หลังจากที่มีการเปิดตัว บริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BYD ในเมืองไทย อย่าง เรเว่ ออโตโมทีฟ ไปเมื่อวันก่อน ล่าสุด BYD มีการขยับตัว ที่ถือว่าเป็นก้าวสำคัญ ในวงการรถยนต์ไฟฟ้าของเมืองไทย เมื่อบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมจัดพิธีเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดิน ระหว่าง WHA Group และ บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด (BYD) ซึ่งมีบริษัทแม่ในประเทศจีน ในวันที่ 8 กันยายนที่จะถึงนี้ เพื่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แห่งแรกของ BYD ในอาเซียน ที่นิคมอุตสาหกรรมระยอง 36 โดย BYD เอง ก็เตรียมยื่นเอกสาร เพื่อขอรับสิทธิพิเศษการลงทุน จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI (Board Of Investment) ในวันที่ 9 กันยายนนี้
การลงทุนในครั้งนี้ของ BYD ถือว่าเป็นการช่วยสร้างความมั่นใจให้กับคนไทย ในเรื่องของการเป็นฮับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค หลังจากที่ช่วงหลังๆ เริ่มมีการขยายการลงทุนไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน อย่างอินโดนีเซียมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนผลิตแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของยานยนต์ไฟฟ้า และอินโดนีเซียเอง ก็เป็นแหล่งผลิตวัตถุดิบสำคัญของโลก อย่างไรก็ตาม ต้องจับดูต่อไปว่า ในรายละเอียดของการลงทุนนั้น จะเป็นการสร้างสายการประกอบรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทย โดยมีการนำเข้าชิ้นส่วนสำคัญมาจากต่างประเทศ ในสัดส่วนที่มากน้อยแค่ไหน ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นภาพห่วงโซ่อุทาน ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แต่อย่างน้อย ก็ช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้าจาก BYD น่าจะมีราคาที่แข่งขันได้ และจะมีการให้บริการหลังการขายกับคนไทยในระยะยาว ที่สำคัญก็คือ การช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ที่อยู่ในภาวะซบเซามานานหลายปี
ในปัจจุบัน BYD ถือว่าเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ หรือ NEV อันดับ 1 ในประเทศจีน ในด้านส่วนแบ่งทางการตลาด โดยมีสัดส่วนถึง 29.0% หรือเกือบ 1 ใน 3 ของทั้งหมด ตามมาห่างๆโดยกลุ่มพันธมิตร SAIC-GM-Wuling และ Tesla ตามลำดับ ในขณะที่ค่ายรถยนต์ ที่คนไทยเริ่มคุ้นหูกันมากขึ้น อย่าง Hozon เจ้าของแบรนด์ Neta และ Great Wall อยู่ในอันดับ 9 และ 10 ตามลำดับ ซึ่งเป็นข้อมูลอ้างอิง ที่จัดทำขึ้นในช่วงเดือนมกราคม-กรกฎาคม ปี 2022 นี้ โดยสมาคมรถยนต์นั่งแห่งประเทศจีน ซึ่งรถยนต์พลังงานใหม่ ครอบคลุมถึงรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์แบบ Plug-In Hybrid และรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน
การเข้ามาบุกตลาดเมืองไทยของ BYD อยู่ในแผนการขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ ในมากกว่า 15 ประเทศ โดยในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา BYD ได้ประกาศแผนการทำตลาดในประเทศต่างๆ เช่น สวีเดน เยอรมนี เดนมาร์ก อิสราเอล และไทย ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่สามารถล้มแชมป์อย่าง Tesla เพื่อขึ้นเป็นแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกเป็นครั้งแรก ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก มีการเติบโตมากถึง 61% แตะระดับ 2.18 ล้านคันทั่วโลก ในไตรมาสดังกล่าว โดย BYD ได้ทำการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าไปแล้ว 354,000 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ถึง 266% เลยทีเดียว ในขณะที่ยอดขายทั่วโลกของ Tesla มีการเติบโตเช่นกัน ที่ 27% โดยบริษัท สามารถจำหน่ายไปได้ทั้งสิ้น 254,000 คัน แต่ก็ถือว่าต่ำกว่าที่บริษัทคาดการณ์เอาไว้
BYD ยังมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างดี นั่นก็คือ Warren Buffet อภิมหาเศรษฐีอันดับต้นๆของโลก ซึ่งมีการถือหุ้น ผ่านทางบริษัทที่ชื่อ Berkshire Hathaway โดยมีจำนวนหุ้นอยู่ถึง 19.92% ณ วันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา สำหรับในเมืองไทย BYD ก็กำลังจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท Atto3 ในวันที่ 10 ตุลาคมที่จะถึงนี้
[yourchannel video=”rb0PkoL_W2M” autoplay=”1″ show_comments=”1″]