ในที่สุด Suzuki Indomobil Sales (SIS) ประเทศอินโดนีเซีย ก็ได้ทำการเปิดตัว All-new XL7 หรือที่รู้จักกันอย่างไม่เป็นทางการว่า Ertiga SUV เมื่อวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งอาจจะไม่ได้สร้างเซอร์ไพรซ์ ให้กับผู้ที่สนใจมากนัก เพราะก่อนหน้านี้ ได้มีข้อมูล ภาพ และราคา ที่เรียกได้ว่าแทบจะทั้งหมด ของ XL7 ถูกปล่อยออกมาผ่านทางโซเซียลมีเดีย และสื่อยานยนต์ต่างๆของอินโดนีเซีย แต่ในการเปิดตัวครั้งนี้ มีข้อมูลหลายอย่างที่น่าสนใจ เกี่ยวกับสมาชิกใหม่รุ่นล่าสุดของ Suzuki
Seiji Itayama ประธานบริหารของ SIS เปิดเผยในระหว่างงานแถลงข่าว ว่าการเปิดตัว Suzuki XL7 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “The New Extraordinary SUV” ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเปิดตัวระดับ World Premiere เพราะนอกจากรถรุ่นนี้ จะถูกผลิตและจำหน่ายในอินโดนีเซียแล้ว Suzuki ยังมีแผนส่งออก XL7 ไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆทั่วโลกด้วยเช่นกัน นอกจากนั้น ยังเป็นการฉลองครบรอบปีที่ 50 ของ Suzuki ในประเทศอินโดนีเซีย
ผู้บริหารของ Suzuki ยังเคลมอีกว่า XL7 มีข้อดีเหนือกว่าคู่แข่ง ที่เป็นรถ SUV ขนาด 7 ที่นั่งราคาประหยัด ในหลายจุด มีหลายฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ไม่มีมาให้ในคู่แข่ง อย่าง Honda BR-V, Toyota Rush และ Daihatsu Terios ในขณะที่ราคา ก็สามารถแข่งขันได้กับคู่แข่งทั้ง 3 รายดังกล่าว แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า Suzuki ไม่ได้พาดพิงถึง Xpander Cross ที่เป็นคู่แข่งรายล่าสุด และกำลังจะเปิดตัวในเมืองไทย ในอีกไม่กี่สัปดาห์ ข้างหน้านี้
Dony Saputa ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ SIS กล่าวเพิ่มเติมว่า XL7 ถือว่าเป็นรถยนต์ขนาด 7 ที่นั่งที่มีขนาดใหญ่ เป็นการสานต่อรถในตำนาน อย่าง Suzuki Grand Escudo XL7 ในอดีต โดยมีจุดขายสำคัญ 3 อย่างด้วยกัน คือดีไซน์ภายนอกที่ดูดุดันแข็งแกร่ง ห้องโดยสารที่ให้ความสะดวกสบายสูงสุด และฟีเจอร์ที่ทันสมัย ครบครัน ทั้งหมดนี้ ทำให้ Suzuki XL7 เป็นรถ SUV ขนาด 7 ที่นั่ง ที่มาพร้อมรูปโฉมและบุคลิกที่ทันสมัย ซึ่งจะสร้างความประทับใจ ให้กับทุกคนที่ได้พบเห็น
Suzuki XL7 มาพร้อมดีไซน์ในแบบรถ suv ที่บริษัทพยายามเน้นย้ำในจุดนี้ นั่นทำให้รูปลักษณ์ ถูกนำเสนออกมาให้เห็น ถึงความดุดัน แข็งแกร่ง ไฟหน้าและไฟ Daytime เป็นแบบ LED มาพร้อมพาร์ตตกแต่งรอบคัน มีการติดตั้งแร็คหลังคา และสปอยเลอร์ท้ายหลังคา ในแบบรถ suv ล้ออัลลอยเป็นขนาด 16 นิ้ว ใหญ่กว่ารุ่น Ertiga หุ้มด้วยยางที่มีขนาด 195/60
ห้องโดยสารภายในของ XL7 รองรับได้ 7 ที่นั่ง แดชบอร์ดมีการตกแต่งด้วยชิ้นงาน ที่มีลวดลายในแบบคาร์บอนไฟเบอร์ เพิ่มความสปอร์ต จอแสดงผลกลางมีขนาด 8 นิ้ว หน้าจอแสดงผลการขับขี่ MID แบบสี พวงมาลัยมาพร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่าน Bluetooth ในรุ่น Beta และ Alpha โดยในรุ่น Alpha ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุด จะมาพร้อมกระจกมองหลังอัจฉริยะ Smart E-Mirror เพิ่มความสะดวก ด้วยปุ่ม Start/Stop ใน 2 รุ่นบน อย่าง Beta และ Alpha ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล ที่นั่งทั้ง 3 แถว จะมาพร้อมช่องจ่ายไฟ โดยเบาะนั่งแถวที่ 1 และ 2 จะมีที่วางแขนบริเวณกึ่งกลาง มาให้ด้วย
