กรุงเทพ – 21 กุมภาพันธ์ 2567 – บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย เผยถึงโมเดลที่ทำให้ เอ็มจี สามารถสร้างยอดขายทั่วโลกกว่า 1.06 ล้านคัน และมากกว่า 63,000 คัน ในประเทศไทย ด้วยการสร้างความเป็นไปได้ของการมอบความคุ้มค่า สร้าง “จุดเปลี่ยน” สำคัญให้กับวงการยานยนต์ รวมถึงการเปิดเซกเมนต์รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก หรือ B-SUV ที่ย้อนกลับไปราว ๆ 10 ปีที่แล้ว ยังเป็นตลาดที่การแข่งขันไม่สูงมากนัก และมีแบรนด์เข้ามาทำตลาดเพียงไม่กี่แบรนด์ จนในปี ค.ศ. 2017 เอ็มจี ได้เข้ามาเป็นหนึ่งใน “ผู้เล่น” ของตลาดนี้ โดยส่ง MG ZS มาแจ้งเกิดในฐานะ “สมาร์ทเอสยูวี” หนึ่งเดียวของตลาดในขณะนั้น ที่มีระบบปฏิบัติการอัจฉริยะอย่าง i-SMART สั่งการด้วยเสียงภาษาไทย และวางตำแหน่งให้เป็นรถเอสยูวีที่มีสเปกครบครันในราคาเข้าถึงได้ด้วยความทันสมัย เทคโนโลยีใหม่ และการกล้าที่จะฉีกจากทุกตัวเลือกที่มีในตลาด ส่งผลให้ MG ZS กลายเป็นโมเดลที่ทำให้ เอ็มจี ขึ้นแท่น “ผู้เล่นหลัก” ในตลาดเอสยูวีของไทย และทำให้เซกเมนต์รถอเนกประสงค์ขนาดเล็กกลายเป็นสมรภูมิเรดโอเชี่ยนที่มีการเติบโตหลายเท่าตัวจวบจนทุกวันนี้ ทั้งยังทำให้รถเอสยูวีกลายเป็นรถรุ่นยอดนิยมของคนไทย
MG ZS สมาร์ทเอสยูวีรายแรกของไทยที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้อุตสาหกรรมยานยนต์
“ตัวถังใหญ่ กว้าง มาพร้อม i-SMART มีหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามาขนาดใหญ่ ออฟชั่นที่ให้มาแบบจัดเต็มในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย” คือบทสรุปของ MG ZS ที่เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2017 กับผลงานที่ทำให้ MG ZS เป็นโมเดลแจ้งเกิดของ เอ็มจี โดยสามารถสร้างสถิติยอดขายเป็นอันดับต้น ๆ ของตลาด B-SUV ด้วยความครบครันของสเปกที่ตอบโจทย์อย่างครบเครื่อง รอบด้าน ผนวกกับดีไซน์ที่ออกแบบมาเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ให้ทั้งความสปอร์ต พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ทำให้ MG ZS เป็นผู้ปลุกกระแสความนิยมรถเอสยูวีในไทย และนำพาแบรนด์ เอ็มจี ขึ้นอันดับ 3 ของยอดขายรวมทั้งปีในกลุ่ม B-SUV ปี ค.ศ. 2018 ด้วยยอดขายรวมสูงถึงกว่า 14,669 คัน และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ยอดขายโดยรวมของแบรนด์ เอ็มจี โตขึ้นแบบก้าวกระโดด นอกจากนี้ MG ZS ถือเป็นอีกหนึ่งผลงานความภาคภูมิใจของ เอ็มจี ที่สามารถคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี “Car of the Year” 2 ปีซ้อน ในปี ค.ศ. 2018 – 2019 มาครองได้อีกด้วย จนมาถึงในปี ค.ศ. 2020 เอ็มจี ได้ขยับมาตรฐานของรถเอสยูวีสู่อีกขั้น ทำให้ MG ZS สมาร์ทยิ่งขึ้น ด้วยการเป็นรุ่นแรกของ เอ็มจี ที่มีระบบ Emergency Call จากตัวรถไปยังเบอร์โทรที่ได้ มีการตั้งค่าไว้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีในเวลาฉุกเฉิน นอกจากนี้ ยังได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดระดับ 5 ดาว จากการทดสอบการชน ASEAN NCAP พิสูจน์ให้เห็นว่า MG ZS เป็นรถยนต์คุณภาพที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดในทุกรุ่นย่อย
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ รวมระยะเวลากว่า 7 ปี MG ZS ยังคงครองใจผู้บริโภคชาวไทย พิสูจน์ด้วยยอดขายรวมสะสมกว่า 58,623 คัน (ข้อมูล MG ZS รุ่นน้ำมันอย่างเดียว ณ เดือนธันวาคม ค.ศ. 2023) ตอกย้ำความสำเร็จระดับสากลของ MG ZS ด้วยรถยนต์ที่ถูกผลิตและส่งออกกว่า 1 ล้านคัน (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม ค.ศ. 2023) จาก SAIC Motor Corporation ไปยังประเทศ ต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี เยอรมนี ออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม เป็นต้น
สู่จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ MG ZS EV เปิดตลาดไฟฟ้า นำพาคนไทยเข้าสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้าเป็นแบรนด์แรก
