เป็นที่ทราบกันดีว่า Nissan และ Mitsubishi เป็นพันธมิตรกันมาได้พักใหญ่ ภายใต้กลุ่มพันธมิตร Renault Nissan Mitsubishi นั่นหมายความว่า ทั้งสามบริษัท จะสามารถใช้ทรัพยากรบางอย่างร่วมกัน เพื่อลดต้นทุนในการวิจัยพัฒนา ไปจนถึงการผลิต และเราก็ได้เห็นผลลัพท์ของความร่วมมือดังกล่าว ผ่านรถยนต์หลายๆรุ่นมาแล้ว ซึ่งล่าสุดก็คือ Mitsubishi ASX โฉมใหม่ ที่ถอดแบบมาจาก Renault Captur อย่างไม่มีผิดเพี้ยน นอกจากโลโก้แบรนด์ แต่รถรุ่นที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดของคนไทยก็คือ Mitsubishi Triton และ Nissan Navara เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ Mitsubishi ได้รับมอบหมายจากทางกลุ่ม ในการเป็นผู้นำในการพัฒนารถกระบะขนาดกลาง ซึ่งทำให้มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ว่า Triton และ Navara โฉมใหม่ จะแตกต่างกันก็แค่เรื่องของหน้าตาภายนอก แต่แพลตฟอร์ม ขุมพลัง ฟีเจอร์ต่างๆ ไม่น่าจะหนีไปจากกันมากนัก โดยเฉพาะขุมพลังไฮบริดอย่าง PHEV ที่มีข่าวว่า Mitsubishi เตรียมนำมาใส่ใน Triton ซึ่งบริษัท ก็มีสายการผลิตระบบขับเคลื่อนดังกล่าวในเมืองไทยอยู่แล้ว และถูกนำไปใช้กับรุ่น Outlander เป็นรุ่นแรก นั่นจึงทำให้หลายคน ลุ้นว่า Nissan Navara เจนเนอเรชั่นใหม่ จะใช้ชุมพลัง PHEV ด้วยหรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นขุมพลังแห่งอนาคต ที่จะสร้างความแตกต่างได้ และจะไม่ตกขบวน หากตลาดเริ่มสนใจในทางเลือกนี้ มากกว่าขุมพลังที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในเพียงอย่างเดียว
ล่าสุด มีความชัดเจนจากทาง Nissan แล้วว่า โอกาสที่เราจะได้เห็น Navara PHEV แทบจะเป็นศูนย์ เมื่อ Nissan ปิดประตูให้กับเทคโนโลยี Plug-In Hybrid ไปมุ่งไปสู่ระบบ e-Power เท่านั้น ซึ่งจะเป็นตัวเชื่อมเทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบดั้งเดิม กับขุมพลังไฟฟ้าแบตเตอรี่ ทีกำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก จากการเปิดเผยของ Dan Connelley วิศวกรอาวุโสจาก Nissan ในระหว่างการแถลงข่าวเปิดตัว X-Trail e-Power ในต่างประเทศ
Connelly ให้สัมภาษณ์ว่า Nissan ได้ตัดสินใจในภาพรวมแล้วว่า เราจะไม่ใช้ระบบขับเคลื่อน Plug-In Hybrid หรือ PHEV กับรถยนต์ของ Nissan เพราะจากการสำรวจตลาด พบว่า มีคนจำนวนมากเลือกบริษัทที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับเทคโนโลยี PHEV ซึ่งทำให้เป็นเจ้าของรถยนตืได้ง่ายขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในความเป็นจริงก็คือ ลูกค้าจำนวนมาก ไม่ได้ใช้งานระบบ Plug-in เพื่อเติมประจุไฟฟ้าให้กับรถ แต่พวกเขา ก็ยังต้องบรรทุกแบตเตอรี่ที่มีน้ำหนักสูงถึง 200 กิโลกรัมไปตลอดเวลา จึงทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของรถลดลง และบริษัทมองว่า สิทธิประโยชน์ทางภาษี จะลดลงไปเรื่อยๆในอนาคต แต่สำหรับคนบางกลุ่มที่ใช้งานระบบ plug-in พวกเขาสามารถเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Nissan Ariya ได้
