ยอดขายรถยนต์ของไทย ประจำเดือนพฤศจิกายน 2563 (2020) จากรายงานสถิติการขายของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
Brand | พฤศจิกายน 2563 | เปอร์เซ็นต์ | |
---|---|---|---|
Sales | Share(%) | ||
Toyota | 28,191 | 35.605 | |
Isuzu | 17,577 | 22.2 | |
Honda | 8,908 | 11.251 | |
Mitsubishi | 6,050 | 7.641 | |
Mazda | 4,034 | 5.095 | |
Nissan | 3,836 | 4.845 | |
Ford | 3,310 | 4.181 | |
MG | 3,021 | 3.816 | |
Suzuki | 2,412 | 3.046 | |
Hino | 974 | 1.23 | |
Hyundai | 274 | 0.346 | |
Subaru | 249 | 0.314 | |
KIA | 130 | 0.164 | |
Lexus | 88 | 0.111 | |
Peugeot | 60 | 0.076 | |
Porsche | 36 | 0.045 | |
CP FOTON | 12 | 0.015 | |
TATA | 8 | 0.01 | |
SsangYong | 5 | 0.006 | |
Chevrolet | 2 | 0.003 | |
Alfa Romeo | 0 | 0 | |
Aston Martin | 0 | 0 | |
Audi | 0 | 0 | |
B.M.W. | 0 | 0 | |
Bentley | 0 | 0 | |
Benz | 0 | 0 | |
Changan | 0 | 0 | |
Chery | 0 | 0 | |
Chrysler | 0 | 0 | |
Citroen | 0 | 0 | |
Daewoo | 0 | 0 | |
Daihatsu | 0 | 0 | |
Daimler | 0 | 0 | |
DFM | 0 | 0 | |
Ferrari | 0 | 0 | |
Foton | 0 | 0 | |
Hummer | 0 | 0 | |
IVECO | 0 | 0 | |
JAC | 0 | 0 | |
Jaguar | 0 | 0 | |
Lamborghini | 0 | 0 | |
Land Rover | 0 | 0 | |
Lotus | 0 | 0 | |
MAN | 0 | 0 | |
Maserati | 0 | 0 | |
Maxus | 0 | 0 | |
McLaren | 0 | 0 | |
MG | 0 | 0 | |
Mini | 0 | 0 | |
Mitsu-Fuso | 0 | 0 | |
Mitsuoka | 0 | 0 | |
NAZA | 0 | 0 | |
Nissan Diesel | 0 | 0 | |
Polarsun | 0 | 0 | |
Proton | 0 | 0 | |
Rolls Royce | 0 | 0 | |
Rover | 0 | 0 | |
Saab | 0 | 0 | |
Scania | 0 | 0 | |
Seat | 0 | 0 | |
Skoda | 0 | 0 | |
Volkswagen | 0 | 0 | |
Volvo | 0 | 0 | |
WuLing | 0 | 0 | |
Total | 79,177 |
ประเด็นสำคัญ
ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายนมีปริมาณการขาย 79,177 คัน เพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 7.2% และตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 8.2% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าภาพรวมของตลาดในเดือนนี้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆในประเทศกำลังไปในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐที่มีอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ โครงการ “คนละครึ่ง” และราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ กำลังซื้อของผู้บริโภคในหลายจังหวัดปรับตัวดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลในเชิงบวกให้กับตลาดรถยนต์
ส่วนตลาดรถยนต์สะสม 11 เดือน มีปริมาณการขาย 688,057 คัน ลดลง 24.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตลดลง 34.5% ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตลดลง 18.3% เป็นผลกระทบมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ส่งผลกระทบไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นยังส่งผลไปทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตามภาครัฐฯ ยังคงออกมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจในด้านต่างๆ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนรวมถึงเศรษฐกิจไทยให้สามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ นอกจากนี้ในด้านของตลาดรถยนต์ บรรดาค่ายรถยนต์ต่างๆยังคงมอบข้อเสนอพิเศษ รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ และปรับปรุงใหม่ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37 เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ในเดือนธันวาคมมีทิศทางที่ดีขึ้น
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนพฤศจิกายน 2563
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 79,177 คัน เพิ่มขึ้น 2.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 28,279 คัน | เพิ่มขึ้น 4.0% | ส่วนแบ่งตลาด 35.7% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 17,577 คัน | เพิ่มขึ้น 20.2% | ส่วนแบ่งตลาด 22.2% |
อันดับที่ 3 ฮอนด้า | 8,908 คัน | เพิ่มขึ้น 0.2% | ส่วนแบ่งตลาด 11.3% |
