การฉลองการดำเนินงานในประเทศไทย ครบ 60 ปี ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ โดยมีไฮไลต์ของงาน เป็นการเปิดเผยการตัดสินใจ ที่จะสร้างรถไอเอ็มวีแบบใหม่ เพื่อให้เป็นรถกระบะสำหรับประเทศไทย ได้แก่ รถต้นแบบใหม่ล่าสุด IMV 0 และ รถต้นแบบไฮลักซ์ รีโว่ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ทำให้เกิดความรู้สึกที่หลากหลายจากคนดู โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถกระบะปิกอัพ ที่หลายคนอาจจะไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น กับสิ่งที่เห็นอยู่ข้างหน้า เหมือนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ทั่วไป
ความไม่รู้สึกตื่นเต้นของกลุ่มเป้าหมายในตลาด เกิดจากความคาดหวัง ที่มีอยู่สูงเกินกว่าสิ่งที่ได้เห็น เหตุผลหลักก็คือ ตลาดในไทย คุ้นชินกับรถยนต์ไฟฟ้าไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว และให้ความสนใจมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในรถยนต์ประเภทนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ จากค่ายรถยนต์อย่าง Toyota หรือค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นรายอื่นๆในตลาด เรื่องนี้ชัดเจนมากขึ้น เมื่อมีการเปิดตัว BYD Atto3 ในเมืองไทย พร้อมการตอกย้ำโดย Tesla Model 3 และ Model Y ที่ตอบโจทย์ทั้งราคาและสมรรถนะ อีกทั้งยังสามารถให้ความมั่นใจ ในเรื่องคุณภาพผลิตภัณฑ์ จากการใช้งานที่มีแพร่หลายมาก่อน ในขณะที่ Toyota ยังดูเหมือนจะสับสนกับการเข้ามาในตลาดนี้ ซึ่งเบื้องหลัง อาจจะเป็นเรื่องของความไม่พร้อม ที่จะเข้ามาแข่งขันในตลาดมากกว่า ดังสะท้อนออกมาให้เห็นจากข่าว การเตรียมปรับแผนการพัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครั้งใหญ่ ถึงกับเตรียมยกเลิกการใช้แพลตฟอร์ม e-TNGA ที่มีใช้ในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ อย่าง Toyota bZ4X และ Lexus RZ ตามข่าวที่มีออกมา เมื่อ 2-3 วันก่อน ยิ่งทำให้คนที่ติดตามข่าวในด้านยานยนต์ โดยเฉพาะเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า ไม่มั่นใจในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะถูกปล่อยออกมา
การเผยโฉม Toyota Hilux BEV Concept รถกระบะไฟฟ้า ที่ยังเป็นเพียงรถต้นแบบ และยังไม่มีรายละเอียดใดๆ จึงไม่ได้ทำให้ตลาดเกิดความคาดหวัง อย่างที่ได้เกริ่นไปในตอนต้น ตราบใดที่ Toyota ยังไม่มีอาวุธเด็ด ซึ่งก็คือระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ที่สาระสำคัญ อยู่ที่เทคโนโลยีแบตเตอรี่ จุดขายของ Hilux BEV จึงไม่มีความชัดเจน อีกทั้งคู่แข่งในตลาดนี้ ก็มีอยู่ก่อนแล้ว ทั้ง MG Extender EV, GWM Poer EV หรือแม้ว่า BYD ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของ Toyota ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ก็เตรียมผลิตรถกระบะไฟฟ้า ออกมาจำหน่ายด้วยเช่นกัน ประโยชน์ที่อาจจะเป็นเพียงอย่างเดียวในการเปิดตัว ก็คือการสร้างภาพลักษณ์ ให้ดูทันสมัยกว่าคู่แข่งรวมชาติญี่ปุ่น อย่าง Isuzu ที่ยังทำตลาดรถกระบะที่ใช้ระบบขับเคลือนเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในเหมือนกัน ซึ่งจะว่าไปแล้ว Isuzu เอง ก็ได้เดินหน้าไปก่อนแล้วในเรื่องนี้ ด้วยการจำหน่ายรถกระบะเวอร์ชั่นไฟฟ้าในประเทศจีน ภายใต้แบรนด์ Qingling
