มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) เปิดตัว “ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน” หรือ แอล 200 (L200) รถกระบะขนาด 1 ตัน ที่ได้รับการสร้างสรรค์ใหม่ทั้งคัน ครั้งแรกในรอบ 9 ปี ณ งานเวิลด์พรีเมียร์ ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย พร้อมประกาศราคา และเริ่มจำหน่ายในไทยเป็นที่แรกในโลก ในราคาเริ่มต้น 699,000 บาท ก่อนเตรียมเปิดตัวในภูมิภาคอาเซียน และโอเชียเนีย โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น เป็นครั้งแรก ในรอบ 12 ปี ในช่วงต้นปี 2567
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เปิดตัวรถกระบะเป็นครั้งแรกในปี 2521 โดยในช่วง 45 ปีที่ผ่านมา ได้ผลิตรถกระบะมาแล้วกว่า 5.6 ล้านคัน ครอบคลุมทั้งหมด 5 เจนเนอเรชั่น วางจำหน่ายใน 150 ประเทศทั่วโลก จึงทำให้รถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน นับเป็นรถยนต์รุ่นสำคัญในเชิงกลยุทธ์ระดับโลกของบริษัทฯ โดย ออล-นิว ไทรทัน จะเป็นรถกระบะเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งคันเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ปฏิวัติทุกอณู! พลิกโฉมทุกมิติ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน ทั้งการพัฒนาเฟรมหรือโครงรถใหม่ แชสซีส์ใหม่ ช่วงล่างใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ ภายใต้แนวคิด “พลังแกร่งคู่ใจสายลุย” (Power for Adventure)
ฟีเจอร์เด่น ใน “ออล-นิว ไทรทัน”
• ตัวถังดีไซน์ใหม่! ใหญ่ขึ้น และแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม พร้อมเฟรมหรือโครงรถที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ให้ความแข็งแกร่งทนทานและอุ่นใจได้ในทุกเส้นทาง และเครื่องยนต์ใหม่! ให้ขุมพลังแรงเร็วเต็มสมรรถนะ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น
• ช่วงล่างใหม่ มอบการขับขี่ที่นุ่มนวล เกาะถนนเป็นเลิศ ปลอดภัยยิ่งกว่าด้วยเสถียรภาพการทรงตัวและการควบคุมรถที่ดีเยี่ยม พร้อมด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และระบบควบคุมการขับขี่ที่ได้รับการพัฒนาให้เหนือชั้นมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์การขับขี่บนสภาพถนนทุกรูปแบบ
• รูปลักษณ์ด้านหน้า โดดเด่นด้วยดีไซน์แข็งแกร่งโฉบเฉี่ยว พร้อมห้องโดยสารภายในที่กว้างขวางและตกแต่งอย่างมีสไตล์ รองรับการใช้งานที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการแบบอเนกประสงค์
• ยกระดับความปลอดภัยและความสะดวกสบายสุดพรีเมียม เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่การใช้งานแบบรถส่วนตัว และการใช้งานเชิงพาณิชย์
ออล-นิว ไทรทัน ได้รับการผลิต และจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่แรกในโลก ด้วยเป้าหมายการผลิตสูงสุด 200,000 คัน เพื่อจำหน่ายในมากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ทำให้ ออล-นิว ไทรทัน นับเป็นยานยนต์รุ่นสำคัญ เป็นขุมพลังขับเคลื่อน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในฐานะรถยนต์เชิงกลยุทธ์ระดับโลกรุ่นแรก ซึ่งเปิดตัวในยุคแห่งการเติบโต “ออล-นิว ไทรทัน ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ทั้งคันโดยมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั้งโครงสร้างเมกาเฟรม ช่วงล่างที่มอบการควบคุมอย่างเหนือชั้น ห้องโดยสารที่กว้างขวางและสะดวกสบายสุดพรีเมียม พร้อมเครื่องยนต์ใหม่ Hyper Power อันทรงพลัง เพื่อช่วยยกระดับชีวิตและธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น”
