Isuzu เปิดตัว All-New D-MAX ในประเทศออสเตรเลีย ด้วยขุมพลังที่มีเพียงรุ่นเดียว นั่นก็คือ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ รหัส 4JJ3-TCX ความจุ 3.0 ลิตร บล็อคใหม่ ที่เข้ามาแทนที่ขุมพลังเดิม รหัส 4JJ1 ด้วยการอัพเกรดในส่วนของเสื้อสูบ ฝาสูบ และระบบหัวฉีดน้ำมัน ทำให้เครื่องยนต์ใหม่ มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม ด้วยกำลังสูงสุด 190 แรงม้า PS แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร
แต่ในปัจจุบัน รถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานทั่วไปมากขึ้น และรัฐบาลของแต่ละประเทศ ก็มีนโยบายสนับสนุนในเรื่องนี้ อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งผู้เล่นสำคัญ ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน อย่าง Toyota Mitsubishi Nissan ก็มีแผนในการเปิดตัวรถกระบะไฮบริด ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า นั่นทำให้ Isuzu จำเป็นจะต้องปรับตัวตามไปด้วย หากยังต้องการมีที่ยืนในตลาดแห่งนี้
เรื่องนี้ ได้รับการยืนยัน จากทางผู้บริหารของ Isuzu ประเทศออสเตรเลีย ว่า Isuzu กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษา การนำเอาระบบไฮบริด มาใช้กับทั้งรถกระบะปิกอัพ อย่าง D-MAX และรถ PPV อย่าง MU-X ในขณะเดียวกัน บริษัทก็ยังรอดูกระแสตอบรับของตลาด ที่มีต่อ D-MAX เจนเนอเรชั่นใหม่ เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ที่เป็นเพียงขุมพลังเดียว สำหรับทุกรุ่นย่อย ที่จำหน่ายในช่วงแรก
นอกจากนั้น Isuzu ก็กำลังพิจารณา การทำตลาดรุ่นเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร 150 แรงม้า PS แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร ในประเทศออสเตรเลีย เหมือนกับที่มีจำหน่ายในเมืองไทย ซึ่งเครื่องยนต์บล็อคนี้ ผ่านมาตรฐานด้านมลพิษ Euro 6 อีกด้วย ในขณะที่ตลาดยุโรป ที่เข้มงวด ในเรื่องการปล่อยมลพิษจากรถยนต์มากกว่า Isuzu เลือกที่จะทำตลาด เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลทวินเทอร์โบ ความจุ 1.9 ลิตร ที่ผ่านมาตรฐานด้านมลพิษ โดยไม่จำเป็นต้องมี ระบบ Adblue SCR ซึ่งเป็นการใช้ของเหลว ในการบำบัดมลพิษ ในท่อไอเสียของรถยนต์ แต่อย่างใด
Isuzu ไม่ได้ให้รายละเอียด ถึงช่วงเวลาที่จะเปิดตัว D-MAX Hybrid ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงใด แต่อย่างน้อย ก็เป็นการให้ความมั่นใจว่า Isuzu D-MAX จะไม่ตกขบวน ในการใช้ระบบไฮบริดกับรถยนต์ในไลน์อัพ ในอนาคตอย่างแน่นอน หากในที่สุด ตลาดส่วนใหญ่ หันมาใช้รถกระบะปิกอัพไฮบริด