กว่า 70 ปีมาแล้ว ที่ Toyota ได้ทำตลาดรถเอสยูวีจอมแกร่ง ที่ให้ความมั่นใจกับผู้ขับขี่ ในเรื่องความปลอดภัย และสมรรถนะในการบุกตะลุย บนเส้นทางออฟโรด และวันนี้ Toyota ก็ได้เปิดตัวรถเอสยูวีรุ่นที่ว่า มันคือ All-New Land Cruiser โฉมใหม่ ที่เตรียมสานต่อความสำเร็จ หลังจากที่ได้สร้างยอดขาย มามากกว่า 10.4 ล้านคัน ในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก ถือว่าเป็นรุ่นรถยนต์ ที่มีการทำตลาดมายาวนานที่สุดของ Toyota
สำหรับเมืองไทยแล้ว แม้ว่าปัจจุบัน เราไม่ได้เห็นรถรุ่นนี้อยู่ในตลาด แต่สิ่งที่ทำให้เรา อาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับรถรุ่นนี้ได้ในอนาคต ก็คือขุมพลังบล็อคใหม่บางรุ่น ที่ใช้ในรถยนต์รุ่นนี้ ซึ่งมีข่าวว่า กำลังจะมีการนำไปใช้ในรถกระบะขนาดใหญ่ อย่าง Tundra และรุ่นสมรรถนะสูงของรถกระบะขนาดกลาง Hilux ที่คาดว่าจะมีการเปิดตัวในเจนเนอเรชั่นใหม่ นั่นทำให้การเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลก ของ All-New Land Cruiser จึงได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง นอกจากตะวันออกกลาง ที่เป็นตลาดหลักแห่งหนึ่งของรถรุ่นนี้
ขุมพลังเดิมที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลทวินเทอร์โบ V8 ที่ใช้ในรุ่น LandCruiser 200 Series มาตั้งแต่ปี 2007 ที่ให้กำลังสูงสุด 268 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ได้ถูกแทนที่ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลทวินเทอร์โบ V6 รุ่นใหม่ ความจุ 3.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 304 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ส่วนระบบส่งกำลังจะเป็นเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ที่ให้อัตราเร่งดีขึ้น แต่ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม ซึ่งเหตุผลของการลดขนาดของเครื่องยนต์ลงมา ก็เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานใหม่ด้านมลพิษทั่วโลก ที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งเครื่องยนต์บล็อคนี้ ถูกเชื่อว่า จะเป็นเครื่องยนต์มาตรฐานสำหรับ Tundra โฉมใหม่ และขับเคลื่อน GR Hilux รถกระบะกลางรุ่นสมรรถนะสูง ที่จะมีการเปิดตัวใน Hilux เจนเนอเรชั่นใหม่ นอกจากนั้น ยังมีข่าวอีกว่า Tundra โฉมใหม่ จะมาพร้อมเครื่องยนต์บล็อคใหม่ ที่ยังถูกปิดเป็นความลับ แต่ Bob Carter รองประธานฝ่ายขายของ Toyota อเมริกาเหนือ ได้เคยให้สัมภาษณ์ MotorTrend ว่า เครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้ จะทำให้คุณ ได้ทึ่งกับสมรรถนะของมันอย่างแน่นอน ซึ่ง Toyota เอง ก็คาดหวังว่า เครื่องยนต์บล็อคใหม่นี้ จะเป็นตัวเปลี่ยนเกม ในตลาดรถกระบะปิกอัพของอเมริกา