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 25,437 คัน ลดลง 7.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 7,420 คัน | ลดลง 23.6% | ส่วนแบ่งตลาด 29.2% |
อันดับที่ 2 ฮอนด้า | 7,376 คัน | เพิ่มขึ้น 9.3% | ส่วนแบ่งตลาด 29.0% |
อันดับที่ 3 มาสด้า | 2,746 คัน | ลดลง 6.7% | ส่วนแบ่งตลาด 10.8% |
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 53,740 คัน เพิ่มขึ้น 8.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 20,859 คัน | เพิ่มขึ้น 19.3% | ส่วนแบ่งตลาด 38.8% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 17,577 คัน | เพิ่มขึ้น 20.2% | ส่วนแบ่งตลาด 32.7% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 3,727 คัน | เพิ่มขึ้น 5.5% | ส่วนแบ่งตลาด 6.9% |
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 42,763 คัน เพิ่มขึ้น 6.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 17,305 คัน | เพิ่มขึ้น 10.7% | ส่วนแบ่งตลาด 40.5% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 16,578 คัน | เพิ่มขึ้น 24.0% | ส่วนแบ่งตลาด 38.8% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 3,727 คัน | เพิ่มขึ้น 5.5% | ส่วนแบ่งตลาด 8.7% |
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 5,318 คัน
โตโยต้า 2,766 คัน – อีซูซุ 1,108 คัน – มิตซูบิชิ 838 คัน – ฟอร์ด 465 คัน – นิสสัน 141 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 37,445 คัน เพิ่มขึ้น 3.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 15,470 คัน | เพิ่มขึ้น 21.5% | ส่วนแบ่งตลาด 41.3% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 14,539 คัน | เพิ่มขึ้น 3.5% | ส่วนแบ่งตลาด 38.8% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 2,889 คัน | เพิ่มขึ้น 6.7% | ส่วนแบ่งตลาด 7.7% |
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – พฤศจิกายน 2563
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 688,057 คัน ลดลง 24.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 211,119 คัน | ลดลง 30.3% | ส่วนแบ่งตลาด 30.7% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 158,277 คัน | เพิ่มขึ้น 3.8% | ส่วนแบ่งตลาด 23.0% |
อันดับที่ 3 ฮอนด้า | 82,966 คัน | ลดลง 28.7% | ส่วนแบ่งตลาด 12.1% |
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 236,659 คัน ลดลง 34.5%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า | 69,041 คัน | ลดลง 22.7% | ส่วนแบ่งตลาด 29.2% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 59,341 คัน | ลดลง 44.9% | ส่วนแบ่งตลาด 25.1% |
อันดับที่ 3 นิสสัน | 24,666 คัน | ลดลง 25.7% | ส่วนแบ่งตลาด 10.4% |
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 451,398 คัน ลดลง 18.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 158,277 คัน | เพิ่มขึ้น 3.8% | ส่วนแบ่งตลาด 35.1% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 151,778 คัน | ลดลง 22.3% | ส่วนแบ่งตลาด 33.6% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 31,541 คัน | ลดลง 29.5% | ส่วนแบ่งตลาด 7.0% |
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน* (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 357,947 คัน ลดลง 19.9%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 146,901 คัน | เพิ่มขึ้น 6.1% | ส่วนแบ่งตลาด 41.0% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 129,512 คัน | ลดลง 25.8% | ส่วนแบ่งตลาด 36.2% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 31,541 คัน | ลดลง 29.5% | ส่วนแบ่งตลาด8.8% |
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 37,064 คัน
โตโยต้า 17,033 คัน – มิตซูบิชิ 8,224 คัน – อีซูซุ 5,333 คัน – ฟอร์ด 4,487 คัน – นิสสัน 1,315 คัน –เชฟโรเลต 672 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 320,883 คัน ลดลง 18.2%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 141,568 คัน | เพิ่มขึ้น 9.1% | ส่วนแบ่งตลาด 44.1% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 112,479 คัน | ลดลง 25.3% | ส่วนแบ่งตลาด 35.1% |
อันดับที่ 3 มิตซูบิชิ | 23,317 คัน | ลดลง 28.3% | ส่วนแบ่งตลาด 7.3% |