ก่อนหน้านี้ Toyota ได้พยายามสื่อสารกับผู้ใช้รถยนต์ทั่วโลกมาโดยตลอด เกี่ยวกับข้อเสียของการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ที่การผลิตแบตเตอรี่ จะส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่ารถใช้น้ำมัน ในขณะเดียวกัน ก็เล่นอีกบทบาทหนึ่ง ด้วยการออกมาแถลงข่าว ว่าบริษัท เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่างๆในอนาคต จนทำให้เกิดความสับสน กับผู้รับข่าวสารมาโดยตลอด ถึงท่าทีของ Toyota แน่นอนว่า หลายคนมองว่า มันเป็นเพียงการพยายามซื้อเวลาออกไปก่อน เพราะบริษัทเอง ก็ยังตามหลังคู่แข่งอื่นๆ ในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ แถมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก อย่าง bZ4X ก็มีปัญหาตั้งแต่การเปิดตัว ทำให้ต้องทำการเรียกรถคืนทุกคันทั่วโลก เพื่อเข้ารับการแก้ไขซ่อมแซม ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าอีกรุ่นหนึ่ง ที่ทำตลาดในประเทศจีน คือรุ่น bZ3 ยังต้องพึ่งพาแบตเตอรี่จาก BYD ที่เป็นคู่แข่งอันดับ 1 ในตลาดอีวี นั่นจึงทำให้ Toyota ต้องใช้กลยุทธ์สร้างความแตกต่าง ด้วยการนำเสนอ แผนงานการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่แบบ solid state ที่เหนือกว่าแบตเตอรี่แบบ lithium ion ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน ไปจนถึงการใช้พลังงานไฮโดรเจน อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้น Toyota มองว่า อาจจะต้องใช้เวลา 8-9 ปี กว่าที่จะสามารถนำเอาแบตเตอรี่ solid state มาใช้ได้ในเชิงพาณิชย์ ช้ากว่าที่ Nissan ได้เคยประกาศเอาไว้เสียอีก นั่นทำให้ผู้เชี่ยวชาญในตลาดรถยนต์ มองว่า Toyota อาจจะต้องสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดก้อนโต ให้กับค่ายรถยนต์จากจีน หรือแม้แต่ Tesla จนถึงกับที่อาจจะส่งผลต่อความมั่นคงของบริษัทในอนาคต หากรถยนต์ไฟฟ้า ได้รับความนิยมไปทั่วโลกมากกว่านี้ อีกทั้งรัฐบาลของประเทศต่างๆ ก็มีนโยบายสนับสนุนแนวทางนี้มาโดยตลอด นั่นทำให้ Toyota จำเป็นจะต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้สามารถกลับเข้ามาในเกม ที่ตัวเองมีข้อได้เปรียบ เหมือนที่มีในอดีตที่ผ่านมา และดูเหมือนว่า Toyota อาจจะสามารถทำในสิ่งที่ว่าได้แล้ว เมื่อล่าสุด สำนักข่าวรอยเตอร์ส ได้รายงานว่า ในระหว่างการประชุมทางด้านการลงทุนที่ประเทศอินเดีย ผู้บริหาร Toyota Motor ได้เปิดเผยว่า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า บริษัทเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ที่ใช้แบตเตอรี่แบบ solid state พร้อมกันทั่วโลก ซึ่งมีข้อดี คือใช้เวลาในการชาร์จไฟได้เร็วกว่า อายุการใช้งานนานกว่า ให้ระยะทางวิ่งที่ไกลกว่า เรียกว่า ดีกว่าแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอออนแทบจะทุกด้าน แต่ในเรื่องของราคา ต้องจับตาดูกันต่อไป
เมื่อปีที่ผ่านมา Toyota และ Idemitsu Kosan บริษัทกลั่นน้ำมันยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น ได้ประกาศจับมือกัน ในการพัฒนาและผลิตแบตเตอรี่ solid state ที่คาดว่า จะสามารถนำมาใช้ได้ในเชิงพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบ ในปี 2027-2028 แต่ล่าสุด ดูเหมือนว่า TOYOTA จะทำได้เร็วกว่านั้น เมื่อวิกรม กูลาติ นายใหญ่ของ Toyota Kirloskar Motor ประเทศอินเดีย ได้ประกาศในระหว่างการประชุมสุดยอดในด้านการลงทุน Vibrant Gujarat Global Summit ซึ่งจัดขึ้นโดยรัฐบาลอินเดีย เพื่อดึงดูดการลงทุนในด้านยานยนต์ไฟฟ้า ว่าทาง Toyota จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ที่ใช้แบตเตอรี่แบบ solid state ในอีก 2-3 ปีข้างหน้านับจากนี้ ที่สามารถให้ระยะทางวิ่งได้ไกลถึง 1,200 กิโลเมตร ด้วยการชาร์จไฟ เพียง 10 นาทีเท่านั้น และยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน กว่าแบตเตอรี่ที่นิยมใช้ในปัจจุบันด้วย นอกจากนั้น Suzuki Motor ยังได้เปิดเผยอีกว่า บริษัทสาขาในอินเดีย Maruti Suzuki ซึ่งเป็นพันธมิตรกับ Toyota จะทำการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท ไปจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นและยุโรป ซึ่งในปัจจุบัน ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอินเดีย มีสัดส่วนอยู่เพียง 2% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในปีที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลอินเดีย มีเป้าหมายที่ต้องการให้ตลาดนี้ ขยายตัวขึ้นไปเป็น 30% ภายในปี 2030 หรืออีกเพียง 6-7 ปีข้างหน้า โดยรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมของอินเดีย คาดหวังว่า อินเดียจะมีรถยนต์ไฟฟ้า อย่างน้อย 10 ล้าน วิ่งบนถนนในปี 2030
สำหรับแผนงานของ Toyota ในประเทศอินเดีย เกี่ยวกับแบตเตอรี่ solid state ทาง Gurati เปิดเผยว่า Toyota มีทางเลือกที่ยั่งยืนหลากหลายทางเลือก ที่อาจจะนำเสนอแตกต่างกันไป ในแต่ละประเทศ ตลาด และความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย แต่สำหรับตอนนี้ ในประเทศอินเดีย รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงยืดหยุ่น หรือ Flex Fuel และรถที่่รองรับแก๊สโซฮอล์ เป็นทางเลือกของประชาชนในแบบที่ไม่ต้องคิดให้มาก
การออกมาประกาศแผนงานของ Toyota ในการประชุมสำคัญ ที่จัดขึ้นโดยหน่วยงานระดับรัฐบาล แม้ว่าจะไม่มีการให้รายละเอียดมากไปกว่านั้น แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าของโครงการ ที่เดินหน้าไปได้เร็วกว่าที่หลายคนคาดการณ์เอาไว้ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน Toyota เอง ก็ยังพูดถึงช่วงเวลาในการเปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่ solid state ที่จะต้องรอ ไปอีกนาน 4-5 ปีเป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ตาม เรายังไม่สามารถยืนยันอะไรไปได้มากกว่านี้ ว่านั่นคือแผนงานของ Toyota ที่มีความแน่นอนชัดเจนแล้ว หรือเป็นเพียงการพยายามสร้างความมั่นใจให้กับตลาด นักลงทุน ไปจนถึงกลุ่มลูกค้า เพราะถ้าหากบริษัททำได้จริง Toyota อาจจะสามารถพลิกเกม ขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้ไม่ยาก เพราะในตลาดตอนนี้ มีเพียงค่ายรถยนต์จากจีนเพียงบางค่ายเท่านั้น ที่จะมีการเปิดตัวแบตเตอรี่ชนิดนี้ และก็ยังเป็นเพียงแบบกึ่ง solid state ซึ่งก็คือ NIO ET7 ที่มีการเคลมว่า สามารถแล่นไปได้ไกลสูงสุด มากกว่า 1,000 กิโลเมตร/ชาร์จ ในขณะที่คู่แข่งสำคัญระดับโลก อย่าง BYD และ Tesla ยังเก็บเงียบในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ทาง BYD ก็เพิ่งเริ่มสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่แบบโซเดี่ยมไอออน ที่มีราคาถูก และคุณภาพดี ที่ถือว่า อาจจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมในตลาดอีกหนึ่งทางเลือก ซึ่งถ้าหาก Toyota สามารถเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ที่ใช้แบตเตอรี่ solid state ได้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า และ BYD รวมถึงคู่แข่งรายสำคัญอื่นๆ ยังไม่มีอะไรใหม่มานำเสนอในตลาด เชื่อว่า Toyota น่าจะสามารถพลิกสถานการณ์ได้ แบบหน้ามือเป็นหลังมือ แต่มีคำถามว่า Toyota จะสามารถทำได้ตามที่ประกาศเอาไว้หรือไม่ หรือเป็นเพียงการพยายาม ที่จะชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์คันใหม่ของลูกค้าในตลาดเอาไว้เท่านั้น