Honda เปิดตัว All-New Civic hatchback เจนเนอเรชั่นที่ 11 แล้ววันนี้ หลังจากที่มีการเปิดตัวเวอร์ชั่นซีดานไปแล้วไม่นานนัก ซึ่งในเวอร์ชั่นแฮทช์แบ็ค ได้รวมเอาเทคโนโลยี และฟีเจอร์ต่างๆที่มีในเวอร์ชั่นซีดาน เข้ามาไว้ในรถรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบ HONDA SENSING แบบกล้องเดี่ยว ที่มีมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน นอกจากนั้น ยังมีอ็อปชั่นสำคัญต่างๆ เช่น จอแสดงผลระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว เครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยมจาก BOSE และจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิตอล ขนาด 10.2 นิ้ว
All-New Honda Civic hatchback มาพร้อมความสดใหม่หลายอย่าง ตั้งแต่ดีไซน์ในสไตล์คูเป้ ด้านหน้าและหลัง ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว การออกแบบภายในห้องโดยสารที่เรียบง่าย และดูสะอาดตา ที่ให้ทัศนวิสัยในการมองเห็น จากภายในสู่ภายนอกดีขึ้น โครงสร้างตัวรถ มีความแข็งแรงมากกว่าเดิม 19% ประตูท้ายเปิดกว้างขึ้นกว่ารุ่นก่อน 1.6 นิ้ว มีขุมพลังเบนซินเทอร์โบ ความจุ 1.5 ลิตร 180 แรงม้า และระบบส่งกำลังแบบ manual 6 สปีด ให้เลือกในบางตลาด
สำหรับฟีเจอร์ หรืออุปกรณ์สำคัญ ที่ Civic hatchback โฉมใหม่ มีมาให้เหมือนในเวอร์ชั่นซีดาน มีดังต่อไปนี้ จอแสดงผลระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้วเป็นมาตรฐาน รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto โดยมีอ็อปชั่นเป็นจอแสดงผลความละเอียดสูง HD ขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย เครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยมจาก BOSE พร้อมลำโพง 12 ตัว ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย โครงสร้างตัวถัง ที่มีความแข็งแรงมากขึ้น ระบบกันสะเทือน และระบบพวงมาลัย ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ในเรื่องการควบคุมการขับขี่ และความนุ่มสบายในการโดยสาร ถุงลมนิรภัยด้านหน้าใหม่ ที่ช่วยลดแรงกระแทก ซึ่งอาจจะส่งผลต่อศีรษะและลำคอ โดยที่นั่งด้านหลัง ยังมีถุงลมนิรภัยด้านข้างมาให้ด้วย ระบบ Honda Sensing แบบกล้องเดี่ยว ที่มาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ เมื่อรถติด ที่ให้มาเป็นฟีเจอร์มาตรฐาน โดยมีระบบควบคุมการเบรคที่ความเร็วต่ำ เป็นฟีเจอร์ในบางรุ่นย่อย
ในด้านดีไซน์ อย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้น All-New Honda Civic hatchback ใหม่ มาพร้อมการออกแบบในสไตล์คูเป้ ที่ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากรถสไตล์สปอร์ตแบ็คของยุโรป ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากกว่าเวอร์ชั่นซีดาน และถ้าเปรียบเทียบกับโฉมก่อน Civic hatchback รุ่นนี้ จะมีเสา A ที่ถูกย้ายมาทางด้านหลัง มากกว่าเดิม 1.96 นิ้ว ระยะฐานล้อยาวขึ้น 1.4 นิ้ว และระยะห่างระหว่างล้อคู่หลัง กว้างขึ้น 0.5 นิ้ว ส่วนความยาวโดยรวม จะน้อยกว่าเวอร์ชั่นซีดานอยู่ 4.9 นิ้ว
ห้องโดยสารภายใน ได้ถูกออกแบบโดยให้ความสำคัญกับผู้ใช้รถเป็นศูนย์กลาง ใช้ดีไซน์ที่เรียบง่าย และสะอาดตา หน้าต่างด้านข้างของผู้โดยสารตอนหลัง มีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนกระจกด้านหลัง ถูกออกแบบให้มีมุมมองที่กว้างขึ้นกว่าเดิม ทำให้พื้นที่ตอนหลังกว้างขวางขึ้น ผู้โดยสารที่เบาะหลัง จึงรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบาย โดยพื้นที่วางขา ยาวขึ้นเกือบ 1.4 นิ้ว สำหรับพื้นที่จุสัมภาระท้ายรถ ก็ได้รับการปรับปรุง ให้เข้าถึงได้ง่าย ด้วยองศาการเปิด ที่กว้างกว่าเดิม 1.6 นิ้ว มือเปิดประตูท้ายที่ต่ำลง และระดับความสูงที่ลดลง ทำให้การจุสัมภาระ สะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น