อีกหนึ่งขุมพลังทางเลือกก็คือ เครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ V6 ความจุ 3.5 ลิตร 409 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดเช่นกัน แต่ที่อาจจะผิดคาดไปสักนิด ก็คือไม่มีการพูดถึงขุมพลังไฮบริด ที่ Toyota มักจะมีมาให้เป็นทางเลือก หรือเปิดเผยแผนเปิดตัวในอนาคต แต่ก็ยังมีการคาดการณ์ว่า เวอร์ชั่นไฮบริด จะถูกเปิดตัวตามมาหลังจากนี้ อย่างเร็วที่สุด ก็อีก 1 ปี
Toyota LandCruiser โฉมใหม่ ใช้โครงสร้าง หรือแพลตฟอร์มรุ่นใหม่หมด ที่เรียกว่า GA-F ซึ่งใช้พื้นฐานของ TNGA หรืออาจจะเรียกว่า TNGA-F โดยมีข่าวว่า Toyota จะนำเอาแพลตฟอร์มเดียวกันนี้ ไปใช้กับรถกระบะขนาดใหญ่อย่าง Tundra ที่กำลังจะมีการเปิดตัวเร็วๆนี้อีกด้วย โดยมิติตัวถัง มุมจากและมุมปะทะต่างๆ ก็มีความใกล้เคียงกับ LandCruiser โฉมก่อน แต่ตัวรถ มีการกระจายน้ำหนักที่ดีกว่าเดิม จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง ที่ช่วยให้การทรงตัว และการเกาะถนนดีขึ้น โดยเครื่องยนต์ถูกวางให้มีระดับที่ต่ำลง 28 มิลลิเมตร และแม้ว่าไม่มีการระบุน้ำหนักของตัวรถ แต่ Toyota เผยว่า LandCruiser 300 Series มีน้ำหนักที่ลดลงกว่าเดิมถึง 200 กิโลกรัม ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และลดลง 100 กิโลกรัม ในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่ง LandCruiser 200 Series รุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเดิม โดยทั่วไป จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 2740 กิโลกรัม
Toyota ได้ปรับตำแหน่งการวางระบบกันสะเทือน ให้กับ LandCruiser 300 Series ใหม่ โดยให้มีองศาที่ตั้งชันมากกว่าเดิม เพื่อให้มีการทำงานประสานกับล้อได้ดีขึ้น ส่งผลให้ควบคุมการขับขี่ดีขึ้นในเส้นทางออฟโรด Toyota ยังเคลมว่า เป็นบริษัทแรกที่นำเสนอระบบกันสะเทือน แบบ e-KDSS ที่ย่อมาจาก electronic Kinetic Dynamic Suspension System เป็นอ็อปชั่น ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ในทางอ็อปโรดดีขึ้น และคาดว่าน่าจะมีมาให้ในรุ่นย่อย GR Sport นอกจากนั้นยังมีกล้องหน้ารถ ที่จะช่วยให้มองเห็นอุปสรรค ที่ขวางอยู่ข้างหน้าได้ง่ายและชัดเจน LandCruiser โฉมใหม่ ยังมีโหมดการขับขี่ที่่หลากหลาย เพื่อให้เข้ากับสภาพเส้นทางที่สัญจรในแบบต่างๆ
LandCruiser 300 Series ใหม่ ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย ทั้งระบบ Radar Cruise Control ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบเตือนจุดอับสายตาด้านข้าง ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบช่วยอ่านป้ายจราจร
Toyota จะทำตลาด LandCruiser 300 Series ใหม่ ในรุ่นย่อยต่างๆ รวมถึงรุ่น GR Sport โดยยังไม่มีการประกาศราคาจำหน่ายในขณะนี้
Toyota LandCruiser ก็เป็นเหมือนกับรถกระบะปิกอัพที่อยู่ในร่างของรถเอสยูวี ซึ่งนอกจากขุมพลังใหม่ ที่จะมีใช้ร่วมกับรถกระบะรุ่นอื่นๆแล้ว ยังมีความเป็นไปได้อีกเช่นกันว่า เทคโนโลยีบางอย่าง เช่นระบบกันสะเทือน และฟีเจอร์ที่รองรับการใช้งานในแบบออฟโรด จะถูกส่งผ่านไปยังรถกระบะปิกอัพอย่าง Tundra และ GR Hilux ด้วยเข่นกัน