ด้วยแนวทางการดำเนินธุรกิจของ เอ็มจี ที่มุ่งพัฒนายนตรกรรมที่ครอบคลุมในทุกรูปแบบการขับเคลื่อน เพื่อให้สามารถตอบสนองกับอุปทานและไลฟ์สไตล์การใช้รถของผู้บริโภคในประเทศ ผนวกกับเป้าหมายใหญ่ในการนำพาประเทศไทย สู่ “โอกาส” ของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เทียบชั้นอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ในปี ค.ศ. 2019 เอ็มจี ได้สร้างจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ ด้วยการเป็นแบรนด์แรกที่เข้ามาทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยการส่ง MG ZS EV เข้ามาเปิดตลาด ด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการให้คนไทยสามารถเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าที่เพียบพร้อมไปด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีอันทันสมัย มาตรฐานระดับสากล ในราคาที่เข้าถึงได้ เป็นรถที่จุดประกายให้คนไทยเห็นว่าการใช้งานรถไฟฟ้าเป็นเรื่องที่ “ง่าย” และใช้งานได้ทั่วประเทศ ส่งผลให้ MG ZS EV ขึ้นแท่นเป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมของแบรนด์ เอ็มจี โดยสามารถสร้างยอดขายหลังการเปิดตัวในปีแรกได้มากกว่า 1,000 คัน และมียอดส่งออกไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบันแล้วกว่า 156,000 คัน (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม ค.ศ. 2023) ทั้งยังเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกที่ได้พิสูจน์สมรรถนะการขับขี่ที่แท้จริงบนเส้นทางต่าง ๆ หลากหลายรูปแบบในประเทศไทยผ่านภารกิจ EV Marathon ตลอดระยะเวลาต่อเนื่อง 7 วัน รวมทั้งหมด 4,880 กิโลเมตร และยังได้รับรางวัลการันตีคุณภาพและความไว้วางใจจากทั่วโลก อาทิ
รางวัล Top EV Sales Award 2019 ผู้จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้ารวมสูงสุด ประจำปี 2562 จัดโดย สมาคมผู้สื่อข่าวรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไทย
รางวัล Product of the Year Awards 2020 สุดยอดสินค้าแห่งปี 2563 ประเภทรางวัล “ยานยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี” ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ยานยนต์ไฟฟ้า จัดโดย นิตยสาร Business+ ร่วมกับวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล
รางวัล รถยนต์แห่งปี (Car of the Year 2022) และ รางวัล Best Value Electric Car จากทีมงาน Driving Electric
รางวัล Best Family Electric Car จาก CARBUYER BEST CAR AWARD 2023
รางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี “Car of The Year 2023” ประเภทรางวัล The Most Valuable EV Car
และจากการเปิดตัวรถไฟฟ้าของ เอ็มจี ทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมยานยนต์ไฟฟ้า และมีการขยายตัวของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุมในหลากหลายมิติ โดย เอ็มจี ถือเป็นแบรนด์ที่มีเครือข่ายสถานีชาร์จไฟ เป็นของตนเองภายใต้ชื่อ MG SUPER CHARGE มากกว่า 146 แห่ง เพื่อทำให้ผู้ใช้งานรถไฟฟ้า เอ็มจี มั่นใจ ในการใช้รถทั่วประเทศอย่างไร้กังวล
ตอบโจทย์คนไทย เพิ่ม “ไฮบริดเอสยูวี” เข้ามาเป็นตัวเลือก
นอกจากตลาดรถไฟฟ้าที่ เอ็มจี เป็นผู้บุกเบิกและทำตลาดอย่างจริงจัง ในทางกลับกัน เอ็มจี ยังคงให้ความสำคัญกับตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกควบคู่กันไปด้วย จากการวิเคราะห์พฤติกรรมและ ความต้องการของผู้บริโภค จึงเป็นที่มาของการนำเสนอทางเลือกให้กับคนไทย ด้วยการเปิดตัว MG VS HEV ในปี ค.ศ. 2022 เพื่อเพิ่มไลน์อัพในกลุ่ม B-SUV ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น กับจุดเด่นของการเป็น “สปอร์ตไฮบริดเอสยูวี” ที่ขับสนุกเร้าใจ ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว VTi-TECH พร้อมขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ MG VS HEV มีพละกำลังสูงสุดที่ 177 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ E-CVT นอกจากนี้ ยังเป็นครั้งแรกของรถยนต์ในกลุ่ม B-SUV ที่มี Dual Widescreen Cockpit ที่ให้จอ Widescreen ขนาด 12.3 นิ้ว ติดกัน 2 จอ พร้อมจุดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่ใช้ภาษาการออกแบบรูปโฉมรถเอสยูวีแนวใหม่กับกระจังหน้าในรูปแบบ Electrified Matrix Grille Design ทำให้ MG VS HEV เป็นรถยนต์ที่มีความครบเครื่องทั้งในเรื่องรูปลักษณ์และสมรรถนะ
เรียกได้ว่า MG ZS คือ หนึ่งในโมเดลที่สร้าง “จุดเปลี่ยน” ให้กับแบรนด์ เอ็มจี ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และเนื่องในโอกาสที่ปีนี้ เอ็มจี ในฐานะโกลบอลแบรนด์จะมีอายุครบ 100 ปี MG ZS ถูกวางให้เป็นหนึ่งโมเดลสำคัญ ที่จะสร้างความสำเร็จบทใหม่ ที่ต้องติดตามความเคลื่อนไหวเร็วๆนี้