ในบางตลาดอย่างสหรัฐอเมริกา All-New Honda Civic hatchback จะมาพร้อม 2 ขุมพลังทางเลือก คือเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 158 แรงม้า ที่ 6500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 187 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ CVT ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งช่วยให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น อีกหนึ่งขุมพลัง ก็คือเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร ที่ 1,700-4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ CVT เช่นกัน โดย Civic hatchback เจนเนอเรชั่นใหม่ จะมีระบบส่งกำลังที่เป็นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดรุ่นใหม่ ให้เลือกในบางรุ่นย่อยด้วย ซึ่งจะให้ความรู้สึกในการขับขี่ ที่สนุกมากขึ้น
ทั้ง Civic sedan และ Civic hatchback จะมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยอย่างครบครัน และถือว่าเป็นครั้งแรกในโลก ที่มีการติดตั้งถุงลมนิรภัย สำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า ที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดโอกาสบาดเจ็บจากการชน ที่อาจจะทำให้เกิดผลกระทบกับสมองอย่างรุนแรง Civic ใหม่ ยังมาพร้อมโครงสร้างตัวถัง ACE ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น สำหรับตัวถังที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม
Civic Hatchback ใหม่ในทุกรุ่นย่อย จะมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย Honda Sensing ที่มีระบบกล้องเดี่ยวแบบใหม่ล่าสุด ที่ให้มุมมองที่กว้างขึ้น ไกลขึ้น มากกว่าระบบกล้องเรเดาร์แบบเดิม และเมื่อทำงานร่วมกับซอฟแวร์เวอร์ชั่นใหม่ ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ ที่ทรงพลังมากขึ้น ทำให้ระบบความปลอดภัยนี้ ทำงานได้รวดเร็ว มีความแม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในการตรวจจับคนเดินถนน คนปั่นจักรยาน และยานพาหนะอื่นๆ รวมถึงป้ายจราจรต่างๆ
Honda ยังได้เพิ่มระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ เมื่อรถติด Traffic Jam Assist และระบบกล้องแบบใหม่ มาใน Civic โฉมนี้ด้วย ซึ่งช่วยให้ระบบต่างๆที่มีอยู่เดิม เช่นระบบเบรค มีการตอบสนองดีขึ้น เมื่อมีการใช้งานระบบ Adaptive Cruise Control รวมถึงช่วยให้การหักเลี้ยวพวงมาลัย เป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เมื่อมีการใช้งานระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน โดยในบางรุ่นย่อย มีการเพิ่มระบบควบคุมการเบรคที่ความเร็วต่ำ ระบบป้องกันการชนด้านหน้าและหลัง เมื่อออกสตาร์ต ที่มาพร้อมเซนเซอร์ 8 ตัว โดย Honda ยังรักษาความเป็นผู้นำ ในด้านความปลอดภัยสำหรับคนเดินถนน ด้วยการใช้เหล็กกันชนหน้า ที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงกระแทก หากมีการชนที่บริเวณขา รวมถึงการใช้ฝากระโปรงหน้า ที่มีโครงสร้างภายใน ที่ช่วยลดแรงกระแทกจากการชน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบกับศีรษะได้
Honda ยังไม่ประกาศราคาจำหน่าย ของ All-New Civic hatchback เจนเนอเรชั่นใหม่ ในขณะนี้