BYD ท้าทาย Honda วัดกันตรงที่..ใครจะขายก่อนกันในตลาด? กดราคา EV รุ่นธรรมดาต่ำลงไปอีก

BYD ท้าทาย Honda ทดสอบผลิตแบตเตอรี่ออลโซลิตสเตทแล้ว เล็งผลิตขายในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน คาดราคาไม่ต่างจากแบตเตอรี่ในปัจจุบัน

เมื่อราว 2 เดือนก่อน Honda ได้สร้างเซอร์ไพรซ์ให้กับวงการยานยนต์ของโลก ด้วยการแถลงข่าวพร้อมแสดงสายการผลิตแบตเตอรี่แบบ all-solid state ที่ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่จะพลิกเกมให้กับหลายๆบริษัทที่มีเทคโนโลยีชนิดนี้อยู่ในมือ โดยเฉพาะบริษัทที่สามารถนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ก่อน เป็นรายแรกๆในตลาด โดยฮอนด้าได้ออกมาเปิดเผยสายการผลิตสาธิต แบตเตอรี่แบบออลโซลิดสเตต ซึ่งฮอนด้าพัฒนาขึ้นโดยบริษัทเองเพียงลำพัง เพื่อที่จะสร้างกระบวนการผลิตแบบ mass production ต่อไป โดยสายการผลิตดังกล่าวถูกสร้างขึ้นบนที่ดินของบริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองซากุระ จังหวัดโทชิงิ ประเทศญี่ปุ่น ในระหว่างที่ดำเนินการตรวจสอบทางเทคนิคสำหรับการสร้างกระบวนการผลิตแบบ mass priduction จากสายการผลิตสาธิตนี้ ฮอนด้าจะทำการกำหนดคุณลักษณะพื้นฐานของเซลล์แบตเตอรี่ไปด้วย โดยมีเป้าหมายที่จะเริ่มนำแบตเตอรี่แบบออลโซลิดสเตตไปใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะมีการเปิดตัวสู่ตลาดในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษนี้ หรือในช่วงปี 2025-2030 และแน่นอนว่า ความเคลื่อนไหวของฮอนด้าในครั้งนี้ ทำให้สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่พี่ใหญ่ในวงการรถยนต์ญี่ปุ่นอย่างโตโยต้า ที่เคยออกมาวาดฝันว่าจะสามารถผลิตแบตเตอรี่ชนิดนี้ออกมาทำตลาดได้ในช่วงปลายทศวรรษนี้เช่นกัน แต่ดูเหมือนว่า ทางบริษัทเองก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้าไปกว่านั้น เพราะแม้แต่แผนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆก็ยังคลุมเครืออยู่ด้วยซ้ำ แถมสถานการณ์ล่าสุด ก็ยิ่งเปิดทางให้ TOYOTA ไม่จำเป็นจะต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีชนาดนี้ออกมาแข่งขันกับคนอื่น เพราะปี 2024 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรถยนต์ไฮบริดสูงที่สุดเป็นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทยังมีเวลาเหลือเฟือ ในการรับมือกับกระแสรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ที่กำลังงเข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าของค่ายญี่ปุ่นอย่างฮอนด้า กำลังเป็นแรงกระตุ้นและถูกท้าทายโดยคู่แข่งจากบริษัทยานยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง BYD ที่มีความเคลื่อนไหวในด้านนี้ช่นกัน

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่งาน China All-Solid-State Battery Innovation and Development Summit Forum ครั้งที่ 2 นายซุน หัวจุน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัท Shenzhen BYD Lithium Battery ได้เปิดเผยว่า BYD ได้เริ่มผลิตแบตเตอรี่แบบออลโซลิดสเตตขนาด 60Ah จากสายการผลิตนำร่องในปี 2024 ที่ผ่านมาแล้ว โดยบริษัทจะเริ่มสาธิตการใช้งานจำนวนมาก รวมถึงการติดตั้งแบตเตอรี่ออลโซลิดสเตตนี้ในราวปี 2027 และจะมีการนำไปใช้งานในวงกว้างหลังจากปี 2030 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ นายซันยังทำนายว่าจากมุมมอง หากมีการพัฒนาแบตเตอรี่ชนิดนี้ไปได้นานระยะหนึ่ง และมีการผลิตออกมาในเชิงพาณิชย์แล้วว่า แบตเตอรี่เทอร์นารีแบบโซลิดสเตตและแบตเตอรี่เทอร์นารีแบบลิควิดสเตท อาจมีราคาที่ใกล้เคียงกัน

