แม้ว่าในช่วงปีหลังๆ Toyota จะเพลี่ยงพล้ำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า รถเอสยูวี ไปจนถึงรถกระบะปิกอัพ แต่เซกเมนต์หนึ่งที่ยังถือว่ายืนหนึ่งในเมืองไทยก็คือ ตลาดซีดานขนาดกลาง ที่มีเพียง Honda Accord เป็นคู่แข่งโดยตรง ที่เหลือก็จะเป็นซีดานหรูอย่าง BMW 5 Series และ Mercedes-Benz E-Class แต่ด้วยระดับราคาที่ต่างกัน จึงมีเพียง Accord เท่านั้น ที่ถือว่าเป็นอุปสรรคในการแข่งขัน ซึ่งในต่างประเทศ Honda ก็เพิ่งเปิดตัว Accord เจนเนอเรชั่นใหม่ไปเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ก่อนที่จะทยอยเปิดตัวในแต่ละตลาด ในปี 2023 ที่กำลังจะมาถึง และนั่นเป็นเหมือนการส่งสัญญาณในทางอ้อมว่า Toyota ก็กำลังจะเปิดตัว Camry เจนเนอเรชั่นที่ 9 โฉมใหม่ ตามออกมาในไม่ช้า หรือทิ้งระยะห่างกันราว 1 ปี
Toyota Camry ถือว่าเป็นซีดานขนาดกลางที่ขายดีที่สุดในโลกรุ่นหนึ่ง โดยในตลาดอเมริกาเหนือ Camry เป็นซีดานขนาดกลางที่ขายดีที่สุดมานานกว่า 2 ทศวรรษ การเปลี่ยนภาษาการออกแบบใหม่เมื่อไม่นานมานี้ ยิ่งทำให้การเปิดตัวของ All-New Camry ที่ใช้รหัสตัวถัง XV80 น่าสนใจมากขึ้นเป็นพิเศษ จึงทำให้สื่อในต่างประเทศเริ่มสร้างภาพจำลอง Camry โฉมใหม่ออกมาให้ได้เห็นกันก่อนล่วงหน้า โดยใช้พื้นฐานจากรถต้นแบบที่ Toyota ได้เคยเผยโฉมไปแล้วเมื่อปลายปี 2021 ที่ผ่านมา รวมถึงรถรุ่นใหม่ของ Toyota ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้อย่าง Prius และ CROWN โฉมใหม่ ที่ถือว่ามีดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ดูล้ำสมัย โดยภาษาการออกแบบใหม่สะท้อนออกมาให้เห็นในส่วนของดีไซน์โคมไฟหน้าและกระจังหน้าส่วนบน ที่เชื่อมเข้าหากันอย่างกลมกลืน โดยลวดลายด้านในของโคมไฟหน้าคาดว่าจะใช้ลายเส้นที่แสดงถึงความปราดเปรียวว่องไว เหมือนที่เห็นในรุ่น Prius หรือ Crown
สำหรับแพลตฟอร์มที่ใช้ใน Camry ใหม่ เป็นไปได้สูงว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม TNGA-K ที่ใช้กับโฉมปัจจุบัน แต่จะได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ ได้มีใช้กับรถอีกหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Crown, RAV4 เป็นต้น เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Toyota เลือกใช้แพลตฟอร์มเดิมมาพัฒนาต่อ ก็เพราะตลาดซีดานขนาดกลางเริ่มหดตัวลง อีกทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวม กำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านไปยังยุคของรถยนต์พลังงานใหม่ การลงทุนวิจัยพัฒนาแพลตฟอร์มขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ดูจะไม่คุ้มอีกต่อไป
ภายในห้องโดยสารของ All-New Camry คาดว่าจะมาพร้อมจอแสดงผลกลางดิจิตอลที่มีขนาดใหญ่ขึ้นตามสมัยนิยม มาพร้อมงานกราฟฟิคที่ดีขึ้น รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ Android Auto และ Apple Carplay แบบไร้สาย นอกจากนั้นคาดว่าจะมีระบบสั่งงานด้วยเสียง ระบบอัพเดทซอฟท์แวร์อัตโนมัติแบบ over-the-air และฟีเจอร์ต่างๆที่พบได้ในรุ่น Prius หรือ Crown
เรื่องที่น่าสนใจก็คือขุมพลังขับเคลื่อน ที่ไฮไลต์ของ Camry เจนเนอเรชั่นใหม่ จะเป็นระบบไฮบริดที่มีหลายรุ่นให้เลือก รวมถึงรุ่น Plug-In Hybrid เหมือนที่ใช้ในรุ่น RAV4 Prime ซึ่งให้กำลังสูงสุด 302 แรงม้า ที่วิ่งได้ระยะทางไกลสูงสุด 71 กิโลเมตร ในโหมดไฟฟ้าล้วน ส่วนในเมืองไทยจะมีรุ่นใดทำตลาดบ้าง ต้องมาลุ้นกันอีกที สำหรับเวอร์ชั่นไฟฟ้าแบตเตอรี่ ล่าสุดยังไม่มีข่าวคราวในเรื่องนี้ ซึ่งหากดูจากสถานการณ์นโยบายล่าสุดในเรื่องการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแล้ว เป็นไปได้สูงว่า หากเปิดตัวในปีหน้า 2023 ตามข่าวลือ ในช่วงแรกของการทำตลาด เราก็อาจจะยังไม่ได้เห็นเวอร์ชั่นไฟฟ้าค่อนข้างจะแน่นอน และ Toyota เอง ก็น่าจะพยายามดันระบบขับเคลื่อนไฮบริดออกไปจำหน่ายให้ได้มากที่สุดก่อน เพราะอย่างน้อย ตลาดนี้ก็ไม่มีการแข่งขันที่สูงเหมือนเซกเมนต์อื่น อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของแบรนด์อื่นๆ ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบตเตอรี่ อาจจะส่งผลกระทบกับยอดขายของซีดานขนาดกลางในทางอ้อม โดยเฉพาะรถรุ่นใหม่ๆจากทางฝั่งของ BYD ที่น่าจะมีการเปิดตัวตามมาอีกหลายรุ่นในเมืองไทย รวมถึง Tesla ที่อยู่คนละเซกเมนต์ แต่ด้วยความนิยมที่สูงขึ้นมากของรถยนต์ไฟฟ้า และรถเอสยูวี อาจจะทำให้ลูกค้าบางส่วน ที่เคยวางแผนจะซื้อซีดานขนาดกลางในตอนแรก เปลี่ยนใจมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าแทนก็เป็นไปได้
[yourchannel video=”NKZgT6i2xc4″ autoplay=”1″ show_comments=”1″]