ก่อนหน้านี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้นำเสนอแคมเปญพิเศษ “ออล-นิว ไทรทัน ขับมันส์ ก่อนใคร !” (ALL-NEW TRITON REV UP & WIN) เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าทุกท่าน ที่ต้องการเป็นเจ้าของออล-นิว ไทรทัน ก่อนเปิดตัว “แคมเปญนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าในประเทศไทยด้วยยอดจองมากกว่า 10,000 คัน ภายในเวลาไม่ถึง 2 เดือน
ออล-นิว ไทรทัน มีตัวถังให้เลือกหลากหลายรูปแบบ รองรับความต้องการใช้งานที่แตกต่างกัน ของทั้ง 7 กลุ่มตลาดรถในประเทศไทย: ตัวถังดับเบิ้ล แค็บ มาพร้อมเบาะ 2 แถว มอบทั้งความสะดวกสบายแบบรถเอสยูวี และความอเนกประสงค์แบบรถกระบะ ขณะที่ตัวถังซิงเกิ้ล แค็บ (ตอนเดียว) มีเบาะคู่หน้า และตัวถังเมกะ แค็บ (ตอนครึ่ง) มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง ช่วยให้ ปรับเอนเบาะคู่หน้าได้สะดวกขึ้น ด้วยตัวถังที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์คลีนดีเซล เทอร์โบ 2.4 ลิตร Hyper Power ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อมอบที่สุดของพละกำลังและความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โครงสร้างรถ เมกาเฟรม ใหม่! รวมถึงช่วงล่าง และชิ้นส่วนอื่นๆ ล้วนได้รับสร้างสรรค์ขึ้นใหม่จากเทคโนโลยีล้ำสมัยเอกสิทธิ์เฉพาะมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าด้วยฟีเจอร์พิเศษต่างๆ อาทิ โหมดการขับขี่ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II อันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ครบครัน อาทิ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยและความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
(1) เมกาเฟรม (Mega Frame) ใหม่! และเครื่องยนต์ใหม่! ไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) ใช้เชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่า
โครงสร้างรถยนต์แบบขั้นบันไดที่พัฒนาขึ้นใหม่ มีคานขวางที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมถึงร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน เพิ่มความแข็งแกร่งในทุกมิติ ทั้งการต้านทานแรงดัด (Bending Rigidity) และเสริมความแข็งแกร่งเชิงบิด (Torsional Rigidity) โดยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการใช้เหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High-tensile Steel) ในอัตราส่วนที่สูงขึ้น ไม่เพียงมอบสมรรถนะการขับขี่และความสะดวกสบายมากกว่าเดิม ออล-นิว ไทรทัน ยังมีความแข็งแรงสมบุกสมบันที่เหนือชั้น พร้อมรองรับการบรรทุกหนัก ทั้งยังช่วยรับและกระจายแรง ในกรณีที่เกิดการปะทะ ช่วยปกป้องให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
เครื่องยนต์คลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ (Hyper Power Engine) ใหม่! ได้รับการพัฒนาให้มีพละกำลังที่ทรงพลังและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ด้วยพละกำลังสูงสุด 135 กิโลวัตต์ หรือ 184 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร พร้อมติดตั้งระบบเทอร์โบแปรผัน VG Turbo ที่ช่วยในการควบคุมแรงดันอากาศให้สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ มอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ให้เต็มสมรรถนะ
