MG ประเทศไทย รุกตลาดรถยนต์ครึ่งปีแรก ด้วยการเปิดตัว MG ES สเตชั่นแวกอนไฟฟ้ารุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “COMFORTABLE เป็นทุกอย่าง เพื่อทุกโมเมนต์” เติมเต็มไลฟ์สไตล์ในทุกช่วงเวลาที่สำคัญ โดดเด่นด้วยพื้นที่ใช้สอย ของห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่ ใช้งานได้จริง ด้วยดีไซน์ภายนอกและภายใน ที่พรีเมียม มีระดับ ผสานความลงตัวในสไตล์ BRIT DYNAMIC ทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDLING) การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) สู่ประสบการณ์ครั้งใหม่ ของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีดีในทุกด้าน พร้อมความสะดวกสบาย ตลอดการเดินทาง
NEW MG ES มาพร้อมกับ New ERA Design ที่ออกแบบตัวรถใหม่ทั้งภายนอกและภายในที่ดูเรียบหรูผสานความล้ำสมัยได้อย่างลงตัว
มาพร้อม
• มิติตัวถังที่ยาว 4,600 มิลลิเมตร กว้าง 1,818 มิลลิเมตร และสูง 1,543 มิลลิเมตร
• ระยะความยาวฐานล้อ 2,665 มิลลิเมตร
• ระยะต่ำสุดจากพื้น 115 มิลลิเมตร
• ไฟหน้า ไฟเบรกดวงที่ 3 และไฟท้าย LED โฉมใหม่ แบบ Light Curtain Design ที่ดูโฉบเฉี่ยวและปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ
• ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
• ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว
• กระจกมองข้างพับและปรับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
• ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง และ สปอยเลอร์หลัง
• ฝาปิดห้องเครื่องด้านหน้า และที่ปิดห้องเก็บสัมภาระท้าย
• ชุดราวหลังคา (Roof Rail) รองรับน้ำหนักได้ถึง 75 กิโลกรัม
ห้องโดยสารเรียบหรู กว้าง พร้อมดีไซน์ ENERGETIC BLUE STRIP พร้อมเทคโนโลยี Zero-G Seats เพื่อรองรับสรีระของผู้นั่ง กับความสามารถในกระจายน้ำหนัก ทำให้นั่งสบายตลอดเส้นทาง พื้นที่บรรจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,367 ลิตร
• คอนโซลแบบ DOUBLE LAYER พร้อมพื้นที่ช่องเก็บของรอบคัน และที่วางแก้ว
• เบาะนั่งหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGN กับผิวสัมผัสที่สบายและดูแลรักษาง่าย พร้อมเส้นสายการตกแต่งภายในโทนสีฟ้า ENERGETIC BLUE STRIP
• เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
• เบาะนั่งด้านหลังพนักพิงพับได้ 60:40
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง ปรับ 4 ทิศทาง ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางโทรศัพท์
• หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว (Digital Multi-function Display) และหน้าจอสีระบบสัมผัสขนาด 10.25 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 จุด
• ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านบลูทูธ พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB TYPE-A และ TYPE- C
• รองรับการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android
• กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติ
• ระบบปรับอากาศแบบดิจิตัล พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5
• ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart key) พร้อมปุ่ม Push Start
E- PERFORMANCE: สเตชั่นแวกอนอีวีแนวใหม่ กับประสบการณ์การขับขี่ ที่สะดวกสบายและเหนือระดับ
เต็มประสิทธิภาพทุกการเดินทาง ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด กับแพล็ตฟอร์มระบบส่งกำลัง SAIC E1 THREE – ELECTRIC SYSTEM มาพร้อมขุมพลัง ที่ให้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่ แบบ 8-LAYER HAIR PIN PMSM ที่ให้พละกำลังสูงสุด ที่ 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มาพร้อมช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ที่ให้การทรงตัวที่ดี ผสานกับระบบช่วงล่างหน้าอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม
• แพล็ตฟอร์มระบบส่งกำลังใหม่ SAIC E1 THREE – ELECTRIC SYSTEM
• มอเตอร์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นใหม่แบบ 8-LAYER HAIR PIN PERMANENT MAGNETIC SYNCHRONOUS MOTOR (หรือ PMSM)
• แบตเตอรี่ลิเธี่ยมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 51 kWh สามารถวิ่งในระยะทาง 412 กิโลเมตร* ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC (NEW EUROPEAN DRIVING CYCLE)
