ช่วง 1-2 ปีมานี้ ตลาดรถกระบะของไทย มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง แต่ดูเหมือนว่า จะถูกจำกัดไว้เฉพาะ 2 เจ้าตลาด อย่าง Isuzu D-MAX และ Toyota Hilux Revo ซึ่ง D-MAX โฉมใหม่ สามารถโค่นแชมป์หลายสมัย อย่าง Hilux Revo ลงไปได้ เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา พร้อมกับทำยอดขาย นำมาเป็นอันดับหนึ่งแทบจะทุกเดือนหลังจากนั้น ในขณะที่ทางฝั่งของ Toyota เอง ก็พยายามแก้เกม ด้วยการเปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่ ออกมาประมือกับ Isuzu ในแต่ละปี ซึ่งล่าสุด ก็คือการเปิดตัวรุ่นพิเศษอย่าง GR Sport ที่ถึงตอนนี้ ก็ยังมองไม่ออกว่า จะได้ผลมากน้อยแค่ไหน เพราะเพิ่งเปิดตัวไป เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ เพื่อจะดูว่า ยอดขายจะกระเตื้องขึ้นหรือไม่ ในขณะที่ Isuzu ก็ไม่รอช้า ปล่อยหมัดเด็ดอย่าง D-MAX รุ่นปรับโฉมใหม่ สีใหม่ มาพร้อมรุ่น X-Series เข้าถล่มทันทีแบบสายฟ้าแล่บ งานนี้ไม่ได้แค่ต้องการรักษาแชมป์อีกหนึ่งปี แต่ดูเหมือนว่า isuzu หวังจะครองอันดับ 1 ไปแบบยาวๆ จนกว่าทาง Toyota จะเปลี่ยนเจนเนอเรชั่นให้กับ Hilux ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ซึ่ง Isuzu น่าจะรู้ว่าดีว่า มีความเป็นไปได้ เพราะดีไซน์ของ Hilux Revo โฉมปัจจุบัน ไม่น่าจะดึงดูดพอ ที่จะทำให้พลิกสถานการณ์กลับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้ ส่วนการจะเพิ่มอ็อปชั่น หรือลดราคา ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ Toyota เพราะต้นทุนที่สูงกว่า และกำไรที่ทำได้น้อยกว่า Isuzu ในเมืองไทย ตามที่เราได้นำเสนอไปเมื่อวันก่อน น่าจะทำให้ D-MAX ยืนหนึ่งไปได้อีกนานพอสมควร
อย่างไรก็ตาม ในปี 2022 ที่กำลังจะมาถึง การแข่งขันในตลาดรถกระบะของไทย กำลังจะเปลี่ยนไปในรอบหลายปี เพราะนอกจากจะมีผู้เล่นรายเดิม ที่จะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่แบบยกคัน ถึง 2 รุ่นแล้ว เมืองไทยกำลังจะต้อนรับ ผู้เล่นรายใหม่อีกอย่างน้อย 2 รายด้วยกันในปีหน้า โดย 1 ใน 2 มีการยืนยันออกมาแล้ว
เริ่มจาก All-New Ford Ranger ที่ผู้บริหารของ Ford ประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า การเปิดตัวจะเกิดขึ้นในปีหน้า 2022 แต่จนทุกวันนี้ สื่อในต่างประเทศอย่างออสเตรเลีย ก็ยังเชื่อว่า การเปิดตัวจะเกิดขึ้นภายในปี 2021 แต่จะเริ่มจำหน่ายในปี 2022 ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว เราก็น่าจะได้เห็น Ranger โฉมใหม่หมดทั้งคัน ก่อนคู่แข่งใหม่อีก 3 ราย ซึ่งแม้ว่าในเมืองไทย Ford จะมียอดขายเป็นอันดับ 3 อยู่ในปัจจุบัน ที่บางช่วง ก็ถูก Mitsubishi Triton แซงหน้าไปได้ในบางเดือน แต่ในระดับโลกแล้ว Ranger ถือว่าเป็นรถกระบะระดับแนวหน้า ที่แย่งกันเป็นเจ้าตลาดกับ Toyota Hilux มาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมา Ford Ranger อาจจะประสบปัญหาทางด้านเทคนิคบ้างประการ จนทำให้คนไทย ไม่กล้าที่จะเสี่ยงใช้รถกระบะรุ่นนี้ อย่างที่มันควรจะเป็น การปรับเจนเนอเรชั่นใหม่ด้วยของใหม่ทั้งคัน น่าจะช่วยให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิมมาก แต่จะให้มีลุ้นขึ้นเป็นอันดับ 2 เลยนั้น น่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะระยะห่างที่ Toyota Hilux ทำไว้ มีอยู่มากเกินกว่าที่จะทำลายได้ แต่ที่น่าจะเชื่อขนมกินได้ ก็คือในปี 2022 Ford Ranger โฉมใหม่ น่าจะสามารถรักษาอันดับ 3 ไปได้อีก 1 ปี ก่อนที่คู่แข่งสำคัญในอันดับ 4 จะเริ่มเข้าสู่ตลาด ด้วยโฉมใหม่หมดทั้งคันเช่นกัน
และคู่แข่งสำคัญที่ว่า ก็คือ All-New Mitsubishi Triton เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ Mitsubishi ปักธงเรียบร้อยแล้วว่า การเปิดตัวจะเกิดขึ้นในปี 2022 แต่ดูเหมือนว่า All-New Triton จะมีข่าวคราวน้อยกว่าใครเพื่อน เพราะแม้แต่ภาพ spy shot ก็ไม่มีออกมาให้ได้ลุ้นกัน ว่าหน้าตาจะออกมาประมาณไหน ทราบแต่เพียงคำบอกเล่า จากหัวหน้าทีมออกแบบของ Mitsubishi ที่เคยออกมาการันตีว่า ดีไซน์ของ All-New Triton โฉมใหม่ ใครได้เห็นแล้ว ต้องร้องว้าวแน่นอน ไฮไลต์อีกอย่างของรถกระบะรุ่นนี้ก็คือ การมีรุ่นย่อยที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน Plug-in Hybrid หรือ PHEV ที่ถือว่าเป็นจุดแข็งของบริษัท ซึ่งจะทำให้รถรุ่นนี้ แตกต่างไปจากคู่แข่ง แม้ว่า Ford เอง ก็มีทางเลือกในแบบเดียวกันนี้ ให้กับ Ranger โฉมใหม่ด้วยก็ตาม แต่สำหรับตลาดเมืองไทยแล้ว Triton PHEV ดูจะมีโอกาสที่ทำตลาดมากกว่าใครเพื่อน อย่างไรก็ตาม Mitsubishi ยังไม่มีออกมาอัพเดท เกี่ยวกับช่วงเวลาในการเปิดตัว All-New Triton แต่คาดว่า การเปิดตัวน่าจะเกิดขึ้น ในช่วงหลังของปี 2022
สำหรับคู่แข่งใหม่รายที่ 3 ก็คือ Peugeot Landtrek รถปิกอัพสัญชาติฝรั่งเศส ที่มีฐานประกอบในประเทศมาเลเซีย ที่ชูจุดขาย ด้วยการรองรับผู้โดยสารได้ถึง 6 ที่นั่ง ซึ่งเบลฟอร์ต ออโตโมบิล บริษัทในเครือของ MGC-Asia ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เปอร์โยต์ในประเทศไทย ได้ออกมายืนยันการทำตลาดรถกระบะรุ่นนี้ในเมืองไทย ในปี 2022 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเป็นการนำเข้ามาจากประเทศมาเลเซีย โดยมีข่าวว่าขุมพลัง 1.9 ลิตรที่ใช้ อาจจะนำมาจาก ISUZU ซึ่งทำให้รถกระบะรุ่นนี้ ได้รับความสนใจอยู่ไม่น้อย และด้วยการที่เป็นการนำเข้ามาจำหน่าย ความเสี่ยงในการทำตลาดของเบลฟอร์ด จึงมีไม่มากนัก แต่ถ้าผลตอบรับออกมาดี เราน่าจะได้เห็นการบุกตลาดอย่างเต็มกำลังของ Peugeot แต่เมื่อเทียบกับคู่แข่งอื่นๆในตลาดแล้ว ต้องบอกว่า Landtrek อาจจะเป็นได้แค่เพียงไม้ประดับ และทางตัวแทนจำหน่ายเอง ก็น่าจะพอใจ กับการเข้ามาชิมลางในตลาดรถกระบะที่ใหญ่ที่สุดในโลก
