การเผยโฉมรถต้นแบบ All-New Mitsubishi Triton เจนเนอเรชั่นใหม่ ในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ที่กำลังมีขึ้นในช่วงนี้ หลังจากที่เราได้เห็นรถทดสอบมาได้พักใหญ่ รวมถึงภาพจำลองจากสื่อต่างๆ ที่พยายามจินตนาการว่า รถตัวจริงที่ออกมา จะมีรูปร่างหน้าตาประมาณไหน ซึ่งจนถึงตอนนี้ ก็ถือว่าใกล้เคียงกับตัวจริงอยู่มาก แม้ว่ารถต้นแบบที่ถูกนำมาจัดแสดงในงาน ยังมีการปกปิดตัวถังภายนอกเอาไว้รอบคันก็ตาม แต่สิ่งดูเหมือนว่าจะแตกต่างไปจากภาพที่เราเคยเห็นมาโดยตลอด ก็คือสัดส่วนที่แท้จริงของรถกระบะรุ่นนี้ ซึ่งหลายคนบอกว่า จะไม่แตกต่างไปจากรุ่น production ที่จะมีการผลิตออกมาจำหน่าย และสัดส่วนที่แตกต่างเพียงเล็กน้อย ด้วยตัวถังที่ดูกว้างขึ้น โป่งซุ้มล้อขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านหน้า ทำให้ All-New Triton ดูสมบุกสมบันกว่าภาพจำลองอย่างเห็นได้ชัด
งานนี้เลยทำให้ทีมงานคอมพิวเจอร์กราฟฟิคของสื่อยานยนต์ชื่อดังจากออสเตรเลียอย่าง Drive ได้ทำภาพจำลองของ Triton ขึ้นมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ได้ใช้ภาพรถต้นแบบล่าสุดเป็นพื้นฐานในการออกแบบ ซึ่งก็คือการปิดทับลายสติ๊กเกอร์ด้วยสีสันต่างๆให้เหมือนกับการถอดสติ๊กเกอร์ออกไปทั้งหมด ทำให้เราได้เห็นภาพชุดใหม่นี้ ซึ่งก็ต้องบอกว่าน่าสนใจเลยทีเดียว อาจจะเพราะ Triton รุ่นที่เห็น เป็นรุ่นท็อปสุด ที่มาพร้อมอุปกรณ์เพิ่มเติมอย่างสปอร์ตบาร์และยางอะไหล่ 2 เส้นบนกระบะท้าย ที่ช่วยเติมเต็มความสมบุกสมบันให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เฉพาะรูปทรงสัดส่วนของตัวรถเอง ก็น่าจะมีแรงดึงดูดพอ ที่จะช่วยให้สามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเติมได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอ็อปชั่นต่างๆที่ให้มา ซึ่งคาดว่า Mitsubishi น่าจะทำได้ดีกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ในตลาด
นอกจากภาพจำลองที่ทำออกมาให้หายสงสัยแล้ว Drive ยังคาดหวังว่า All-New Triton ควรจะมาพร้อมคุณสมบัติทางด้านเทคนิคต่างๆดังนี้
ระบบความปลอดภัยที่ดีขึ้นเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย โดยเฉพาะรุ่นล่างอย่างรุ่นกระบะลอย ที่สามารถเปิดกระบะจากทางด้านข้างได้ด้วย เหมือนกับที่ Isuzu D-MAX ทำตลาดอยู่ในออสเตรเลีย โดนระบบความปลอดภัยมาตรฐาน อย่างน้อยก็น่าจะมีระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบ Radar Cruise Control ระบบเตือนมุมอับสายตา ระบบเตือนเมื่อมีรถวิ่งผ่านขณะถอยหลัง ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน เซนเซอร์หน้าและหลัง กล้องช่วยมองรอบคัน 360 องศา แบบความละเอียดสูง ระบบช่วยอ่านป้ายจราจร ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง
All-New Triton ใหม่ ก็ควรจะต้องได้รับเรตติ้งสูงสุดระดับ 5 ดาว ในด้านควมปลอดภัยจากการชนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านนี้ ซึ่งในออสเตรเลียก็คือ ANCAP ซึ่งในออสเตรเลีย ถือว่าเป็นข้อบังคับสำหรับลูกค้าองค์กรและราชการ และอาจจะต้องมีการติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านหน้าระหว่างคนขับและผู้โดยสาร รวมถึงบริเวณหัวเข่า
ไฟหน้าแบบ Bi-LED ก็ควรจะมีมาให้ในทุกรุ่นย่อย ยกเว้นรุ่นต่ำสุด ที่เน้นราคาประหยัดและอาจจะไม่มีความจำเป็นเท่าใดนัก แต่ด้วยต้นทุนที่ต่ำลงมากกว่าสมัยก่อน ไฟฮาโลเจน ก็ควรจะถูกแทนที่ด้วยไฟ LED ทั้งหมด
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออย่าง Super Select four-wheel-drive อันเลื่องชื่อของ Mitsubishi ก็น่าจะยังเป็นจุดขายสำคัญของรถกระบะรุ่นนี้ ซึ่งถือว่าทำให้ Triton ยังมีความได้เปรียบคู่แข่งอยู่ ซึ่งคาดหวังว่า จะมีการติดตั้งมาให้ในรุ่นต่างๆมากขึ้น
ดิสก์เบรคหน้า ก็ถูกคาดหวังว่า จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิม ซึ่งในโฉมปัจจุบันรุ่นที่ต่ำลงมา จะมาพร้อมดิสก์เบรคขนาดเล็ก ที่ดูจะไม่เพียงพอในการห้ามล้อได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกบางอย่างเช่นช่อง USB-A USB-C โดยเฉพาะช่องจ่ายไฟขนาด 12 โวลต์ รวมถึงแท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย ควรจะมาให้เป็นมาตรฐาน เพราะในยุคนี้ คนมักจะมีอุปกรณ์ไฟฟ้าเช่น แล็บท็อป ติดตัวตามไปด้วย ช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำงานมากขึ้น
สิ่งสุดท้ายที่สื่อดังจากออสเตรเลียขอลุ้น แต่ไม่ได้คาดหวังมากนัก ก็คือขุมพลังดีเซลเทอร์โบ V6 ที่อาจจะดูสวนกระแสการลดขนาดเครื่องยนต์และลดการปล่อยมลพิษ เพื่อมุ่งไปสู่ขุมพลังไฟฟ้าแบตเตอรี่ ที่ Mitsubishi ก็มีแผนชัดเจนอยู่แล้ว แต่ด้วยความเป็นรถกระบะที่เน้นใช้งานอย่างสมบุกสมบัน ขุมพลังชนิดนี้ ก็ควรจะมีโอกาสมีใช้กับ Triton สักครั้งหนึ่ง