รีวิว Mazda CX-8 2020 ใหม่ รถ Crossover SUV 3 แถว 6-7 ที่นั่ง ราคาเริ่มต้น 1.599 ล้านบาท

มาสด้าต้องการให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้เพลิดเพลินกับการใช้เวลากับรถยนต์ของพวกเขาในทุกๆ ช่วงของชีวิตพวกเขา พวกเราได้พัฒนามาสด้า CX-8 ซึ่งเป็นรถครอสโอเวอร์เอสยูวีที่นั่ง 3 แถวรุ่นล่าสุดเพิ่มขึ้นมาในผลิตภัณฑ์เจเนอเรชั่นใหม่ ด้วยความปรารถนาที่จะมอบคุณค่าและทางเลือกใหม่สำหรับลูกค้า ผู้ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม หรือ ใช้สำหรับการโดยสารที่มากกว่า 5 ที่นั่ง มาสด้า CX-8 จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่มีความปรารถนาในรถยนต์รุ่นนี้ได้อย่างแน่นอน ในฐานะของการเป็นรถเรือธงของรถ ครอสโอเวอร์เอสยูวีของมาสด้า

เราได้แนะนำมาสด้า CX-5 ในปี พ.ศ. 2555 เป็นรถยนต์รุ่นแรกที่มาพร้อมกับ KODO design และเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ (SKYACTIV Technology) อย่างเต็มรูปแบบ นวัตกรรมเหล่านี้ได้ถูกนำมาใช้กับรถยนต์รุ่นอื่นๆ เริ่มจาก รถมาสด้า3 รถมาสด้า2 และอื่นๆ ตามลำดับ ผลลัพธ์ก็คือ รถยนต์เจเนอเรชั่นใหม่เหล่านี้ ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ด้านรถยนต์ และลูกค้า ทั้งในด้านของการออกแบบที่สำคัญ และมีชีวิตชีวา สมรรถนะการขับขี่ที่มอบความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ (Jinba-ittai) การใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ออกแบบโดยเน้นให้มนุษย์เป็นศูนย์กลาง รวมไปถึงการคัดสรรวัสดุคุณภาพสูง

ในฐานะที่เป็นรถรุ่นที่ 8 ในเจเนอเรชั่นใหม่ของมาสด้า รถมาสด้า ซีเอ็กซ์-8 มุ่งมั่นที่จะผสมผสานการใช้งานแบบที่นั่ง 3 แถว เข้ากับการออกแบบที่น่าประทับใจ และสมรรถนะการขับขี่ที่ทรงคุณค่าในฐานะรถครอสโอเวอร์เอสยูวีระดับเรือธง มาสด้า CX-8 ใหม่ มุ่งมั่นที่จะมอบคุณค่าที่ดีเยี่ยมในทุกๆ สถานการณ์การขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีค่ากับครอบครัว กับเพื่อนๆ หรือจะเป็นความสนุกสนานในการออกไปท่องเที่ยวด้วยตัวคุณเองก็ตาม

เรามุ่งมั่นที่จะสร้างการออกแบบที่ให้ความรู้สึกถึงความพรีเมียม และรูปลักษณ์ที่ทั้งดูดีเหนือกาลเวลา และล้ำสมัยที่จะยังคงสร้างความรู้สึกในเชิงบวก และความตื่นเต้นให้กับผู้เป็นเจ้าของได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี เราทุ่มเทที่จะสร้างบรรยากาศแห่งความภูมิฐานและคุณภาพในระดับสูง เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่มองหาความมีคุณภาพอย่างแท้จริงด้วยรถครอสโอเวอร์เอสยูวีระดับเรือธงของพวกเรา โทนสีและวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ประกอบไปด้วยวัสดุแบบ Real Wood และเบาะหนัง Nappa

