ในขณะที่เมืองไทย Neta เพิ่งให้สื่อมวลชน ลองขับทดสอบซีดานไฟฟ้า Neta S รุ่นสมรรถนะสูง พวงมาลัยซ้าย เพื่อสร้างกระแสก่อนทำตลาด โดยเวอร์ชั่นที่ให้ทดสอบนั้น มาพร้อมระบบขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุด ถึง 462 แรงม้า ความเร็วสูงสุด ทำได้ที่ 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง แล่นได้ไกลสูงสุด 650 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน CLTC โดยมีราคาจำหน่ายในประเทศจีน อยู่ที่ราว 1.8 ล้านบาท เรียกว่า ทั้งระยะทางทำการ สมรรถนะ และราคา ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม Neta S รุ่นล่าสุดนี้ อาจจะดูล้าสมัยไปเสียแล้ว เมื่อที่ประเทศจีน Neta เตรียมเปิดตัว Neta S Qianli ที่เป็นเวอร์ชั่นใหม่กว่า ซึ่งสามารถแล่นไปได้ไกลสูงสุด 1,075 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเพียง 1 ครั้ง เคล็ดลับอยู่ที่การติดตั้งแบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด รุ่น Qilin จาก CATL บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่อันดับ 1 ของโลก ที่ร่วมทุนกับอรุสพลัส บริษัทในเครือ ปตท ของไทย ในการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่แบบ CTP ภายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี ด้วยเงินลงทุนกว่า 3,600 ล้านบาท นั่นทำให้ในอนาคต โอกาสที่เราจะได้เห็น Neta S เวอร์ชั่นใหม่ ก็น่าจะมีอยู่สูงมากเช่นกัน
ข้อมูลทางด้านเทคนิคของ Neta S รุ่นใหม่นี้ ยังเป็นข้อมูลของรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวเท่านั้น ที่ถูกระบุไว้ในเอกสารที่หลุดออกมาของกระทรางอุตสาหกรรมและสารสนเทศของจีน ทำให้กำลังสูงสุด อยู่ที่เพียง 200 กิโลวัตต์หรือ 272 แรงม้า ใช้กำลังไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ขนาด 117 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่มีน้ำหนัก 588 กิโลกรัม โดยมีพละกำลังต่ำกว่ารุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ในเวอร์ชั่นเดิม ถึงเกือบ 200 แรงม้า แต่ก็น่าจะเหมาะกับการใช้งานสำหรับคนส่วนใหญ่ ที่ไม่ได้เน้นสมรรถนะมากนัก แต่ต้องการรถแนวสปอร์ตที่สามารถพาเดินทางไปได้ทุกจังหวัดทั่วไทย โดยไม่จำเป็นจะต้องจอดรถเพื่อทำการชาร์จไฟฟ้า และแน่นอนว่า หากมีรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ออกมาสู่ตลาด คาดว่ากำลังสูงสุด ก็ไม่น่าจะด้อยไปกว่ารุ่นก่อน
Neta S Sedan ตีตลาดครั้งแรกในประเทศจีน ในเดือนมิถุนายน ปี 2022 ที่ผ่านมา ด้วยการทำตลาดหลายรุ่นย่อย รวมถึงรุ่นไฟฟ้า Range Extender โดยมีระยะทางวิ่งสูงสุดในรุ่นไฟฟ้ามาตรฐาน อยู่ 3 ระดับคือ 520 650 และ 715 กิโลเมตร/ชาร์จ ส่วนรุ่นไฟฟ้าแบบ Range Extender ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดที่ 1,160 กิโลเมตร/ชาร์จ โดยในปัจจุบัน มีการจำหน่าย Neta S ทั้งหมด 10 รุ่นย่อย ในราคาตั้งแต่ 189,800 ไปจนถึง 341,800 หยวน หรือราว 915,000-1,650,000 บาท
แน่นอนว่าจุดขายอีกอย่างของ Neta S ก็คือรูปร่างที่ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว มีประตูแบบปีกนกในบางรุ่น การมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ให้การขับขี่ที่มั่นใจมากขึ้น โดยตัวรถมีความยาว 4,980 มม กว้าง 1980 มม และสูง 1450 มม ฐานล้อยาว 2980 มม ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอยู่ที่เพียง 0.216 เท่านั้น Neta เคลมอีกว่า กระจกหลังคาซันรูฟ สามารถป้องกันความร้อนได้ถึง 85% และป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตถึง 99.9%
ภายในห้องโดยสารของ Neta S ใหม่ จะมาพร้อมดีไซน์ที่ดูทันสมัยด้วยจอแสดงผลกลางแนวตั้งขนาดใหญ่ ถึง 17.6 นิ้ว ระดับความระเอียดถึง 2.5K โดยจอแสดงผลการขับขี่เป็นขนาด 12.3 นิ้ว ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8155 ส่วนจอ Head Up display เป็นแบบ AR หรือ Augmented reality จัดเต็มด้วยเครื่องเสียง ขนาด 1216 วัตต์ มาพร้อมลำโพงถึง 21 ตัว โดยเป็นลำโพงหลัก 12 ตัว 1 ซับวูฟเฟอร์ ลำโพงเพดาน 4 จุด และบริเวณพนักพิงศีรษะอีก 4 จุด
งานนี้น่าติดตามต่อไปว่า หากมีการเปิดตัว S Qianli แล้ว Neta จะนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้มาทำตลาดในไทยด้วยหรือไม่ เพราะน่าจะตอบโจทย์ในเรื่องระยะทางวิ่งต่อชาร์จของคนไทยได้ตรงจุดกว่า เพราะระยะทางที่มากกว่า 1,000 กิโลเมตร จะทำให้จัดการปัญหาในการเดินทางต่างๆได้ดีกว่า ทั้งการเดินทางโดยไม่ต้องแวะชาร์จไฟ ลดเวลาในการเดินทาง ลดความเสี่ยงในการหาสถานีชาร์จไฟ และการที่ CATL มีแผนในการสร้างโรงงานที่จังหวัดชลบุรีในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 ก็ตาม ในระยะยาว การที่ Neta มี CATL เป็นพันธมิตรในด้านการขัดหาแบตเตอรี่ ก็น่าจะช่วยสร้างความได้เปรียบในตลาดเมืองไทยไปด้วย เพราะในอนาคต CATL และอรุสพลัส มีแผนร่วมลงทุนในเทคโนโลยีอื่นๆ ด้วย เช่น สถานีสลับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ที่มีการใช้งานจริงในประเทศจีนไปแล้ว