การประกาศเปิดตัว ด้วยการเป็นรถกระบะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาด พร้อมด้วยเทคโนโลยี i-Smart ที่เป็นจุดขายของ Extender ทำให้ MG วางเป้ายอดขายไว้ที่ 20,000 คัน ใน 12 เดือนแรก หรือ 1,667 คันต่อเดือน แต่หลังจากที่ได้ทำตลาดไปแล้ว 3 เดือน สถานการณ์กลับตรงกันข้าม เพราะล่าสุด ยอดขายในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา MG Extender ทำได้เพียง 90 คันเท่านั้น จากยอดขายในเดือนแรก สิงหาคม ที่เปิดตัวไว้ที่ 25 คัน ตามมาด้วยตัวเลข 96 คัน ในเดือนกันยายน ทำให้มียอดขายสะสม 3 เดือน เพียง 211 คันเท่านั้น จากเป้าที่วางไว้ ที่ 5,000 คัน ใน 3 เดือนแรก หรือทำได้เพียง 4.22% เท่านั้น
ซึ่งจนถึงตอนนี้ น่าจะพอบอกได้แล้วว่า MG Extender ได้เข้าสู่ขั้นวิกฤตในการทำตลาด ที่ SAIC Motor และ MG Sales ประเทศไทย ต้องระดมความคิดในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะแน่นอนว่า สายการผลิต และระบบ supply chain ต่างๆ ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ ที่มากกว่า 1600 คันต่อเดือน การทำยอดขายได้ต่ำกว่าเป้าหมายมากอย่างที่เห็น จึงส่งผล ทั้งในส่วนของต้นทุนการผลิตที่สูง ที่ได้ถูกออกแบบไว้ล่วงหน้า การจัดเก็บสินค้าที่อยู่ในสต็อก การดูแลบำรุงรักษาสินค้า ที่ยังไม่มีการจำหน่ายออกไป หรือแม้แต่แผนงานการส่งออก ที่วางไว้ในอนาคต แต่นั่นคงไม่สำคัญ เท่ากับการทำตลาดในระยะยาว ที่ดูเหมือนว่า MG ยังไม่สามารถหาทางออกที่เหมาะสมได้ หลังจากที่ล่าสุด ได้เปิดตัว presenter คนใหม่ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่เข้ามาเสริมภาพลักษณ์ และกระตุ้นยอดขายให้กับ Extender
และอย่างที่เราได้เคยนำเสนอไปตั้งแต่ต้นว่า ปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ Extender ไปไม่ถึงฝัน ก็คือเรื่องของราคาที่สูงเกินไป ในฐานะที่ยังเป็นรถกระบะน้องใหม่ในตลาดเมืองไทย ที่มีการแข่งขันสูงมาก ซึ่งในขณะนั้น MG อาจจะมองว่า จุดขายในเรื่องมิติตัวถังที่ใหญ่กว่าคู่แข่ง และเทคโนโลยีต่างๆที่ใส่เข้ามา น่าจะทำให้สามารถตั้งราคาสูงกว่าที่ควรจะเป็นไปได้ ในขณะเดียวกัน ก็มีข่าว Isuzu เตรียมเปิดตัว All-New D-MAX เจนเนอเรชั่นใหม่ ภายในปีนี้ และทีมงานของ MG เอง ก็น่าจะรับทราบ ถึงความเคลื่อนไหวดังกล่าว ของคู่แข่งสำคัญ แต่ก็คงไม่มีใครคิดว่า ยอดขายที่จะได้มา จะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ มากถึงขนาดนี้
ณ ตอนนี้ จึงมีคำถามตามมาว่า MG ประเทศไทย จะแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างไร เมื่อคู่แข่งต่างๆในตลาด ก็ทยอยเปิดตัวรถกระบะรุ่นใหม่ ออกมาแทบจะครบกันทุกค่าย หรือบางค่าย ก็ใช้กลยุทธ์ราคา เพื่อรักษายอดขายเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่า คนส่วนใหญ่ ต่างแนะนำให้ MG ลดราคา Extender ลงเช่นกัน หากต้องการแจ้งเกิดในตลาดที่ดุเดือดนี้ แต่การลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขาย หลังจากที่ได้เปิดตัวไปเพียง 3 เดือน ก็น่าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายของบริษัท เพราะนั่นคือวิธีที่ง่ายที่สุด แต่ก็เป็นวิธีที่แสดงถึงความผิดพลาด ในการตัดสินใจของ MG ไปในคราวเดียวกัน
สถานการณ์ของ MG Extender จึงเป็นที่น่าจับตามองว่า รถกระบะสายพันธุ์ใหม่ จะมีทางออกต่อไปอย่างไร และครั้งนี้ น่าจะเป็นกรณีศึกษาสำคัญ ให้กับผู้เล่นรายใหม่ในอนาคต โดยเฉพาะ Peugeot ที่มีแผนในการทำตลาดรถกระบะในเมืองไทย ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า