เรียกว่า สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนไทยไม่น้อย เมื่อในงาน Thailand International Motor Show ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา วินฟาสต์ค่ายรถยนต์สัญชาติเวียดนาม ได้นำรถยนต์รุ่นต่างๆ มาแสดงในงาน พร้อมแถลงข่าวแผนการทำตลาดรถยนต์ในเมืองไทย โดยเฉพาะการเข้ามาเจาะตลาดด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงที่สุดในขณะนี้ จนหลายคนอาจจะตั้งคำถามว่า ค่ายรถยนต์จากเวียดนามรายนี้ จะไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เพราะในระดับสากล Vinfast เอง ก็แทบจะเอาตัวไม่รอด เพราะมี การขาดทุนสะสม เป็นจำนวนเงินมหาศาล และล่าสุด คำถามนั้น ก็มีคำตอบแล้ว เมื่อ Vinfast ตัดสินใจชะลอแผนการดำเนินธุรกิจในเมืองไทย ด้วยเหตุผลที่ว่า การแข่งขันในตลาดรถยนต์ของเมืองไทยนั้น รุนแรงจนเกินไป อีกสัญญาณหนึ่งที่เห็นได้ชัด ก็คือการถอนตัวออกจากงานแสดงรถยนต์ Big Motor Sale 2024 ที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ โดยทางบริษัทเอง ก็ได้แจ้งแผนการชะลอการทำธุรกิจในเมืองไทย ให้กับตัวแทนจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย และพร้อมรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับตัวแทนจำหน่าย
สาเหตุหลัก ของการชะลอ การดำเนินธุรกิจในเมืองไทยของ Vinfast มาจาก 2 เหตุผลหลัก คือหนึ่ง การแข่งขันในด้านราคา ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะจากค่ายรถยนต์จีน จนบริษัทประเมินว่า ไม่สามารถทำการแข่งขันได้ และสอง โมเดลธุรกิจ การให้เช่าใช้แบตเตอรี่ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ก็ไม่เหมาะกับตลาดเมืองไทย ตามที่ตัวแทนจำหน่าย ได้เคยท้วงติงไปแล้ว ทำให้แผนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า vf5 และรถยนต์รุ่นต่างๆต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด แม้ว่าบริษัท จะได้เคยพาสื่อมวลชนไทย ไปเยี่ยมชมสายการผลิตที่โรงงานของ Vinfast ในประเทศเวียดนาม รวมถึงการขับทดสอบเพื่อสร้างความมั่นใจแล้วก็ตาม โดยผู้บริหาร ระดับสูงชาวเวียดนาม ยังถูกเรียกกลับประเทศ แล้วให้ผู้บริหารชาวไทย เข้ามาดูแลต่อ ซึ่งเดิมที สาเหตุที่ทำให้ Vinfast ต้องการเข้ามาเจาะตลาดรถยนต์ในเมืองไทย ก็เนื่องมาจาก เมืองไทยเป็นตลาดขนาดใหญ่ของภูมิภาค และตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่นี่ มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งทำให้บริษัทเชื่อว่า การที่สามารถเข้ามา สร้างฐานลูกค้าในเมืองไทยได้ จะเป็นการเริ่มต้นที่ดี และมั่นคง โดยก่อนหน้านั้น Vinfast ตั้งเป้ายอดขายไว้ว่า จะสามารถทำได้ที่ 6,000 คันต่อปี และจะทำยอดขายเพิ่มขึ้น ไปเป็น 20,000 คันต่อปี ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปี จากการที่ได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายไปแล้วถึง 15 ราย และมีแผนขยายไปเป็น 30 ราย ภายในปี 2024 นี้ แต่ทุกอย่าง ก็ไม่เป็นไปตามที่วางแผนเอาไว้ การชะลอแผนการลงทุน และดำเนินธุรกิจในเมืองไทยของ Vinfast คงไม่ได้สร้างความแปลกประหลาดใจ ให้กับคนในวงการยานยนต์ของเมืองไทยเท่าใดนัก เพราะแม้แต่ ผู้เล่นสำคัญที่มีความแข็งแกร่งในด้านต่างๆ อย่างค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่น ก็ยังประสบกับปัญหในการจำหน่าย ในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ จนบางรายถึงกับ ต้องถอนตัวกลับประเทศไปตามที่เป็นข่าว อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Vinfast เอง ยังไม่ได้ออกมายืนยันว่า ในอนาคตบริษัทจะกลับมาทำตลาดในเมืองไทยอีกหรือไม่ แต่ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ ก็คงทำให้คนไทยไม่เชื่อมั่นในตัวแบรนด์ และบริษัทอีกต่อไป การจะกลับเข้ามาทำตลาดอีกครั้ง คงเป็นเรื่องที่ยาก อีกอย่างการชะลอหรือยกเลิกแผนงานในเมืองไทย ก็คงกระทบกับความเชื่อมั่นของลูกค้าในตลาดอื่นๆของภูมิภาคนี้ด้วย