านหน้าและหลัง ระบบกุญแจอัจฉริยะพร้อมการ์ด NFC สำหรับแปะเพื่อล้อคและปลดล็อคตัวรถ
ใช้ง่าย ชาร์จไว ให้ทุกการเดินทางสะดวกสบาย
จากความเหนือชั้นและขั้นกว่าของสถาปัตยกรรม 800V Dual SiC Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานที่ออกแบบโดยเฉพาะจาก SAIC MOTOR CORPORATION ทำให้ NEW MG IM6 มีความสามารถในการชาร์จไฟได้ไว และเพิ่มระยะทางในการขับต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ เอ็มจี ยังมอบความสะดวกสบาย ให้การใช้รถอีวีเป็นเรื่องที่ง่าย ด้วยความพร้อมของสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG SUPER CHARGE ที่พร้อมให้บริการแล้วกว่า 140 แห่ง ทั่วประเทศ
• แบตเตอรี่เป็นแบบ Lithium-ion
o รุ่น Premium 2WD ขนาดความจุ 75 kWh ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 400 โวลต์ สามารถวิ่งได้ระยะทาง 550 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
o รุ่น Performance AWD ขนาดความจุ 100 kWh ขับเคลื่อนด้วยแรงดันไฟฟ้าสูงถึง 875 โวลต์ สามารถวิ่งได้ระยะทาง 634 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
• ระบบ Cooling system เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่สามารถระบายความร้อนได้ 15 องศาเซลเซียส ภายในเวลาเพียง 30 วินาที
• แบตเตอรี่ 12V แบบ Lithium- ion
• ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 10% – 80% ใช้เวลาน้อยกว่า 20 นาที* ด้วยแรงดันไฟฟ้า 800 โวลต์ รองรับการชาร์จแบบกระแสตรงสูงสุด 396 kW
• รองรับระบบ V2L เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสูงสุด 6.6 kW
*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือ และกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า
NEW MG IM6 รถเอสยูวีคูเป้ไฟฟ้าสุดพรีเมี่ยม ประกอบด้วย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Premium 2WD ในราคา 1,399,900 บาท และรุ่น Performance AWD ในราคา 1,799,900 บาท โดยมีสีตัวถังให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีชมพู Ferdinand Pink สีขาว Raphael Beige สีดำ Ares Black และสีเทา Rembrandt Grey มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถ NEW MG IM6 ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคมถึง 30 เมษายน 2568 นี้ รับ Prime Package มูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท ได้แก่
MG SHIELD ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. นาน 2 ปี มูลค่า 72,000 บาท
ฟรี รับ IM MAG HUB PACKAGE มูลค่า 17,380 บาท
ฟรี Privacy Glass สำหรับผู้โดยสารแถวหลัง และ PANORAMIC GLASS ROOF เคลือบ SILVER COATED มูลค่า 15,000 บาท
ฟรี MG HOME CHARGER พร้อมติดตั้ง มูลค่า 38,500 บาท
ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนระดับพรีเมียม นาน 5 ปี มูลค่า 12,500 บาท
ฟรี ค่าบริการระบบปฏิบัติการ i-SMART นาน 5 ปี มูลค่า 7,450 บาท
ฟรี บริการค่าจดทะเบียน กรอบป้ายทะเบียน และชุดพรมปูพื้น มูลค่า 8,385 บาท
สิทธิพิเศษ การบริการ PREMIUM FAST LANE
สิทธิพิเศษ การบริการ PREMIUM CALL CENTRE
ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% นาน 48 เดือน
รับประกันแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชุดควบคุม ตลอดอายุการใช้งาน
รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)