Drive สื่อยานยนต์จากประเทศออสเตรเลีย ได้นำเสนอข่าวแบบ exclusive เกี่ยวกับการปรับโฉม Ford RANGER และ Ford Everest เป็นรุ่นใหม่ไม่เนอร์เชนจ์ ที่ระบุว่าจะเกิดขึ้นภายใน 2 ปีจากนี้ ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนเจนเนอเรชั่นไปเป็นรุ่นใหม่หมดหรือ ALL-new ภายในสิ้นทศวรรษนี้ หรือก่อนปี 2030 โดยเป็นการอ้างอิงจากข้อมูลที่ทีมงาน Drive ได้ไปเห็นมา
สื่อออสเตรเลียระบุว่า ทั้ง Ford Ranger uteและFord Everest รุ่นปรับโฉมใหม่จะลงสู่โชว์รูมในประเทศออสเตรเลียในปี 2026 ซึ่งเป็นแผนงานที่ทีมงาน Drive ได้ไปเห็นและรับทราบมาก่อนที่จะเลิกทำตลาดเจนเนอเรชั่นนี้ในปี 2029 หรือ 2030 ซึ่งคาดว่า เจนเนอเรชั่นต่อไป จะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับรถกระบะ full size F-150 ที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกามากขึ้น นั่นหมายความว่า เวลาในการทำตลาด 7 ปีของFord Ranger เจนเนอเรชั่นปัจจุบัน จะสั้นกว่าอายุการทำตลาด ของเจนเนอเรชั่นก่อนหน้าอย่างมาก ซึ่งอยู่ที่ 11 ปี และสั้นกว่าเวลาในการทำตลาเฉลี่ย 10 ปีของรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเบาโดยทั่วไปด้วย
ทีมงาน Drive ยอมรับว่า ในเวลานี้ ทีมงานมีข้อมูลเกี่ยวกับFord Ranger และ Everest รุ่นปรับปรุงใหม่ไม่มากนัก และก็ยังไม่มีภาพ spy shot ของของรถยนต์ทั้งสองรุ่นออกมาด้วย
Ford Ranger เจนเนอเรชั่นก่อนได้รับการปรับโฉมใหม่ 2 ครั้งด้วยกันคือในปี 2015 และ 2018 โดยมีการปรับเปลี่ยนทั้งภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีตั้งแต่ระดับเล็กน้อยไปจนถึงการปรับเปลี่ยนอย่างเต็มรูปแบบ
ภาพจำลองที่เห็นอยู่นี้เป็นเพียงการคาดการณ์ของทีมงานเท่านั้น และที่แสดงให้เห็นว่า Ranger รุ่นปรับปรุงใหม่ มีรูปลักษณ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกระบะขนาดใหญ่ Ford F-150 ว่าจะมีลักษณะหน้าตาเป็นอย่างไร
แผนงานที่Drive ได้เห็นมานั้น ระบุว่า Ranger และEverest รุ่นปรับโฉมใหม่จะวางจำหน่ายในปี 2026 (MY26) ซึ่งอาจบอกเป็นนัยว่ารถรุ่นนี้จะมาถึงโชว์รูมในออสเตรเลียเป็นครั้งแรกในปี 2026 หรือเร็วที่สุดคือช่วงเดือนท้ายๆของปี 2025 นั่นอาจจะมีนัยยะว่า มีความเป็นไปได้สูง ที่คนไทยอาจจะได้เห็นการเปิดตัวในครึ่งหลังของปีหน้า 2025
รถเหล่านี้จะเข้าโชว์รูมในประเทศออสเตรเลียในช่วงที่รถประเภทกระบะแห่เปิดตัวกัน ที่คาดว่าจะมีการเปิดตัวToyota HiLuxและNissan Navara โฉมใหม่ ในอีกสองปีข้างหน้าด้วย รวมถึง รถกระบะรุ่นใหม่จาก LDV ซึ่งคาดว่าจะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเท่านั้น
Ford Ranger แบบปลั๊กอินไฮบริดได้รับการยืนยันแล้วว่าจะเข้าสู่โชว์รูมในออสเตรเลียในช่วงต้นปี 2025 โดยมีการออกแบบภายนอกและภายในเหมือนกับโฉมปัจจุบัน
แผนงานการผลิตที่เผยแพร่ต่อสาธารณะและDrive ได้เห็นมา ชี้ว่า Ford Ranger และ Everest รุ่นปัจจุบัน รวมถึงVolkswagen Amarok ที่พัฒนาร่วมกัน อาจยุติการผลิตเร็วที่สุดในปี 2029 หรือ 2030 สำหรับตลาดที่อยู่นอกอเมริกาเหนือ
เป็นที่คาดหวังกันอย่างกว้างขวางว่า Ford Ranger เจนเนอเรชันถัดไป (รวมถึง Everest ที่ใช้แพลตฟอร์มร่วมกัน) จะใช้แพลตฟอร์มแบบ Body on frame ระดับโลกแบบใหม่ที่จะใช้ร่วมกับ F-150 รุ่นต่อไป ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงปลายทศวรรษนี้เช่นกัน
“องค์ประกอบของแพลตฟอร์ม Ranger จะถูกบูรณาการเข้ากับสถาปัตยกรรมที่มีความยืดหยุ่น Body on Frame ที่ใช้ทั่วโลกเพียงหนึ่งเดียวของ Ford ซึ่งจะมีการนำไปใช้นอกตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแนวทางที่ Ford ได้เคยประกาศไว้มาแล้วในปี 2019
“ระบบส่งกำลังบางประเภท… ซึ่งปัจจุบันออกแบบในออสเตรเลีย จะย้ายไปยังโรงงานผลิตระบบส่งกำลังอื่นๆทั่วโลก ซึ่งจะช่วยลดความซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้”
นั่นหมายความว่า Ford Ranger ในโชว์รูมในปัจจุบัน จะเป็นรุ่นสุดท้ายที่ได้รับการออกแบบและผลิตในออสเตรเลียเป็นหลัก
รายงานระบุว่าการผลิต Ford Ranger สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา มีจะถูกยุติลงในเดือนเมษายนปี 2031 ตามข้อมูลที่มีการเผยแพร่บนโลกออนไลน์มาก่อน
อย่างไรก็ตาม ภายใต้สภาวะการแข่งขันในปัจจุบัน แผนงานการเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ของค่ายดั้งเดิมที่ครองตลาดในไทยมานาน อาจจะไม่ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ใช้รถกระบะปิกอัพมากเหมือนเมื่อหลายปีก่อน เพราะตอนนี้ เงื่อนไขในการแข่งขัน ได้แตกต่างไปจาเดิมมาก หลังจากที่มีผู้เล่นจากจีนเข้ามาชิงส่วนแบ่งทางการตลาด โดยมาพร้อมทางเลือกขุมพลังใหม่ที่มีทั้งระบบไฮบริดและไฟฟ้าแบตเตอรี่ ซึ่งได้สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับตลาด และกำหนดเงื่อนไขในการแข่งขันให้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เหมือนที่ได้ทำไปแล้วในตลาดรถยนต์นั่ง ซึ่งหาก Ford ต้องการมีที่ยืนในตลาดที่มั่นคง Ranger และ Everest ใหม่ อาจจะต้องมีอะไรใหม่ มากไปกว่าการออกแบบรูปโฉมหรือฟังค์ชั่นการใช้งานที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น