แม้ว่าจะมีประชากรเพียง 25 ล้านคน หรือราว 1 ใน 3 ของประชากรไทย แต่ตลาดรถยนต์ในออสเตรเลีย ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าของไทยเลย ด้วยยอดขายในปี 2020 ที่ 9 แสนกว่าคัน ลดลงจากปกติ ที่ 1 ล้านกว่าคัน/ปี แต่ในปีนี้ มีความเป็นไปได้ว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ภายในประเทศของออสเตรเลีย อาจจะสูงกว่าของไทย เพราะล่าสุด หอการค้าอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์รวมภายในประเทศ อยู่ที่ 81,199 คัน ส่วนยอดขายของไทยล่าสุด ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา อยู่ที่เพียง 52,442 คัน อีกทั้งออสเตรเลียเอง ก็เป็นตลาดส่งออกรถยนต์อันดับ 1 ของไทย ทิ้งห่างตลาดญี่ปุ่น เกือบ 3 เท่าตัว และยังเป็นตลาดรถกระบะปิกอัพขนาด 1 ตัน ที่สำคัญของไทยอีกด้วย ทำให้ความเคลื่อนไหวในตลาดรถยนต์แดนจิงโจ้ สามารถสะท้อนอะไรหลายอย่าง ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ได้มากพอสมควร
แม้ว่ายอดขายในเดือนสิงหาคม จะลดลง 12.3% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมา จากสาเหตุของโรคระบาดโควิด-19 แต่ก็อยู่ในแดนบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยยอดขายสะสมใน 8 เดือนแรก อยู่ที่ 732,828 คัน เพิ่มขึ้น 27.2% ซึ่งยอดสั่งซื้อส่วนใหญ่ เป็นตัวเลขที่มีการจองมาก่อนแล้ว เมื่อหลายเดือนก่อน ผ่านทางตัวแทนจำหน่าย มากกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ ในขณะที่ยอดขายสะสม 7 เดือนแรกของไทย อยู่ที่ 425,633 คัน จะเห็นได้ว่า ตลาดรถยนต์ที่มีประชากรราว 1 ใน 3 ของไทย มีขนาดใหญ่กว่าที่หลายคนคิดไว้มาก
อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่า ยอดขายในอีกหลายเดือนข้างหน้า อาจจะลดลงจากมาตรการล็อคดาวน์ และสายการผลิตรถยนต์ ที่ถูกระงับชั่วคราวจากโรงงานหลายแห่ง โดยเฉพาะ Toyota ที่เป็นรถยนต์แบรนด์ที่ขายดีที่สุดในประเทศ ก็เพิ่งประกาศลดกำลังการผลิตลง ถึง 40% ในเดือนนี้ จากปัญหาชิ้นส่วนรถยนต์บางอย่าง ที่กำลังขาดตลาดอยู่
ในภาพรวม Toyota ยังมียอดขายนำมาเป็นอันดับ 1 ถึง 19,959 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ถึง 60% ถือว่ามีอัตราการเติบโตมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ใน 10 อันดับแรก รองจาก Isuzu ที่มีการเติบโตสูงที่สุด ถึง 290% อยู่ในอันดับ 9 และ MG ที่ 147% ในอันดับ 10 ส่วนยอดขายรวมอันดับ 2 ก็คือ Mazda ที่ตามมาห่างๆ ที่ 7,645 คัน ส่วนอันดับ 3 4 และ 5 ได้แก่ Kia Ford และ Hyundai ที่มียอดขายใกล้เคียงกันมาก ที่ 5,000 กว่าคัน
ตลาดรถยนต์ที่น่าสนใจ คงหนีไม่พ้นตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ที่ส่วนใหญ่ มีการนำเข้าจากประเทศไทย Toyota Hilux ยังนำมาเป็นอันดับ 1 ด้วยยอดขาย 4,470 คัน เติบโตกว่าปีก่อน ถึง 267% ตามมาด้วยคู่แข่งตลอดกาล อย่าง Ford Ranger ที่ 3,959 คัน แม้ว่าอยู่ในช่วงของการรอเปลี่ยนโฉมทั้งคันก็ตาม ในขณะที่รถกระบะปิกอัพ ที่ขายดีเป็นอันดับ 3 และถือว่าเป็นดาวรุ่งในรอบไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ก็คือ Isuzu D-MAX มียอดขายตามมาห่างๆ ที่ 1,941 คัน หรือราวครี่งหนึ่งของเจ้าตลาดทั้งสองค่าย แต่กลับมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด คือ 885% ทำให้ D-MAX เป็นรถกระบะปิกอัพ ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดรุ่นหนึ่งของออสเตรเลียในปัจจุบัน
แต่เมื่อเจาะลึกลงไปที่ประเภทรถกระบะปิกอัพที่จำหน่ายแล้ว จะพบว่า ในบรรดา 3 แบรนด์ที่ว่า Ford Ranger ยังมียอดขายนำมาเป็นอันดับ 1 ในรุ่น 4X4 ที่ 3,600 กว่าคัน ตามมาไม่ห่างกันนัก ก็คือ Toyota Hilux ที่ 3,300 กว่าคัน และอันดับ 3 ก็คือ Isuzu D-MAX ที่ยังถูกทิ้งห่างมาก ในรถกระบะประเภทนี้ ส่วนตลาด 4×2 ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาด ราว 30% ของตลาดรถกระบะทั้งหมด Toyota Hilux มียอดขายเป็นอันดับ 1 ที่ 1,100 กว่าคัน ตามมาด้วย Isuzu D-MAX ที่ 700 กว่าคัน ในขณะที่ Ford Ranger มียอดขายเพียง 350 คันเท่านั้น
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันในออสเตรเลีย Toyota Hilux และ Ford Ranger ยังเป็น 2 เจ้าตลาด ที่ขับเคี่ยวกันมาโดยตลอด แต่เริ่มมีตัวสอดแทรกหน้าใหม่ อย่าง Isuzu D-MAX ที่สร้างเซอร์ไพรซ์ ทำยอดขายทะลุเพดาน ขึ้นมาติด 3 อันดับแรก และช่วยดันให้ยอดขายรวมของ Isuzu ขึ้นมาอยู่ใน 10 อันดับแรกของตลาดรวมได้ ที่น่าจับตามองต่อไปก็คือ การมาถึงของ All-New Ford Ranger ในอีกไม่กี่เดือนข้าง ที่อาจจะทำให้การช่วงชิงอันดับ 1 จาก Toyota Hilux ทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม และ Isuzu เอง จะสามารถรักษาความสม่ำเสมอ ในด้านยอดขายไปได้นานแค่ไหน และจะสามารถไต่อันดับ ให้ขึ้นไปได้ใกล้เคียงกับ 2 อันดับแรก ที่ยึดพื้นที่มานาน ได้หรือไม่