• พร้อมระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
• ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ ได้แก่ มาก ปานกลาง และน้อย
• แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
• รัศมีวงเลี้ยว 5.65 เมตร
• ดิสก์เบรกหน้าพร้อมช่องระบายความร้อน และดิสก์เบรกหลัง
• ระบบพวงมาลัยแบบแร็คแอนด์พิเนียน ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
SAFETY: ปลอดภัยและอุ่นใจ…สบายใจทุกการเดินทาง
NEW MG ES มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADVANCED DRIVER ASSISTANCE SYSTEM (ADAS) รวม 20 ระบบ ได้แก่
• ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)
• ระบบควบคุมเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light)
• ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning) และ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane keep Assist)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนและช่วยควบคุมรถเมื่อออกนอกเลน ELK
(Emergency Lane Keeping Assist)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
• จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX 2 จุด
• เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ
• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
• กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ
• สัญญาณเตือนระยะถอยหลัง
• ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer
COMFORTABLE CHARGING: ไปได้ทุกทิศทั่วไทย สะดวกสบายด้วยสถานีชาร์จที่ครอบคลุม
NEW MG ES มาพร้อมกับแบตเตอรี่เทคโนโลยีใหม่ที่ให้สมรรถนะและรองรับระบบการชาร์จ 2 รูปแบบทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge เร็วขึ้น ให้ผู้ใช้งานสามารถเดินทางสะดวกสบายได้ทั่วประเทศ ด้วยความพร้อมของสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG SUPER CHARGE ที่ติดตั้งแล้วกว่า 158 แห่งทั่วประเทศ
• ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 0% – 80% ใช้เวลาประมาณ 40 นาที* ที่ความเร็วสูงสุด 87 kW
• ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ
7 ชั่วโมง 15 นาที* ที่ 6.6 kW รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kW
• รองรับระบบ V2L (Vehicle to Load) เปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้สามารถเป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยกำลังไฟสูงสุด 2,200 วัตต์
• ปรับปรุงระบบระบายความร้อนให้ใช้งานต่อเนื่องได้ดียิ่งขึ้น และมีน้ำหนักเบาลง 22%
*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือ และกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า
CONNECTION: สะดวกสบาย…ง่ายทุกการเชื่อมต่อ
NEW MG ES มาพร้อมกับระบบสั่งการอัจฉริยะ i-SMART ในรูปแบบ Lite version ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์และอำนวยความสะดวกสบายของผู้ใช้งานไปอีกขั้น ให้เข้าถึงระบบการใช้งานรถไฟฟ้า เพียงปลายนิ้วสัมผัส
SMART CHECK (ระบบตรวจเช็คอัจฉริยะ)
• ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์
• ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
• ระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
• ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์
• ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
• ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ
SMART COMMAND (ระบบสั่งการอัจฉริยะ)
• กุญแจดิจิตอล
• ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศ ผ่านทางสมาร์ทโฟน
• ระบบเลขาส่วนตัว MG Call Centre
• ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน Emergency Call
• ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG SUPER CHARGE ผ่านทางสมาร์ทโฟน
NEW MG ES มาพร้อมสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Andes Gray) สีแดง (Scarlet Red) และ สีเงิน (Champagne Silver) ตกแต่งภายในสไตล์ทูโทน พร้อมหุ้มด้วยวัสดุหนังสังเคราะห์ DENIM TEXTURE DESIGN
[yourchannel video=”tRDXe4vvXFE” autoplay=”1″ show_comments=”1″]