BYD เตรียมทำตลาดรถกระบะปิกอัพในต่างประเทศ เริ่มที่ออสเตรเลีย ด้วยรุ่นขุมพลัง Plug-In Hybrid ภายในครึ่งแรกของปีหน้า 2024 พร้อมส่งมอบรถให้ลูกค้า ในช่วงปลายปี ก่อนที่จะเปิดตัวรุ่นไฟฟ้าแบตเตอรี่ตามออกมาในปี 2025 งานนี้บริษัทมั่นใจ ด้วยราคาและเทคโนโลยีระดับนี้ เขย่าตลาดได้อย่างแน่นอน ไม่มียำเกรงเจ้าตลาด
ในช่วง 1-2 ปีมานี้ ตลาดรถยนต์นั่งของไทย เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากการเข้ามาบุกตลาดของรถยนต์ไฟฟ้า มากจนถึงขนาดที่ทำให้ส่วนแบ่งของรถยนต์ชนิดนี้ ส่งให้ไทยมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้า มีสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมดที่ขายในภูมิภาคอาเซียน ทำให้ประชาชนของประเทศเพื่อนบ้านงงกันไปตามๆกัน ถีงอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดของตลาด EV ในเมืองไทย แน่นอนว่า งานนี้ส่งผลกระทบกับผู้เล่นในตลาดที่แบ่งกันผูกขาดมานานหลายสิบปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่ายรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์อย่างรถกระบะ Pure pickup กลับได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นมาก ทำให้ยอดขายในตลาดนี้หดตัวลงอย่างมาก ราว 1 ใน 3 เลยทีเดียว นั่นทำให้แต่ละค่ายรถยนต์ ต้องพยายามกระตุ้นตลาดกันยกใหญ่ ซึ่งดูจากแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในตอนนี้ ก็ต้องบอกว่า ยังต้องเหนื่อยกันอีกมากในปีหน้า อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ตลาดรถกระบะปิกอัพ กำลังเจอกับกำลังซื้อที่ลดลง แต่รถยนต์ไฟฟ้ากลับมีการขยายตัวมากขึ้น จริงอยู่ที่รถยนต์ไฟฟ้าที่ขายได้ เป็นรถยนต์นั่งทั้งหมด แต่ถ้าหากคนไทยมีทางเลือกที่เป็นรถกระบะไฟฟ้า หรือไฮบริด และมีการสนับสนุนจากรัฐบาลในเรื่องเงินชดเชย เหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ มันก็อาจจะเป็นเรื่องที่น่าลุ้นสำหรับค่ายรถยนต์จีนอย่าง BYD ที่มีตัวเลือกใหม่ในตลาดนี้พอดี และเตรียมทำตลาดในต่างประเทศในปีหน้า 2024 ด้วยรุ่น Plug-In Hybrid ตามด้วยรุ่นไฟฟ้าแบตเตอรี่ในปี 2025 อย่างน้อยตลาดหนึ่ง ที่จะมีโอกาสได้ใช้แน่ๆก็คือ ออสเตรเลีย ที่ล่าสุด มีการทดสอบรถต้นแบบที่นั่นแล้ว
Drive สื่อยานยนต์ชื่อดังจากออสเตรเลีย ได้สร้างภาพจำลองของ BYD Ute รถกระบะปิกอัพน้องใหม่ ที่ใช้พื้นฐานจากภาพ spy shot ที่เคยหลุดออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งถ้าหากใกล้เคียงกับรถต้นแบบขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องบอกว่า น่าสนใจไม่น้อย เพราะด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดูคล้าย Ford Ranger โฉมใหม่ และคล้ายกับภาษาการออกแบบ ของแบรนด์ใหม่จาก BYD Fangchengbao ที่เพิ่งเปิดตัวไป และดูแข็งแรงบึกบึน น่าจะโดนใจแฟนรถกระบะทั่วโลก อีกอย่าง ด้วยความน่าเชื่อถือของแบรนด์ BYD ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า การทำตลาดรถกระบะไฟฟ้าอีกสักรุ่น ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรที่ยากเกินไปสำหรับบริษัท ที่น่าสนใจก็คือ การลองชิมลาง ด้วยรุ่น Plug-In Hybrid เป็นการลองตลาดดูก่อน ก็น่าจะทำให้ BYD ถือไพ่เหนือกว่าคู่แข่งรายอื่น ที่ยังไม่มีทางเลือก ที่เป็นรถกระบะไฟฟ้าหรือไฮบริดเต็มรูปแบบจริงๆ การเริ่มทำตลาดในประเทศออสเตรเลีย ก็น่าจะทำให้ BYD มีข้อมูลทางการตลาดที่ชัดเจนมากขึ้น
สำหรับการทำตลาด BYD Ute ในแดนจิงโจ้ คาดว่าจะเป็นตัวถังแบบ Double Cab ที่จะเริ่มจำหน่ายก่อน ในรุ่นขุมพลัง Plug-In Hybrid ที่มีระยะทางวิ่งสูงสุดในโหมดไฟฟ้าอย่างเดียว ที่ 100 กิโลเมตร แต่ถ้าเป็นโหมดไฮบริด ระยะทางจะอยู่ที่ 800-1,200 กิโลเมตร เพียงพอสำหรับการเดินทางไกลในครั้งเดียว ก่อนที่ในปี 2025 จะมีรุ่นไฟฟ้าแบตเตอรี่ออกมาทำตลาด โดยการสั่งจอง คาดว่าจะเริ่มขึ้นภายในครึ่งแรก ของปี 2024 ก่อนที่จะทำการส่งมอบรถในช่วงปลายปีเดียวกัน จากการเปิดเผยของ Luke Todd จาก EVDirect ตัวแทนจำหน่ายของ BYD ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งก่อนหน้านั้น Todd ได้เคยเปรยในเรื่องของราคาจำหน่าย กับสื่อออสเตรเลียว่า ราคา BYD Ute Plug-In Hybrid คาดว่าจะต่ำกว่า 100,000 เหรียญออสเตรเลียหรือราว 2,300,000 บาท โดยขุมพลัง DMi Plug-In Hybrid จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว และแบตเตอรี่สำรองไฟขนาดใหญ่ ให้กำลังสูงสุด 670 แรงม้า และนั่นจะทำให้ BYD รุ่นนี้ เป็นรถกระบะขุมพลัง Plug-In Hybrid รุ่นแรกของออสเตรเลีย แซงหน้า Ford Ranger PHEV ที่จะทำตลาดที่นั่น ในต้นปี 2025 ซึ่ง BYD มั่นใจว่า เทคโนโลยี DM-i ที่นำมาใช้ในรถกระบะรุ่นนี้ จะตอบโจทย์ลูกค้าชาวออสเตรเลียได้ตรงจุด ส่วนเวอร์ชั่นไฟฟ้าแบตเตอรี่ คาดว่าจะมีการเปิดตัวตามหลังมา ในอีก 1 ปี ซึ่งตัวแทนจำหน่าย BYD ในออสเตรเลีย ยังมั่นใจว่า BYD Ute จะเข้ามาเขย่าตลาดรถกระบะปิกอีพในออสเตรเลีย ได้อย่างแน่นอน แม้ว่าจะมีเจ้าตลาดอย่าง Ford Ranger และ Toyota Hilux มานานหลายปี ซึ่งเขาก็ให้ความเคารพทั้งสองแบรนด์ด้วย แต่ก็ไม่ได้ยำเกรงคู่แข่งเหล่านี้เลย งานนี้ต้องรอชมกันต่อไปว่า BYD จะทำได้ดีอย่างที่มั่นใจหรือไม่