ออล-นิว ไทรทัน มาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดการขับขี่แบบ Sport และระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด (ระบบเกียร์ไฟฟ้าแบบสวิตช์) ที่ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ เพิ่มความสะดวกสบาย
(2) ยกระดับสมรรถนะการขับขี่ ด้วยช่วงล่างที่พัฒนาใหม่ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อันเป็นเอกลักษณ์
ออล-นิว ไทรทัน มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั้งระบบ Super Select 4WD-II สำหรับรุ่น ดับเบิ้ล แค็บ และระบบ Easy Select 4WD สำหรับรุ่น ซิงเกิ้ล แค็บ ที่มีการตรวจจับแรงบิดด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย (Limited Slip Differential: LSD) ช่วยกระจายกำลังด้วยอัตราส่วนร้อยละ 40 ที่ล้อหน้าและร้อยละ 60 ที่ล้อหลัง สร้างความมั่นใจในสมรรถนะการยึดเกาะถนนและประสิทธิภาพในการเข้าโค้ง
ระบบ Super Select 4WD-II ในออล-นิว ไทรทัน มีระบบการขับเคลื่อนให้เลือก 4 รูปแบบ ได้แก่
2H (ขับเคลื่อนล้อหลัง) 4H (ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา) 4HLc (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลาง) และ 4LLc (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลางอัตราทดความเร็วต่ำ) พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ ใหม่! 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด โหมดการขับขี่ Normal (ทั่วไป) และแบบ Eco (ประหยัด) Gravel (ทางลูกรัง) Snow (ถนนลื่น พื้นปกคลุมด้วยหิมะ หรือขณะฝนตกหนัก) Mud (ลุยโคลน) Sand (พื้นทราย) Rock (พื้นหินตะปุ่มตะป่ำ)
ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ ที่เหมาะกับสถานการณ์ และสภาพถนนทุกรูปแบบ
สำหรับระบบ Easy Select 4WD สามารถเลือกใช้ระบบขับเคลื่อน 2H (ขับเคลื่อนล้อหลัง) 4H (ระบบล็อกเฟืองท้ายกลาง) และ 4L (สำหรับการขับขี่ด้วยอัตราทดความเร็วต่ำ) ตอบโจทย์การใช้งานในเส้นทางที่หลากหลาย
ระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ได้รับการติดตั้งพร้อมกับระบบ Super Select 4WD-II เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและแรงดันเบรก ที่ล้อด้านในและนอกโค้ง ให้มีความสมดุลอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ทั้งรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมาพร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรี แอคทีฟลิมิเต็ดสลิป (Brake Control Type) ซึ่งช่วยควบคุมแรงดันเบรกของล้อที่หมุนฟรี พร้อมส่งและกระจายกำลังไปยังอีกล้อหนึ่ง จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะขับขี่บนพื้นผิวถนนที่ลื่น พร้อมกับมอบประสบการณ์ขับขี่ก้าวข้ามทุกอุปสรรค
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control: ASC) และระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control Sytem: TCL) ที่ยกระดับความปลอดภัยการขับขี่อย่างเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ช่วยควบคุมการทรงตัวในการขับขี่บนทุกเส้นทางได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งยังมาพร้อมกับระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist: HSA) ป้องกันรถถอยหลังขณะออกตัวบนทางลาดชัน