ที่ผ่านมา Nissan X-Trail และ Mitsubishi Outlander โฉมใหม่ ใช้แพลตฟอร์ม และขุมพลังเบนซินเดียวกัน เป็นพื้นฐาน แต่แตกแต่างกันในส่วนของทางเลือกที่เป็นขุมพลังอื่น กล่าวคือ Mitsubishi เลือกระบบ PHEV ให้กับ Outlander ที่ใช้แบตเตอรี่ขนาด 20 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งสูงสุดที่ 87 กิโลเมตร ก่อนที่เครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 2.4 ลิตรจะเริ่มทำงานต่อไป นั่นหมายความว่า เจ้าของรถจะต้องขยันเสียบปลั๊กเติมไฟให้กับรถ หากต้องการขับขี่ในโหมดไฟฟ้าสม่ำเสมอ ซึ่งได้ตัวเลขอัตราการบริโภคน้ำมันที่ 66.7 กิโลเมตร/ลิตร
ในขณะที่ Nissan เลือกใช้ระบบ e-Power ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน เช่น เครื่องยนต์ 3 สูบ เทอร์โบ ความจุ 1.5 ลิตร แต่เครื่องยนต์นี้จะใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าเท่านั้น เพื่อไปขับเคลื่อนล้อรถอีกต่อหนึ่ง ซึ่งการออกแบบระบบ e-power จะให้การขับขี่คล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้า โดยที่ไม่ต้องมีการชาร์จไฟเอง เพียงแต่เจ้าของรถเติมน้ำมันเบนซินเป็นปกติทั่วไปเท่านั้น ซึ่ง X-Trail e-Power มีอัตราการบริโภคน้ำมันที่ 16.4 กิโลเมตร/ลิตร ระบบ e-Power จึงเหมาะกับคนที่ไม่สะดวกจะเสียบปลั๊กชาร์จไฟให้กับรถ หรือไม่มีจุดติดตั้งที่เหมาะสมสำหรับระบบชาร์จไฟที่บ้าน อย่างไรก็ตาม Connelly เผยว่า เขาไม่สามารถยืนยันในเรื่องของอนาคตได้ แต่ในตอนนี้ Nissan ไม่มีแผน ในการนำเอาระบบ PHEV มาใช้ อีกอย่าง Nissan มีแผนในการแนะนำรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอีกหลากหลายรุ่น ภายในทศวรรษนี้ ยิ่งทำให้โอกาสที่จะใช้ระบบไฮบริด PHEV มีน้อยลงไปอีก
จากแนวทางในการพัฒนารถยนต์ของ Nissan นี้เอง ทำให้โอกาสที่เราจะได้เห็น All-New Nissan Navara PHEV เหมือนกับ All-New Mitsubishi Triton PHEV เป็นไปได้น้อยมาก ถึงไม่มีโอกาสเลย แต่เราจะได้เห็น Navara E-Power ซึ่งในไทยเอง ก็มีฐานการผลิตเทคโนโลยีชนิดนี้อยู่แล้ว และถูกจัดให้อยู่ในหมวดของระบบไฮบริด ที่ได้รับสิทธิประโชยน์ทางภาษีเหมือนกับระบบ PHEV ของ Mitsubishi และนั่นทำให้ ทั้ง Navara และ Triton เจนเนอเรชั่นใหม่ จะมีความแตกต่างกันอยู่มาก ทั้งในเรื่องของดีไซน์ภายนอก และขุมพลังทางเลือก ที่เป็นระบบไฮบริดหรือ e-Power นอกจากนั้น Navara e-power ก็จะเป็นเพียงรถกระบะขนาดกลางรุ่นเดียวในตลาด ที่มีความแตกต่างไปจากรถกระบะรุ่นอื่น ที่ใช้ระบบไฮบริดแบบดั้งเดิมและ PHEV ซึ่งอาจจะเป็นจุดเปลี่ยนของ Navara ในเมืองไทยอีกครั้ง
[yourchannel video=”aiMma6rTmas” autoplay=”1″ show_comments=”1″]