ความผิดพลาดในการมองทิศทางตลาดรถยนต์ในอนาคต ของค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่น ได้ส่งผลกระทบมากขึ้นเป็นลำดับ ในเรื่องยอดขาย และกว่าจะรู้ตัว ก็ช้าไปมากแล้ว เรื่องนี้ไม่มีข้อยกเว้น สำหรับยักษ์ใหญ่ในวงการรถยนต์อย่าง Toyota ที่จะว่าไปแล้ว มุมมองของพี่ใหญ่ในวงการรายนี้ อาจจะทำให้ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นรายอื่นๆ เชื่อมั่นตามด้วยว่า อาจจะต้องใช้เวลาอีกกว่า 10 ปี กว่าที่รถยนต์ไฟฟ้า จะได้รับความนิยมไปทั่วโลก แต่หลังจากนั้่นเพียงแค่ 2-3 ปีต่อมา เวลาได้พิสูจน์ว่า รถยนต์ไฟฟ้า ได้รับความนิยมเร็วกว่าที่หลายคนคิด และนั่นจึงทำให้บริษัทรถยนต์จากแดนซามูไร ต้องเร่งสร้างความได้เปรียบ นั่นก็คือการสร้างทางเลือก ที่แตกต่างไปจากสิ่งที่มีจำหน่ายในตลาดอยู่แล้ว หนึ่งในนั้นก็คือ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ แบบ solid state ที่ทั้ง Toyota และ Nissan ตัดสินใจเดิมพันครั้งใหญ่ ในการพัฒนาเทคโนโลยีชนิดนี้ขึ้นมา แต่หลังจากที่ทั้งสองค่าย ได้เคยออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับแบตเตอรี่แบบ solid state เราก็แทบจะไม่ได้ข่าวคราวความคืบหน้า ในการพัฒนาแบตเตอรี่ชนิดดังกล่าวเลย
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ผู้บริหาร Nissan ได้เปิดเผยความคืบหน้าในการพัฒนาแบตเตอรี่ solid state ของบริษัทบางส่วนแล้ว ในระหว่างงานเปิดตัว Nissan Patrol Warrior ที่ประเทศออสเตรเลีย โดยนายกีโยม คาร์เทีย นายใหญ่ Nissan ออสเตรเลีย ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนที่นั่นว่า บริษัทกำลังพัฒนาเทคโนโลยีชนิดนี้อยู่ ซึ่งจะช่วยเบิกทางไปสู่การใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้ากับรุ่นรถยนต์ที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน เช่น Nissan Patrol Nissan Z รวมถึง Nissan GT-R แบตเตอรี่ Solid State จะไม่มีการใช้อีเล็กโทรดที่เป็นของเหลว ซึ่งถือว่าจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมในวงการรถยนต์ไฟฟ้า โดยคาดว่า จะมีการนำเอาไปใช้กับทั้งในรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ และรถยนต์ไฮบริด ตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป โดยคาดว่าน้ำหนักของแบตเตอรี่ จะเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในปัจจุบัน แต่ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดเท่าๆกัน ตอนนี้ คุณมี 2 ทางเลือก อย่างแรก คือการลดขนาดแบตเตอรี่ ฉะนั้นราคารถก็จะถูกลง ห้องโดยสารมีขนาดใหญ่ขึ้น หรืออีกทางเลือกหนึ่ง แบตเตอรี่มีขนาดเท่ากับรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์อื่นๆ แต่รถสามารถวิ่งไปได้ไกลกว่าต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และสามารถชาร์จไฟรถยนต์คันอื่นได้ด้วย ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในตลาดยังทำไม่ได้
ในฝากฝั่งของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเกาหลี ก็มีข่าวความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ เมื่อสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า 4 บริษัทยักษ์จากเกาหลีใต้ ซึ่งได้แก่ ฮุนได ซัมซุง แอลจี และเอสเค ได้บรรลุข้อตกลงที่จะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าร่วมกัน รวมถึงรถยนต์ไร้คนขับ โดยทั้ง 4 บริษัท จะนำเอาจุดแข็งของตัวเอง มาใช้ในการผลิตยานยนต์แห่งอนาคต เพื่อแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งในปัจจุบัน มี Tesla จากสหรัฐอเมริกา และ BYD จากจีน เป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอยู่ โดยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ จะใช้เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์จาก Samsung แบตเตอรี่จาก SK หน้าจอจาก LG และการออกแบบตัวรถจาก Hyundai
การร่วมมือในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าครั้งนี้ คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนหลายพันล้านวอนต่อปี โดยทั้ง 4 บริษัท จะเร่งพัฒนาชิ้นส่วนต่างๆให้มีความทันสมัย เพื่อให้สามารถทำการแข่งขันกับเทคโนโลยีที่จะเกิดในอนาคตได้