ฉีกกฏเดิมๆ! All-New Ford Ranger / Everest 2022-2023 โฉมใหม่ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย

ยิ่งเข้าใกล้ปลายปีมากเท่าไร กระแสข่าวเกี่ยวกับทั้ง All-New Ford Ranger และ Everest ก็มีมากขึ้นเท่านั้น ล่าสุดมีข้อมูลใหม่ ที่ถือว่าน่าสนใจ ในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา และถือว่าเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหม่ ที่ไม่ใช่เพียงแค่สำหรับ Ford Ranger และ Everest เท่านั้น แต่ถือว่าเป็นการยกระดับมาตรฐาน ของเทคโนโลยีที่มีใช้กับรถกระบะขนาดกลางด้วย

เมื่อมีผู้อ่านสื่อยานยนต์ออนไลน์ CarExpert คนหนึ่ง ได้เก็บภาพของ Ford Ranger และ Everest โฉมใหม่ ในขณะที่อยู่ระหว่างการขับทดสอบในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งอาจจะไม่ได้สร้างความแปลกใจ จากการได้เห็นรูปโฉมภายนอก เพราะก่อนหน้านี้ รถทั้งสองรุ่น ได้ถูกจับภาพได้ มาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ แตกต่างไปจากครั้งก่อนๆ เพราะมีการเผยให้เห็นภาพบางส่วน ของห้องโดยสารภายใน ซึ่งมีอุปกรณ์บางอย่าง ที่ทำให้รถรุ่นนี้ มีความแตกต่างออกไปจากเจนเนอเรชั่นก่อน

ก่อนหน้านี้ เราพอจะทราบข้อมูลทางด้านเทคนิค ของทั้ง Ranger และ Everest ว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ที่อาจจะแตกต่างกันไปตามตลาดที่จำหน่าย ซึ่งพอจะสรุปประเด็นหลักๆได้ดังนี้ Ranger และ Everest โฉมใหม่ จะมี 4 รุ่นเครื่องยนต์ทางเลือก คือ 2 เครื่องยนต์ดีเซล และ 1 เครื่องยนต์เบนซิน และ 1 เครื่องยนต์เบนซิน Plug-In Hybrid ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบ ความจุ 3.2 ลิตร จะถูกยกเลิกการทำตลาดไป โดย Everest จะมี 6 รุ่นย่อย ซึ่งรวมถึงรุ่นออฟโรด อย่าง Wildtrak X สำหรับรถกระบะสมรรถนะสูงอย่าง Ranger Raptor จะมีเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 หรือเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 6 สูบ ความจุ 2.7 ลิตร ให้เลือกตามตลาดที่จำหน่าย ทดแทนบล็อคเดิม ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลทวินเทอร์โบ ความจุ 2.0 ลิตร และจากข้อมูลล่าสุด รุ่นท็อปของ Ranger และ Everest จะมาพร้อมจอแสดงผลระบบ infotainment ที่เป็นจอแบบแนวตั้งขนาดใหญ่ ถึง 15.5 นิ้ว ส่วนรุ่นที่ต่ำลงมา จะเป็นจอแสดงผลขนาด 12 นิ้ว มาพร้อมระบบ SYNC 4 ของ Ford โดยรองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ในขณะที่จอแสดงผลการขับขี่ จะเป็นจอขนาด 12 นิ้ว

นอกจากนั้น ทั้ง Ranger และ Everest ใหม่ จะมาพร้อมระบบ FordPass Connect ที่ช่วยให้ผู้ใช้งาน สามารถควบคุมรถจากระยะไกล ทั้งการสตาร์ตเครื่องยนต์ การดูสถานะต่างๆของรถยนต์ การล็อค-ปลดล็อคประตูรถ และจากภาพล่าสุด พบว่า Ford ได้ทำการติดตั้งกล้องช่วยมอง 360 องศา มาให้เป็นครั้งแรก ในรถยนต์ทั้งสองรุ่น โดยมีระบบช่วยจอดกึ่งอัตโนมัติมาให้ด้วย ซึ่งมาพร้อมเซนเซอร์ช่วยจอด ทั้งหน้าและหลัง ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ ของเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่

ในด้านขุมพลัง ตามที่ได้เกริ่นไปแล้วข้างต้น เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 5 สูบ ความจุ 3.2 ลิตร ที่มีใช้ในบางตลาด สำหรับทั้ง Ranger และ Everest จะถูกยกเลิกไป โดยจะมีเครื่องยนต์ที่เป็นรุ่นมาตรฐาน ในการทำตลาด คือเครื่องยนต์ดีเซลทวินเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า Ford จะทำการปรับแต่งเครื่องยนต์นี้ ให้ได้ตัวเลขด้านสมรรถนะที่สูงขึ้น เพื่อให้เหนือกว่าคู่แข่งในตลาด

ลูกค้าสามารถเลือกซื้อรุ่นเครื่องยนต์ที่สูงขึ้นไป ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 249 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์บล็อคเดียวกันกับที่ใช้ใน Ford F-150 ซึ่งเริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 2018 โดยกำลังจะถูกปลดระวางจากรุ่น F-150 ในอีกไม่นาน ในขณะที่เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ EcoBoost V6 ความจุ 2.7 ลิตร ที่ใช้กับรุ่นสูงสุดของ Ford Bronco คาดว่าจะมีใช้กับ Ranger Raptor ใหม่ สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา โดยให้กำลังสูงสุด 310 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ full time

เครื่องยนต์รุ่นสุดท้าย ที่คาดว่าจะมีใช้กับทั้ง Ranger และ Everest โฉมใหม่ ที่อาจจะยังไม่มีให้เลือก ในช่วงแรกของการทำตลาด นั่นก็คือเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.3 ลิตร มาพร้อมระบบ Plug-In Hybrid ซึ่งมีความน่าสนใจตรงที่ว่า จะมีการทำตลาดรถรุ่นนี้ ในประเทศใดบ้าง

ทางโฆษกของ Ford ยุโรป ได้ออกมายืนยันแล้วว่า รถยนต์เพื่อการพาณิชย์รุ่นต่างๆ ซึ่งรวมถึง Ford Ranger จะเป็นรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการไม่มีการปล่อยมลพิษออกมา ภายในปี 2024 นั่นหมายความว่า อาจจะมีการเปิดตัวรุ่น Plug-In Hybrid ตามมา หลังจากเปิดตัวรุ่นมาตรฐานไปแล้ว 1-2 ปี โดยทั้ง Ranger และ Everest รุ่น Plug-In Hybrid จะมีพละกำลังอยู่ที่ 362 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 680 นิวตันเมตร โดยคาดว่าจะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง อยู่ที่ 33.33 กิโลเมตร/ลิตร โดยทุกรุ่นย่อย ของทั้ง Ranger และ Everest โฉมใหม่ จะมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดเหมือนกัน

ข้อมูลที่น่าสนใจอีกอย่าง ที่ผู้บริหารของ Ford ออสเตรเลีย ได้ให้สัมภาษณ์ CarExpert ก็คือ Ranger ที่มีจำหน่ายในออสเตรเลีย ยังเป็นรุ่นที่มีการผลิตขึ้นในเมืองไทย แม้ว่าฐานการผลิต Ranger จะมีอยู่หลายแห่ง ซึ่งรวมถึงโรงงานของ Ford ในประเทศแอฟริกาใต้ และบางประเทศ ในทวีปอเมริกาเหนือ

Leave a Reply