ระบบกันสะเทือนหน้า เป็นแบบ McPherson Strut พร้อมคอยล์สปริง ส่วนด้านหลังเป็นแบบ Torsion Beam พร้อมคอยล์สปริง ระบบห้ามล้อหน้าเป็นแบบดิสก์เบรค ส่วนล้อหลังเป็นแบบดรัมเบรค
ในด้านระบบความปลอดภัย Suzuki XL7 นอกจากจะใช้โครงสร้าง Heartect ที่มีความแข็งแรง และมีน้ำหนักเบาแล้ว ยังได้รับการติดตั้งระบบความปลอดภัยต่างๆมาให้ด้วย อาทิ ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Hold Control ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบป้องกันล้อล็อค ABS เซนเซอร์หลังช่วยจอด ระบบ immobilizer & keyless entry alarm โดยใน 2 รุ่นบนคือ Beta และ Alpha จะมีระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวมาให้ด้วย โดยโครงสร้างตัวถัง ยังได้รับการบุ ด้วยวัสดุดูดซับเสียง เพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก เข้าสู่ห้องโดยสาร
เมื่อเทียบกับรุ่น Ertiga มิติตัวถังของ XL7 จะมีขนาดใหญ่กว่าในทุกมิติ ดังนี้ ยาว 4450 มม ยาวกว่า Ertiga 55 มม กว้าง 1775 มม กว้างกว่า Ertiga 40 มม สูง 1710 มม สูงกว่า Ertiga 20 มม โดยมีความสูงใต้ท้องรถ อยู่ที่ 200 มม มากกว่า Ertiga 20 มม โดยทั้ง XL7 และ Ertiga จะใช้โครงสร้างตัวถัง Heartect เหมือนกัน ซึ่งจะมีน้ำหนักเบากว่าโครงสร้างตัวถังทั่วไป ที่มีขนาดเท่ากัน ถึง 10% และแม้ว่ารถยนต์ทั้งสองรุ่น จะมีการใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน แต่ในรายละเอียดแล้ว กลับใช้ชิ้นส่วนที่แตกต่างกัน มากถึง 211 ชิ้นส่วน ซึ่งหลายส่วน ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก เช่น ดีไซน์ของถังน้ำมัน กล่อง ECU และ BCM หรือ Body Control Module ของทั้งสองรุ่น ก็แตกต่างกัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบ Mitsubishi Xpander Cross ที่กำลังจะเปิดตัวในเมืองไทย ในอีกไม่กี่สัปดาห์นับจากนี้ XL7 กลับมีขนาดเล็กกว่าในทุกมิติ คือสั้นกว่า 50 มม แคบกว่า 25 มม และต่ำกว่า 40 มม
และเป็นการยืนยันข้อมูล ที่ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ Suzuki จะจำหน่าย All-New XL7 ใน 3 รุ่นย่อย คือ Zeta Beta และ Alpha มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว ความจุ 1462 ซีซี รหัส K15B เช่นเดียวกับที่ใช้ในรุ่น Ertiga ให้กำลังสูงสุด 104.7 แรงม้า ที่ 6000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ที่ 4400 รอบ/นาที มีทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดให้เลือก โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 230 ไปจนถึง 267 ล้านรูเปี๊ยะห์ คิดเป็นเงินไทย อยู่ที่ประมาณ 524,500 บาท ไปจนถึง 609,000 บาท
Suzuki XL7 จะมีสีตัวถังภายนอก 6 สีให้เลือก คือ สีส้ม-ดำ สีกากี-ดำ สีดำ สีขาวมุก สีแดงมุก และสีเทาเมทัลลิค