อย่างไรก็ตาม Hilux รุ่นใหม่ อาจจะดูน่าสนใจกว่า หากใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริด ที่ Toyota มีความได้เปรียบอยู่แล้ว และเป็นทางออกที่เหมาะสมในตอนนี้ ในช่วงที่กลุ่มเป้าหมายในไทย อาจจะยังไม่แน่ใจ กับการใช้ระบบขับเคลื่อนที่เป็นไฟฟ้า 100% กับรถกระบะปิกอัพ นอกจากนั้น Toyota ยังสามารถจำหน่ายเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีอยู่แล้ว ได้ต่อไปอีก ซึ่งคาดว่าเราจะได้เห็นโฉมใหม่ ในปลายปี 2023 นั่นทำให้ Hilux BEV อาจจะเป็นเพียงการช่วยสร้างภาพลักษณ์ สำหรับคนทั่วไป แต่ในทางปฏิบัติ กลุ่มเป้าหมายจริงๆ อาจจะไม่สนใจซื้อมาใช้งาน ไม่ใช่เพียงแค่เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่เท่านั้น แต่อาจจะยังไม่มั่นใจ ในเทคโนโลยีด้านนี้ของ Toyota ด้วย
ไม่มีงานเปิดตัวครั้งใดๆของ Toyota ที่ไม่มีความตื่นเต้น จากเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับรถยนต์รุ่นใหม่ ยิ่งเป็นการฉลองครบรอบปีพิเศษแล้ว ยิ่งทำให้ให้งานมีความน่าสนใจมากขึ้น แต่ในช่วงหลังๆ ต้องยอมรับว่า ความตื่นตาตื่นใจ ที่จะได้เห็นความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี จากบริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลกรายนี้ ดูเหมือนจะน้อยลงไปทุกที สาเหตุสำคัญก็คือ การเปลี่ยนผ่านจากยุคของรถยนต์ใช้น้ำมัน ไปเป็นยุคของรถยนต์ไฟฟ้า ที่ Toyota ไม่ได้เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำทางด้านนี้ โดยเฉพาะเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ทันสมัย ที่ยังต้องพึ่งพาบคุคลที่ 3 อย่าง Panasonic หรือ BYD อยู่ ส่วนแบตเตอรี่แบบโซลิดสเตท ที่บริษัทกำลังพัฒนาและพยายามชูเป็นจุดขาย ก็อาจจะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 10 ปี ที่จะมีการทำตลาดในเชิงพาณิชย์ได้ ตามที่มีข่าวไปเมื่อไม่นานมานี้ นั่นทำให้การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆที่ใช้เทคโนโลยีเดิมๆ อย่างเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นแหล่งพลังงาน ดูล้าสมัยไปโดยปริยาย ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า ที่บริษัทมีอยู่ ก็เป็นเหมือนกับรถยนต์แบบ OEM ที่เทคโนโลยีหลัก กลับเป็นของคนอื่น ทำให้บริษัท เริ่มขาดความเปรียบในเชิงธุรกิจ ไปโดยอัตโนมัติ
การฉลองการดำเนินงานในประเทศไทย ครบ 60 ปี ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ โดยมีไฮไลต์ของงาน เป็นการเปิดเผยการตัดสินใจ ที่จะสร้างรถไอเอ็มวีแบบใหม่ เพื่อให้เป็นรถกระบะสำหรับประเทศไทย ได้แก่ รถต้นแบบใหม่ล่าสุด IMV 0 และ รถต้นแบบไฮลักซ์ รีโว่ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ทำให้เกิดความรู้สึกที่หลากหลายจากคนดู โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถกระบะปิกอัพ ที่หลายคนอาจจะไม่ได้รู้สึกตื่นเต้น กับสิ่งที่เห็นอยู่ข้างหน้า เหมือนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ทั่วไป
