ก่อนหน้านี้ เราได้เคยนำเสนอข่าว การย้ายฐานการผลิตบ้างส่วนของ Mazda จากไทยไปสู่ญี่ปุ่น โดยสายการผลิต ที่มีการคาดหมายว่า จะถูกโยกย้ายเป็นอันดับต้นๆ ก็คือสายการผลิต Mazda CX-3 ที่ล่าสุด มีการยืนยัน จากทางผู้บริหารของ Mazda แล้วว่า ข่าวดังกล่าว เป็นความจริง
เมื่อ มาร์ค ฟลินทอฟท์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร ของ Mazda ออสเตรเลีย ได้ออกมาให้ข่าวว่า Mazda ได้ย้ายฐานการผลิต CX-3 จากเมืองไทยไปยังประเทศญี่ปุ่น เมื่อต้นปี 2020 นี้ และจะยุติการผลิต CX-3 รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ไปในคราวเดียวกัน
ฟลินทอฟท์ ให้เหตุผลของการเลิกทำตลาด CX-3 ขุมพลังดีเซล ว่าในปัจจุบัน CX-3 เครื่องยนต์เบนซิน ได้รับความนิยมมากกว่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซลมาก ซึ่งยอดขายที่ออกมา เป็นเครื่องบ่งชี้ได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ขุมพลังดีเซล ยังจะมีใช้ต่อไป ในรถรุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น CX-5 CX-8 รวมถึงรถกระบะปิกอัพ BT-50 Pro ซึ่งมาตรการจำกัด การทำตลาดรถเครื่่องยนต์ดีเซล สะท้อนถึงการปฏิบัติตามปณิธาน Sustainable Zoom-Zoom ที่บริษัทได้ประกาศไว้ ในปี 2007 ที่แสดงวิสัยทัศน์ของ Mazda ในการลดการปล่อยมลพิษจากยานยนต์ รวมถึงลดการทำตลาดรถยนต์ ที่สร้างมลภาวะให้กับโลก ให้ได้ 50% ภายในปี 2030 และให้ได้ถึง 90% ภายในปี 2050
ในขณะเดียวกัน ก็มีมาตรการในรูปแบบอื่น เสริมเข้าไปด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ การแนะนำรถยนต์พลังงานสะอาด เข้าสู่ตลาดให้มากขึ้น ซึ่ง Mazda MX-30 รถยนต์ไฟฟ้า ที่เพิ่งเผยโฉมไปไม่กี่เดือนก่อน ที่นอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังจะมาช่วยเติมเต็มตลาดของ suv ขนาดเล็ก ด้วยขนาดที่แทบจะเท่ากับ CX-30 ในทุกมิติ ซึ่ง CX-30 ก็เพิ่งเปิดตัวในเมืองไทย ไปเมื่อวันก่อน
การที่ Mazda ย้ายฐานการผลิต CX-3 ไปยังประเทศญี่ปุ่น และจะทำการส่งออกไปยังบางตลาดเท่านั้น เช่น ออสเตรเลีย เป็นการส่งสัญญาณกลายๆว่า อนาคตของ CX-3 ในเมืองไทย อาจจะจางหายไปแบบเงียบๆ เพราะการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น จะทำให้ราคาจำหน่ายสูงขึ้นมาก จากภาษีนำเข้า และภาษีอื่นๆที่เกี่ยวข้อง อีกทั้ง Mazda เอง ก็เพิ่งแนะนำทางเลือกใหม่ให้กับคนไทย อย่าง CX-30 ที่น่าสนใจและดีกว่า ทำให้ CX-3 ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล อาจจะไม่มีจำหน่ายต่อไป ในอนาคตอันใกล้ แม้จะมีข่าวว่า Mazda ประเทศไทย จะยังทำตลาด CX-3 ต่อไปก็ตาม