ก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายนของปีที่แล้ว นายซุนระบุว่า เขาจะยังคงเสริมสร้างทีมวิจัยและพัฒนา (R&D) แบตเตอรี่เจนเนอเรชั่นต่อไป เช่น แบตเตอรี่โซลิดสเตตที่ใช้วัสดุดิบแบบใหม่ โดย “แบตเตอรี่โซลิดสเตตซัลไฟด์เป็นหนึ่งในแนวทางที่ว่า” เมื่อมองไปข้างหน้า ซุนเชื่อว่าในช่วงปี 2027 ถึง 2029 จะเป็นช่วงที่สามารถทำการสาธิตใช้งานแบตเตอรี่โซลิดสเตตซัลไฟด์ที่จะใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าระดับกลางถึงระดับสูง และตั้งแต่ช่วงปี 2030 ถึง 2032 แบตเตอรี่โซลิดสเตตซัลไฟด์จะเข้าสู่ช่วงขยายตัว และจะถูกใช้ในรถยนต์ไฟฟ้ากระแสหลักได้

Lian Yubo หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ และหัวหน้าทีมวิศวกรยานยนต์ของ BYD และคณบดีสถาบันวิจัยวิศวกรรมยานยนต์ ได้สะท้อนความรู้สึกในทำนองเดียวกัน โดยคาดการณ์ว่า “การทำให้สำเร็จภายในสามปีนั้น อาจจะเป็นเรื่องยาก แต่เวลาห้าปีดูจะสะท้อนความเป็นจริงมากกว่า”

นอกจากนี้ Lian ยังอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า อันเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ต้นทุนและความสามารถในการควบคุมวัสดุ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตจะไม่ถูกกำจัดออกไปจากตลาดภายใน 15 ถึง 20 ปีข้างหน้า “เพราะแบตเตอรี่แบบโซลิดสเตตส่วนใหญ่จะถูกใช้ในรถยนต์ระดับไฮเอนด์ ซึ่งจะเข้ามาเสริมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต ที่ถูกนำไปใช้ในยานพาหนะในระดับต่างๆ”

บทบาทของ AI ในการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่
ยุค AI ได้นำมาซึ่งการส่งเสริมงานวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยช่วยให้สามารถค้นหาและวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณมหาศาลในเชิงลึกได้ ตามที่ Ouyang Minggao นักวิชาการจากสถาบันวิทยาศาสตร์จีนและประธาน China All-Solid-State Battery Industry-University-Research Collaborative Innovation Platform (CASIP) กล่าว โดย Ouyang คาดการณ์ว่า ประสิทธิภาพการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ สามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้หนึ่งถึงสองเท่า ทำให้ประหยัดต้นทุนการวิจัยและพัฒนาได้ 70% ถึง 80% เลยทีเดียว

CASIP ก่อตั้งขึ้นร่วมกัน โดยยักษ์ใหญ่ด้านแบตเตอรี่ เช่น CATL และ BYD ในเดือนมกราคม ปี 2024 ที่ผ่านมา โดยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาด้านวิชาการ และอุตสาหกรรมของแบตเตอรี่โซลิดสเตตทั้งหมดในประเทศจีน ซึ่งมีนัยยะว่า หากทั้งสองบริษัทประสบความสำเร็จในการพัฒนาแบตเตอรี่ชนิดนี้หรือชนิดใหม่ได้ วงการยานยนต์ไฟฟ้าของโลก ก็น่าจะมีโอกาสได้ใช้งานแบตเตอรี่แบบใหม่ในรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเองด้วย เพราะทั้งสองบริษัท ยังมีอีกบทบาทหนึ่งที่เป็น supplier แบตเตอรี่ ให้กับหลายบริษัททั่วโลก ที่นอกจากจะนำไปสู่การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิตในทางอ้อมอีกด้วย แต่เมื่อถึงตอนนั้น ก็ต้องมาดูกันอีกทีว่า ค่ายรถยนต์จาญี่ปุ่นอย่างฮอนด้า หรือ BYD และพันธมิตร จะสามารถผลิตแบตเตอรี่ออลโซลิตสเตทออกมาใช้ในเชิงพาณิชย์กับรถยนต์ไฟฟ้าของตัวเอง ได้เร็วแค่ไหน และจากข้อมูลเบื้องต้น ไทม์ไลน์ของทั้งสองกลุ่ม ก็อยู่ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกันด้วย แบตเตอรี่ที่ใช้งานในปัจจุบัน ก็มีแนวโน้มที่จะถูกลงมากขึ้นไปอีก