ความไม่รู้สึกตื่นเต้นของกลุ่มเป้าหมายในตลาด เกิดจากความคาดหวัง ที่มีอยู่สูงเกินกว่าสิ่งที่ได้เห็น เหตุผลหลักก็คือ ตลาดในไทย คุ้นชินกับรถยนต์ไฟฟ้าไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว และให้ความสนใจมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในรถยนต์ประเภทนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาไม่ได้ จากค่ายรถยนต์อย่าง Toyota หรือค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นรายอื่นๆในตลาด เรื่องนี้ชัดเจนมากขึ้น เมื่อมีการเปิดตัว BYD Atto3 ในเมืองไทย พร้อมการตอกย้ำโดย Tesla Model 3 และ Model Y ที่ตอบโจทย์ทั้งราคาและสมรรถนะ อีกทั้งยังสามารถให้ความมั่นใจ ในเรื่องคุณภาพผลิตภัณฑ์ จากการใช้งานที่มีแพร่หลายมาก่อน ในขณะที่ Toyota ยังดูเหมือนจะสับสนกับการเข้ามาในตลาดนี้ ซึ่งเบื้องหลัง อาจจะเป็นเรื่องของความไม่พร้อม ที่จะเข้ามาแข่งขันในตลาดมากกว่า ดังสะท้อนออกมาให้เห็นจากข่าว การเตรียมปรับแผนการพัฒนาและผลิตรถยนต์ไฟฟ้าครั้งใหญ่ ถึงกับเตรียมยกเลิกการใช้แพลตฟอร์ม e-TNGA ที่มีใช้ในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ อย่าง Toyota bZ4X และ Lexus RZ ตามข่าวที่มีออกมา เมื่อ 2-3 วันก่อน ยิ่งทำให้คนที่ติดตามข่าวในด้านยานยนต์ โดยเฉพาะเรื่องรถยนต์ไฟฟ้า ไม่มั่นใจในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะถูกปล่อยออกมา
การเผยโฉม Toyota Hilux BEV Concept รถกระบะไฟฟ้า ที่ยังเป็นเพียงรถต้นแบบ และยังไม่มีรายละเอียดใดๆ จึงไม่ได้ทำให้ตลาดเกิดความคาดหวัง อย่างที่ได้เกริ่นไปในตอนต้น ตราบใดที่ Toyota ยังไม่มีอาวุธเด็ด ซึ่งก็คือระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ที่สาระสำคัญ อยู่ที่เทคโนโลยีแบตเตอรี่ จุดขายของ Hilux BEV จึงไม่มีความชัดเจน อีกทั้งคู่แข่งในตลาดนี้ ก็มีอยู่ก่อนแล้ว ทั้ง MG Extender EV, GWM Poer EV หรือแม้ว่า BYD ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของ Toyota ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ก็เตรียมผลิตรถกระบะไฟฟ้า ออกมาจำหน่ายด้วยเช่นกัน ประโยชน์ที่อาจจะเป็นเพียงอย่างเดียวในการเปิดตัว ก็คือการสร้างภาพลักษณ์ ให้ดูทันสมัยกว่าคู่แข่งรวมชาติญี่ปุ่น อย่าง Isuzu ที่ยังทำตลาดรถกระบะที่ใช้ระบบขับเคลือนเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในเหมือนกัน ซึ่งจะว่าไปแล้ว Isuzu เอง ก็ได้เดินหน้าไปก่อนแล้วในเรื่องนี้ ด้วยการจำหน่ายรถกระบะเวอร์ชั่นไฟฟ้าในประเทศจีน ภายใต้แบรนด์ Qingling
อย่างไรก็ตาม Hilux รุ่นใหม่ อาจจะดูน่าสนใจกว่า หากใช้ระบบขับเคลื่อนไฮบริด ที่ Toyota มีความได้เปรียบอยู่แล้ว และเป็นทางออกที่เหมาะสมในตอนนี้ ในช่วงที่กลุ่มเป้าหมายในไทย อาจจะยังไม่แน่ใจ กับการใช้ระบบขับเคลื่อนที่เป็นไฟฟ้า 100% กับรถกระบะปิกอัพ นอกจากนั้น Toyota ยังสามารถจำหน่ายเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีอยู่แล้ว ได้ต่อไปอีก ซึ่งคาดว่าเราจะได้เห็นโฉมใหม่ ในปลายปี 2023 นั่นทำให้ Hilux BEV อาจจะเป็นเพียงการช่วยสร้างภาพลักษณ์ สำหรับคนทั่วไป แต่ในทางปฏิบัติ กลุ่มเป้าหมายจริงๆ อาจจะไม่สนใจซื้อมาใช้งาน ไม่ใช่เพียงแค่เพราะเป็นเทคโนโลยีใหม่เท่านั้น แต่อาจจะยังไม่มั่นใจ ในเทคโนโลยีด้านนี้ของ Toyota ด้วย
[yourchannel video=”DVmoLyCKfYI” autoplay=”1″ show_comments=”1″]