ในเรื่องของสมรรถนะในการขับขี่ การพัฒนามีจุดมุ่งหมายเพื่อระยะทางในการขับขี่และสมรรถนะที่เหนือกว่าที่ทำให้คุณอยากที่จะขับรถต่อไปเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้เราจึงนำเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) ที่มาพร้อมกับสมรรถนะในการขับขี่และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มากขึ้น และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5) ซึ่งให้ทั้งความคล่องแคล่วและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยมมาใช้ ดังนั้นมาสด้า CX-8 จึงรวมการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยมและสมรรถนะการขับขี่ที่ราบรื่นและทรงพลังอันเป็นสิ่งที่ท้าทายภาพลักษณ์ของรถที่นั่งแบบ 3 แถว

แพลตฟอร์มดังกล่าวได้ถูกปรับปรุงมาจากแพลตฟอร์มที่ใช้กับมาสด้า CX-9 ซึ่งเป็นรถครอสโอเวอร์เอสยูวีระดับเรือธงสำหรับตลาดอเมริกาเหนือที่ได้รับการยกย่องเป็นอย่างมาก อีกทั้งมาสด้า CX-8 ยังมอบความเพลิดเพลินในการขับขี่ที่เป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ (Jinba-ittai) และการขับขี่ที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมทั้งการเดินทางไกลและการขับขี่ในเมือง รวมไปถึงความเงียบภายในห้องโดยสารในขณะขับขี่ที่เงียบกว่าช่วยให้มั่นใจว่าผู้โดยสารในทั้งสามแถวสามารถเพลิดเพลินกับการสนทนาหรือฟังเพลงได้อย่างสุนทรี

ในขณะที่มาสด้า CX-8 มีความกว้างเทียบเท่ากับมาสด้า CX-5 แต่ด้วยห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาดทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับ 7 คน และแม้กระทั่งผู้ใหญ่ก็สามารถนั่งได้อย่างสบายในแถวที่สาม เพื่อสนับสนุนรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายของลูกค้า เราได้เสนอทางเลือกที่แตกต่างกัน 2 แบบ สำหรับที่นั่งแถวที่ 2 รวมไปถึงพื้นที่เก็บสัมภาระสามารถปรับเปลี่ยนได้  อุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อความสะดวกสบายในระดับสูงสุด

ปรัชญาความปลอดภัยเชิงป้องกันของมาสด้า (Mazda Proactive Safety) ช่วยให้มั่นใจถึงพื้นฐานด้านความปลอดภัย อันประกอบไปด้วย ตำแหน่งการขับขี่ที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง และทัศนวิสัยที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่รถทุกรุ่นมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง i-ACTIVSENSE ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มการรับรู้และการตัดสินใจของผู้ขับขี่ เทคโนโลยีความปลอดภัยล่าสุดของมาสด้ามีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัยขณะเดียวกันก็ช่วยให้ผู้ขับขี่ผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับการขับขี่ ตัวอย่างเช่น ระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง (360° View Monitor) ที่ช่วยทำให้ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อมในบริเวณแคบและ หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสี (Active Driving Display) ที่แสดงข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญบนกระจกหน้ารถ

ในฐานะที่เป็นรถครอสโอเวอร์เอสยูวีระดับเรือธง All-New CX-8 ใหม่ ถือเป็นทางเลือกที่มีคุณภาพสูงซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความพึงพอใจ และการใช้งานจริงในรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายของลูกค้า ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการพื้นที่มากขึ้น หรือความจุที่นั่งมากขึ้นรวมถึงผู้ที่ต้องการคุณภาพที่สูงกว่าและความสะดวกสบายในการนั่งโดยสารที่มากกว่า รถยนต์รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับสมรรถนะการขับขี่ที่โดดเด่น การออกแบบและความรู้สึกที่มีคุณภาพของมาสด้า ไม่มีอะไรที่จะทำให้ทีมพัฒนาพอใจได้มากไปกว่าการที่มาสด้า CX-8 สามารถมอบความสุขให้แก่ลูกค้าและสร้างความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ

ฮิเดกิ มัทสึโอกะ

ผู้จัดการโครงการมาสด้า CX-8

___________________________________________________________________________

2. คุณค่าที่สำคัญ

มาสด้า CX-8 ใหม่ เป็นรถครอสโอเวอร์เอสยูวีระดับเรือธงของมาสด้าสำหรับตลาดประเทศไทย และเป็นอีกหนึ่งในผลิตภัณฑ์ภายใต้ปรัชญาการพัฒนาที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางของมาสด้า ซึ่งถูกสร้างขึ้นเพื่อมอบความก้าวหน้าล่าสุดของการออกแบบและเทคโนโลยี มาสด้า CX-8 แสดงถึงแนวทางที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความพึงพอใจและการใช้งานจริงให้กับรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายของลูกค้ามาสด้า มันถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการพื้นที่มากขึ้น หรือต้องการความจุที่นั่งมากขึ้นรวมถึงผู้ที่ต้องการคุณภาพที่สูงกว่าและความสะดวกสบายที่มากกว่าเมื่ออยู่บนท้องถนน

คุณค่าที่ 1

ความงามเหนือกาลเวลาและการออกแบบที่มีคุณภาพที่จะสร้างความพึงพอใจและความตื่นเต้นให้กับเจ้าของในทุกๆ วัน

  • การออกแบบภายนอกแสดงให้เห็นถึงความสวยงามและความสง่างาม
  • การตกแต่งภายในเต็มไปด้วยความงดงาม ความสะดวกสบาย และคุณภาพระดับสูง
  • วัสดุคุณภาพสูงและสีภายในผสมผสานกลมกลืนเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นตามกาลเวลา

คุณค่าที่ 2

การขับขี่เป็นระยะทางไกลที่จะช่วยขยายขอบเขตการใช้ชีวิตของคุณ

  • ความเพลิดเพลินในการขับขี่และความสามารถในการขับขี่สำหรับระยะทางไกลที่ดีเยี่ยมทำให้คุณรู้สึกว่าสามารถขับได้อย่างไม่รู้จบ
  • ระยะต่ำสุดจากพื้นที่เหมาะสมและสมรรถนะของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) ช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกสภาพถนน
  • การขับขี่ที่สะดวกสบายอาจทำให้ผู้โดยสารรู้สึกเมื่อยล้าเพียงเล็กน้อย แม้ต้องเดินทางไกล

คุณค่าที่ 3

ความสะดวกสบาย และบรรยากาศภายในห้องโดยสารที่สร้างความมั่นใจได้ว่า ทุกการเดินทางจะเต็มไปด้วยความสุข

  • พื้นที่ห้องโดยสารมาพร้อมกับที่นั่งที่สะดวกสบายและปลอดภัยแก่ผู้โดยสารทั้งสามแถว
  • ที่นั่งแถวที่สามหรือพื้นที่เก็บสัมภาระที่ปรับเปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณวางแผนวันนั้นอย่างไร
  • เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่ครบครัน เพื่อสนับสนุนประสบการณ์การขับขี่ที่น่าพอใจ

3. การออกแบบ

การออกแบบรถครอสโอเวอร์เอสยูวีที่โดดเด่น ต้นกำเนิดของแนวทางการออกแบบ KODO ที่ดูภูมิฐาน

มาสด้ามุ่งมั่นที่จะสร้างรูปลักษณ์ที่อยู่เหนือกาลเวลา และล้ำสมัยให้กับมาสด้า CX-8 โดยมีเป้าหมายคือ เพื่อมอบความงดงามที่อยู่เหนือกาลเวลาและความรู้สึกระดับพรีเมียมในห้องโดยสาร ที่จะยังคงสร้างความน่าตื่นเต้นให้กับเจ้าของรถอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ของพวกเขาในอีกหลายปีข้างหน้า

ทีมออกแบบได้ทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่มีคุณภาพสูง ผ่านการใช้วัสดุตกแต่งแบบ Real Wood เพื่อบรรยากาศที่อบอุ่น และเบาะหนัง Nappa เพื่อสัมผัสที่นุ่มนวล ในทุกๆ รายละเอียด มาสด้า CX-8 ได้นำเสนอการออกแบบที่ควรค่ากับการเป็นรถเอสยูวีระดับสูงของมาสด้า