คู่แข่งรายที่ 4 ที่มีความเป็นไปได้สูงว่า จะมีการเปิดตัวในปี 2022 หลังจากที่เคยมีการคาดหมายมาก่อน ว่าจะมีการบุกตลาดในปีนี้ นั่นก็คือ Great Wall Poer รถกระบะสายพันธุ์จีน ที่มี Great Wall Motor หรือ GWM ได้บุกเบิกตลาดเมืองไทย ด้วยรถเอสยูวีอย่าง Haval H6 Hybrid ไปก่อนแล้ว และเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อีก 3 รุ่น ภายในปี 2021 นี้ ซึ่งล้วนแต่เป็นรถเอสยูวีและรถยนต์ไฟฟ้า จะว่าไปแล้ว นอกจากตลาดรถเอสยูวี ที่เป็นจุดแข็งของบริษัททั้งในและต่างประเทศ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ที่บริษัทมีความได้เปรียบคู่แข่งในเรื่องภาษีนำเข้า ก็มีตลาดรถกระบะปิกอัพ ที่เป็นเซกเมนต์ที่บริษัทให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เพราะเมื่อราว 2 ปีก่อน บริษัทได้เคยประกาศแผนงาน ที่จะขึ้นเป็นแบรนด์รถกระบะปิกอัพ 1 ใน 3 อันดับแรกของโลก ภายในปี 2025 ด้วยเป้าหมายยอดขาย มากกว่า 3 ล้านคัน ซึ่งกำหนดการเดิม อาจจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 อยู่พอสมควร ซึ่งถ้าหากบริษัทต้องการบรรลุเป้าหมายที่ว่า การทำตลาดรถกระบะในเมืองไทยอย่างเข้มข้น จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยไลน์อัพรถกระบะที่ Great Wall มีอยู่ในปัจจุบัน ถือว่าครอบคลุมมากที่สุดบริษัทหนึ่ง ตั้งแต่รุ่นธรรมดาทั่วไป จนไปถึงรุ่นสมรรถนะสูง และที่น่าสนใจที่สุด เห็นจะเป็นเวอร์ชั่นไฟฟ้า ที่สามารถสร้างความแตกต่างได้ และทาง Great Wall เอง ก็เคยนำเอารถรุ่นนี้ มาจัดแสดงให้คนไทยได้ชมกันไปแล้วเมื่อปีก่อน
ในบรรดารถกระบะรุ่นใหม่จากทั้ง 4 ค่ายที่กล่าวมา All-New Ford Ranger น่าจะสร้างความลำบากให้กับทั้ง Isuzu และ Toyota มากที่สุด เพราะ Ford น่าจะเปิดแนวรบตั้งแต่ต้นปี ในขณะที่ All-New Mitsubishi Triton อาจจะมาช้ากว่าเพื่อน ทำให้การแข่งขันในตลาด น่าจะร้อนแรงในช่วงปลายปี ส่วน Peugeot Landtrek น่าจะเป็นผู้เล่นใหม่ ที่ไม่ได้สร้างผลกระทบให้เกิดขึ้นกับตลาดเลยก็ว่าได้ ในขณะที่ Great Wall Motor หรือ GWM ยังไม่มีความชัดเจน ว่าจะส่งรถกระบะเวอร์ชั่นมาตรฐาน ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในลงแข่งขัน หรือขอเสี่ยงเป็นผู้บุกเบิกรายแรกในตลาด ด้วยการส่งรถกระบะไฟฟ้าเข้าสู่สนามรบในไทย
นั่นทำให้การแข่งขันในตลาดรถกระบะของไทยในปี 2022 น่าจะตามองมากกว่าทุกๆปีที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่า ทั้ง Isuzu และ Toyota ย่อมได้รับผลกระทบในทางลบจากการแข่งขันกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งมากขึ้น ด้วยการเปิดตัวเจนเนอเรชั่นใหม่ และจากจำนวนคู่แข่งรายใหม่ ที่เพิ่มขึ้นในตลาด แต่เชื่อว่า Isuzu น่าจะได้รับผลกระทบน้อยกว่าทาง Toyota