วันนี้ 8 ธันวาคม บริษัทร่วมทุน GAC-Toyota ได้ออกมาประกาศว่า bZ3X ซึ่งเป็น “รถ SUV ไฟฟ้าล้วน ยุคใหม่รุ่นแรกของบริษัท ได้เปิดให้สั่งจองทางออนไลน์อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 430 Air+, 520 Pro+ และ 620 Max ในราคาจำหน่ายล่วงหน้า อยู่ที่ 100,000 – 200,000 หยวน (หรือ 468,500-937,000 บาท) โดยจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคมปีหน้า 2025 โดยลูกค้าสามารถชำระเงินมัดจำ 2,000 หยวน (275 ดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อรับมอบรถยนต์ก่อนใคร
การออกแบบภายนอกของ bZ3X ใช้ภาษาการออกแบบที่บริษัทเรียกว่า “สุนทรียศาสตร์ไฟฟ้าล้วน” โดยมีไฟหน้าแบบแยกส่วน มือจับประตูเป็นแบบซ่อนตัวยู่ ซันรูฟแบบพาโนรามิกขนาด 1.14 ตร.ม. ครอบกระจกมองข้าง สเกิร์ตข้าง และคิ้วซุ้มล้อสีดำ ที่น่าสนใจก็คือไฟวิ่งตอนกลางวันได้รับการออกแบบด้วยแถบไฟคริสตัลเรียวบาง ที่ประกอบด้วยไฟ LED 112 ดวง พร้อมไฟตอบสนอง 8 รูปแบบการทำงาน เช่น การสตาร์ท ดับเครื่อง ชาร์จไฟ และระบุตำแหน่งรถ
ผู้บริโภคสามารถเลือกสีภายนอกได้ 7 สี ได้แก่ สีขาว Sky White, สีขาว Pure Snow White, สีเทา Distant Mountain Gray, สีเงิน Bright Moon Silver,สีดำ Vast Black,สีชมพู Sky Pink และสีทอง Cyber Gold รถยนต์รุ่นนี้มีล้ออัลลอยขนาด 18 หรือ 19 นิ้ว ให้เลือกตามรุ่นย่อยที่ซื้อ
ขนาดของ GAC-Toyota bZ3X คือ ยาว 4,600 มม กว้าง 1,875 มม สูง 1,645 มม. ระยะฐานล้อ 2,765 มม. ใกล้เคียงรุ่น bZ4X น้ำหนักบรรทุกของรถเปล่า ที่ประกาศโดยกระทรวงอุตสาหกรรม MIIT ของจีน คือ 1,690 กก.
จุดเด่นอีกประการหนึ่งของรถยนต์รุ่นนี้ คือระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง Momenta 5.0 (ADAS) ซึ่งขับเคลื่อนโดยชิป Nvidia DRIVE AGX Orin X และทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ 27 ตัว รวมถึงกล้องความละเอียดสูง 11 ตัว เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว เรดาร์คลื่นมิลลิเมตร 3 ตัว และไลดาร์ 1 ตัว โดยไม่ต้องพึ่งพาแผนที่ความละเอียดสูง รองรับระบบ ADAS มากกว่า 25 แบบ เช่น ระบบช่วยจำกัดความเร็ว ระบบช่วยบอกสัญญาณไฟจราจรด้านหน้า ระบบนำรถเข้าจอดรถด้วยรีโมท และระบบเตือนจุดอับสายตา เป็นต้น
GAC-Toyota bZ3X ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้ารุ่น TZ175XSAY501 ที่ผลิตโดบริษัท Guangzhou Nidec Auto Drive System Co., Ltd. ให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ (201 แรงม้า) จับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟตขนาด 50.03 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งให้ระยะทางการขับขี่สูงสุด 430 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) แบตเตอรี่มีน้ำหนักถึง 377.4 กก. โดยมีตัวเลือกที่ให้ระยะทางที่ 520 กม. และ 620 กม. ตามรุ่นย่อยที่เลือก เวลาในการชาร์จแบบด่วนอย่างเป็นทางการคือ 24 นาทีในการชาร์จจากความจุ 30% เป็น 80%
ภายในห้องโดยสารมาพร้อมพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันสองก้าน จอแสดงผลการขับขี่เป็นแบบ LCD ขนาด 8.8 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลมกลางแบบลอยตัวเป็นขนาด 14.6 นิ้ว ขับเคลื่อนด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155 ที่รองรับระบบสั่งการด้วยเสียงด้วย
ที่นั่งแถวหลังมีช่องปรับอากาศมาให้ด้วย มาพร้อมระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย และที่วางแขนแบบพับได้ ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร 32 สี ถุงลมนิรภัย SRS (Supplemental Restraint System) 7 ตำแหน่ง และระบบเสียง Yamaha พร้อมสำโพง 11 ตัว นอกจากนี้ เบาะนั่งด้านหน้าสามารถพับราบได้ ด้วยการกดปุ่มเท่านั้น
ในเมืองไทย TOYOTA เคยทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% ไปแล้ว ด้วยการนำเข้ารุ่น bZ4X จากประเทศญี่ปุ่น ในราคาที่สูงถึง 1.8 ล้านกว่าบาท ในจำนวนจำกัดเพียงไม่เกิน 50 คัน แต่ด้วยปัญหาทางเทคนิคของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกนี้ ที่เป็นข่าวไปทั่วโลก จึงอาจจะทำให้ TOYOTA ไม่มั่นใจที่จะผลักดัน bZ4X ให้ไปได้ไกลกว่านั้น การกลับมาพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในราคาเพียง 4 แสนกว่าบาทในประเทศจีน จึงทำให้ความเคลื่อนไหวของ TOYOTA ในตลาดอีวี กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง เพราะเป็นการพิสูจน์ว่า TOYOTA สามารถทำราคาจำหน่ายได้ดีเช่นกัน และอาจจะปูทางไปสู่การเจาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทยอีกครั้ง