ตลาดรถกระบะปิกอัพของไทย เริ่มร้อนแรงตั้งแต่ต้นปี เมื่อ Mazda ทำการแนะนำอย่างเป็นทางการ ให้กับ All-New BT-50 เจนเนอเรชั่นใหม่ เมื่อไม่กี่วันก่อน ที่มาพร้อมดีไซน์ ที่ฉีกรูปแบบไปจากรูปโฉมที่ดุดันบึกบึน ในสไตล์ดั้งเดิมของรถกระบะ ไปเป็นแบบรถยนต์นั่ง ที่นอกจากจะเจาะตลาดคนที่ต้องการความแตกต่าง ด้วยความแกร่ง ที่มาพร้อมความหรูหราแล้ว กลุ่มสุภาพสตรี ก็เป็นเป้าหมายหลักของ Mazda ในการทำตลาด BT-50 ด้วยเช่นกัน ซึ่งทำให้รถกระบะรุ่นนี้ มีตลาดของตัวเอง ส่งผลให้ไม่มีการแข่งขัน ที่ดุเดือดมากนัก
และตลอดเวลาที่เหลือของปี คงไม่มีรถกระบะรุ่นใด ที่จะได้รับความสนใจ มากไปกว่าพันธมิตรเก่าของ Mazda BT-50 นั่นก็คือ All-New Ford Ranger เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่จะมีการเปิดตัว ในครึ่งหลังของปี 2021 หลังจากที่ได้ทำตลาดโฉมเดิม มานานหลายปี จนอันดับยอดขายในเมืองไทย ตกลงมาเป็นที่ 4 ตามหลัง Mitsubishi Triton ไปแล้ว การเปิดตัวโฉมใหม่ น่าจะทำให้ Ranger ขยับกลับขึ้นไปเป็นที่ 3 ได้ไม่ยากนัก
และอย่างที่เราได้เคยนำเสนอ ข้อมูลทางเทคนิคเบื้องต้นของ All-new Ranger ไปแล้ว ว่าอาจจะมาพร้อมแพลตฟอร์มเดิม ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งล่าสุด สื่อดังของออสเตรเลีย อย่าง Carsguide ได้ออกมายืนยันอีกครั้งแล้วว่า Ford Ranger โฉมใหม่ จะไม่เป็นรุ่นใหม่ทั้งคัน แบบ All-new 100% ตามที่ควรจะเป็น สำหรับการเปลี่ยนเจนเนอเรชั่น ที่โดยปกติแล้ว แพลตฟอร์มของตัวรถ ก็จะถูกปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด สมกับการเป็นเจนเนอเรชั่นใหม่ แต่สำหรับ Ranger รุ่นปี 2022 โฉมใหม่นี้ จะมาพร้อมแพลตฟอร์มที่เรียกว่า T6.2 ซึ่งการที่ Ford ยังคงใช้แพลตฟอร์มเดิม เหตุผลหลักๆ เป็นเรื่องของการลดต้นทุนในการวิจัยและผลิต อีกอย่าง ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า แพลตฟอร์มเดิม มีความสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว และยังไม่มีนวัตกรรมที่น่าสนใจ และคุ้มค่าพอที่จะนำมาใช้ เพื่อแลกกับต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งแพลตฟอร์ม T6.2 ยังได้ถูกนำไปใช้ Bronco ใหม่ รถเอสยูวีสไตล์ออฟโรด ที่เปิดตัวไป เมื่อปีที่ผ่านมา
ในด้านสมรรถนะ ขุมพลังเดิมที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ความจุ 2.2 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 5 สูบ ความจุ 3.2 ลิตร จะไม่มีอีกต่อไป แต่ยังคงมีขุมพลังเดิม ที่เป็นเครื่องยนต์ดีเซลทวินเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ส่วนขุมพลังใหม่ คาดว่าจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว 174 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร นอกจากนั้น จะมีเครื่องยนต์ V6 สำหรับ Ranger รุ่นบน ซึ่งได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบเดี่ยว ความจุ 3.0 ลิตร 248 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ ความจุ 2.7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 308 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตร
สำหรับระบบส่งกำลัง คาดว่าจะมีทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ Torque-Converter 10 สปีด ระบบขับเคลื่อนมีทั้ง 4×2 และ 4×4 ให้เลือก โดยรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน คาดว่าจะมีเพียงเกียร์อัตโนมัติ เป็นทางเลือกเดียวที่ให้มา ส่วนรุ่นไฮบริด คาดว่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ และมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ซึ่งถ้า Ford เปิดตัว Ranger รุ่นไฮบริดภายในปีนี้ ก็จะทำให้ Toyota Hilux Hybrid ที่มีข่าวการเตรียมเปิดตัว ภายในปลายปี 2021 เช่นกัน มีคู่แข่งขึ้นมาทันที
การพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่จากของเดิม เพื่อลดต้นทุน จึงทำให้มีเรื่องที่น่าลุ้นต่อไปว่า ราคาของ Ranger โฉมใหม่ จะสอดคล้องกับต้นทุน ที่ไม่ได้สูงขึ้นมาก อย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่ หรือ Ford จะเพิ่มฟีเจอร์และอุปกรณ์ต่างๆ เข้ามาให้มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้สมเหตุสมผล กับราคาที่ตั้งใหม่ แต่ไม่ว่าจะมีการใช้แพลตฟอร์มเดิมหรือไม่ ก็ไม่น่าจะส่งผล ต่อการตัดสินใจซื้อของกลุ่มลูกค้า ตราบใดที่มีการปรับโฉมใหม่หมดทั้งคัน การมีสมรรถนะ และประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆที่ให้มา และที่สำคัญ ราคาจำหน่ายที่น่าสนใจ