ช่วงล่างที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ด้วยโครงสร้างปีกนกสองชั้นที่ด้านหน้าซึ่งมีความทนทานแข็งแกร่งและยืดหยุ่น แท่นยึดคานบน ของรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) และขับเคลื่อน 2 ล้อ ยกสูง (2WD High Rider) ได้รับการปรับตำแหน่งยึดเกาะให้สูงขึ้นเพื่อเพิ่มช่วงชักอีก 20 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนและความนุ่มนวลในการขับขี่ ช่วงล่างด้านหลังมอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมความแข็งแกร่งโดยใช้แหนบแผ่นซ้อน ที่ได้รับการพัฒนาให้มีน้ำหนักเบาขึ้นกว่าเดิม พร้อมด้วยโช้คอัพที่มีขนาดใหญ่ขึ้น
ถึงแม้ตัวถังของ ออล-นิว ไทรทัน จะมีขนาดใหญ่บึกบึนยิ่งขึ้น แต่ยังคงรัศมีวงเลี้ยวที่แคบและคม เพื่อให้ควบคุมได้อย่างคล่องตัว และเสริมทัศนะวิสัยในการขับขี่ ให้สะดวกและปลอดภัยขึ้น ด้วยการออกแบบฝากระโปรงที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นเส้นสายขอบฝากระโปรง ความปลอดภัยและความสะดวกสบายนับเป็นส่วนสำคัญที่ได้รับการพัฒนา
(3) แนวคิดการออกแบบ “บีสท์ โหมด” [Beast Mode]
ออล-นิว ไทรทัน ผสมผสานความปราดเปรียวเข้ากับการออกแบบที่แข็งแกร่งของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เพื่อสร้างสรรค์รูปลักษณ์อันโดดเด่นสะดุดตาพร้อมกับสะท้อนความบึกบึนและทรงพลังแบบฉบับ
รถกระบะที่แท้จริง
การออกแบบด้านหน้าตัวรถอันเป็นเอกลักษณ์ ไดนามิค ชิลด์ (Dynamic Shield) สะท้อนถึงสมรรถนะอันทรงพลัง เสริมความอุ่นใจในการปกป้องผู้โดยสารและตัวรถ ให้ความมั่นใจสูงสุด
ยกระดับให้ ออล-นิว ไทรทัน เป็นรถกระบะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความแข็งแกร่งที่ทรงพลัง จากการออกแบบกระจังหน้าและซุ้มล้อแบบสามมิติที่ดุดัน พร้อมกันชนหน้าที่ออกแบบเพื่อเน้นย้ำรูปทรง สะท้อนถึงพลังที่อัดแน่น เสริมด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยวดุจสายตาเหยี่ยว ผสานกับไฟส่องสว่างหน้า แบบสามมิติ ด้วยการออกแบบทั้งหมดนี้ทำให้ออล-นิว ไทรทัน เป็นกระบะที่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวพร้อมสะกดทุกสายตา ขณะที่กระบะท้ายได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ตอบรับทุกการใช้งาน มั่นใจทุกการบรรทุกได้อย่างเต็มพิกัด ทุกอณูของการออกแบบได้สะท้อนความแข็งแกร่ง จากด้านหน้าจรดท้าย เสริมด้วยไฟท้ายรูปตัว T (T-shaped LED) ทั้งสองฝั่ง แสดงถึงความกว้างขวาง พร้อมสะท้อนความหนักแน่นแข็งแกร่ง
ทุกองค์ประกอบของตัวรถได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้งานอเนกประสงค์เหนือระดับ ด้วยรูปทรงห้องโดยสารและสปอยเลอร์ท้ายที่เพิ่มความลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ สะดวกสบายด้วยบันไดข้างกว้างขึ้น ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น
การออกแบบภายในห้องโดยสารและแผงควบคุม ภายใต้แนวคิด Horizontal Axis ด้วยเส้นตรงแนวราบและรูปทรงที่แข็งแกร่ง คำนึงถึงประสบการณ์ในการใช้งานด้วยความใส่ใจในทุกรายละเอียด ภายในห้องโดยสารมีการออกแบบด้วยรูปทรงเรขาคณิตและใช้วัสดุคุณภาพสูง พร้อมตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่ม ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกถึงการปกป้อง เสริมความสะดวกสบายในการใช้งานหลากหลายรูปแบบ และตกแต่งด้วยโครเมียมในหลายส่วนเพื่อสร้างบรรยากาศที่ทันสมัย เติมเต็มความใส่ใจในทุกการออกแบบอย่างประณีต
นอกจากนี้ ออล-นิว ไทรทัน ยังได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับจอแสดงผลที่มองเห็นได้ชัดเจน โดยชุดมาตรวัดและสวิตช์ควบคุมต่างๆ ได้รับการออกแบบให้มองเห็นได้อย่างโดดเด่น และควบคุมได้สะดวกง่ายดายแม้ในขณะที่สวมถุงมือหนา ทั้งพวงมาลัย ก้านจับ และมือจับเปิดประตู ล้วนได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “มิตซูบิชิ ทัช” (Mitsubishi Touch) ซึ่งมุ่งเน้นที่ความสะดวกสบายในการหยิบจับ ได้อย่างกระชับมือ
แผงคอนโซลกลางของรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีช่องวางแก้วน้ำ ที่รองรับแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบ พร้อมกล่องเก็บของ ที่รองรับขวดพลาสติกขนาด 600 มิลลิลิตร ได้มากถึง 4 ขวด และเพื่อตอบโจทย์การใช้งานแบบมืออาชีพ ในทุกพื้นที่ ทั้งกล่องเก็บของด้านหน้า ช่องวางสมาร์ทโฟน และช่องเก็บของขนาดเล็กอื่นๆ มีความกว้างขวาง ที่ใช้งานได้สะดวกง่ายดาย แม้ในขณะที่สวมถุงมือ นอกจากนี้ แผงควบคุมด้านหน้า และคอนโซลกลาง ยังมีช่อง USB-A และ USB-C สำหรับการชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ และยังมีแท่นชาร์จไร้สาย อยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม
(4) ยกระดับสมรรถนะรถกระบะให้เหนือกว่า
ในส่วนกระบะตอนท้าย ได้รับการออกแบบให้ระยะความสูงของกระบะจากพื้น ต่ำลงจากรุ่นก่อน 45 มิลลิเมตร อยู่ที่ 820 มิลลิเมตร พร้อมขยายพื้นที่ด้านบน ของมุมกันชนหลังให้ใหญ่ขึ้น และเสริมความแข็งแรงด้วยเฟรมเพื่อให้วางเท้าและก้าวขึ้นกระบะได้อย่างสะดวกมากขึ้น
เบาะนั่งคู่หน้าได้รับการออกแบบให้ช่วยหนุนแผ่นหลังส่วนล่าง ขณะที่พื้นที่ช่วงไหล่มีรูปทรงเปิดกว้างเพื่อความสบายในการขยับตัว ช่วยลดความเหนื่อยเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ ระยะของเบาะที่ตรงกับตำแหน่งสะโพกได้รับการขยับสูงขึ้น เพื่อช่วยปรับสรีระขณะขับขี่ให้อยู่ในท่าตรง โดยยังคงความคล่องตัวสะดวกสบายตามหลักสรีระศาสตร์ ทั้งพัฒนาเพิ่มทัศนวิสัยให้มองเห็นเส้นทาง ได้สะดวกจากภายในห้องโดยสาร นอกจากนี้ การเข้าและออกจากห้องโดยสารทำได้ง่ายขึ้นด้วยการออกแบบเสาด้านหน้าใหม่ ที่เป็นแนวตรงมากขึ้น ช่วยให้เปิดประตูได้กว้างขึ้น และเพิ่มพื้นที่บันไดข้างให้ใหญ่ขึ้น ลดโอกาสลื่นไถล ใช้งานได้สะดวกกว่าเดิม
ออล-นิว ไทรทัน ไดมอนด์ เซนส์ (Diamond Sense) อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงสุด อาทิ
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation system: FCM)
- ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) พร้อมระบบสัญญาณเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist: LCA)
- ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA)
ตลอดจนระบบอื่น ๆ
นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้ออกแบบ ออล-นิว ไทรทัน ให้มาพร้อมกับอุปกรณ์ตกแต่งมากมายให้เลือกสรร ไม่ว่าจะป้องกันพื้นผิวสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ จนถึงการตกแต่งในสไตล์รถส่วนตัว เช่น สปอร์ตบาร์ ชุดตกแต่งซุ้มล้อบังโคลน และคิ้วกันกระแทกประตู ที่ช่วยเสริมรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งทรงพลัง ตราสัญลักษณ์ที่กระจังหน้า เติมเต็มความสะดุดตา และพื้นปูกระบะซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในรถกระบะ ก็มีให้เลือกเช่นกัน
สำหรับตลาดประเทศไทย ออล-นิว ไทรทัน เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป ณ โชว์รูมมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ทั่วประเทศ ในราคาที่สัมผัสได้แบบสุดคุ้ม ดังนี้:
รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 699,000 บาท
รุ่นดับเบิ้ล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 820,000 บาท
รุ่นดับเบิ้ล แค็บ ยกสูง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,016,000 บาท