การสร้างความแตกต่างด้วยการนำเสนอรถที่มีขนาดใหญ่กว่า พื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง และหรูหรากว่าแบบดั่งเดิมอย่างชัดเจน มาสด้า CX-8 ผสมผสานการขับขี่ที่สนุกสนานเข้ากับความรู้สึกที่มีคุณภาพและความสะดวกสบายในพื้นที่ห้องโดยสาร เพื่อสร้างการออกแบบของรถครอสโอเวอร์เอสยูวีที่โดดเด่นไม่เหมือนใครที่เหมาะสมกับแบรนด์มาสด้า

การออกแบบภายนอกแสดงให้เห็นถึงความงดงามและความสง่างาม

ความทุ่มเทที่จะทำให้การออกแบบภายนอก คู่ควรกับการเป็นรถครอสโอเวอร์เอสยูวีระดับสูงของมาสด้าอย่างแท้จริง โดยให้ความสำคัญกับสัดส่วน รูปทรง และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ด้วยการมุ่งเน้นไปที่รูปแบบในแนวนอนที่ไหลลื่นสำหรับรูปลักษณ์โดยรวม แสดงให้เห็นถึงการออกเอสยูวีรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานรูปทรงที่แข็งแกร่งและทรงพลังพร้อมรูปลักษณ์ที่แสดงออกถึงความภูมิฐานและความสง่างาม

สัดส่วนที่โดดเด่นนำเสนอสมรรถนะการขับขี่ที่เพลิดเพลิน

เราได้ให้ความสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับการสร้างห้องโดยสารให้มีขนาดและรูปลักษณ์ที่ทำให้มาสด้า CX-8 นั้นสวยงามยิ่งกว่ารถเอสยูวีในท้องตลาด ด้วยการสร้างห้องโดยสารที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งานแต่มีสไตล์ รวมถึงความสง่างามของตัวถังอย่างน่าประทับใจ มาสด้า CX-8 ได้ถูกออกแบบให้มีสัดส่วนที่สวยงามและช่วยให้เพลิดเพลินไปกับสมรรถนะการขับขี่

อารมณ์ความรู้สึกที่สง่างาม

ความเรียบง่ายและการเคลื่อนไหวเชิงพลศาสตร์อันเป็นผลมาจากแนวทางที่เน้นความเรียบง่ายได้ถูกนำมาใช้กับพื้นผิวด้านข้างของตัวรถ สร้างรูปแบบที่สง่างามที่ทำให้เกิดการสะท้อนแสงที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาและรูปลักษณ์ที่อบอุ่น เชิญชวนให้น่าหลงใหล ในขณะเดียวกัน ซุ้มล้อและเส้นด้านข้างของตัวรถก็แสดงให้เห็นถึงพลังและความแข็งแกร่งในแบบรถเอสยูวี

รายละเอียดที่ผสมผสานความงดงามและฟังก์ชั่นได้อย่างลงตัว

ชิ้นส่วนโลหะที่ออกแบบมาอย่างปราณีต อาทิเช่น โครเมียมรอบหน้าต่างด้านข้างถูกนำมาใช้ตกแต่งภายนอก เพื่อช่วยแสดงความแข็งแกร่งอย่างสง่างามผ่านสัดส่วนและรูปทรงที่สวยงามของรถ

จุดเด่นของการออกแบบ

  • ด้านหน้าของรถ

ด้านหน้ารถที่ดูกว้าง มีความโดดเด่นด้วยการออกแบบให้อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำ รวมกับความเฉียบคมของโคมไฟหน้าและซิกเนเจอร์วิง (Signature wings) นอกจากนี้กระจังหน้ายังได้รับการออกแบบใหม่ประกอบไปด้วยแถบสีเงินที่มีมิติความลึกซึ่งวางในแนวนอน ทำให้ด้านหน้ารถดูโดดเด่น ภูมิฐาน และแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน

  • หน้าต่างด้านข้าง

การตกแต่งเสา B และเสา C ด้วยวัสดุสีดำเปียโนและโครเมียมที่อยู่รอบหน้าต่างด้านข้างช่วยเพิ่มรูปลักษณ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของเส้นโค้งจากบริเวณเหนือเสา C แสดงถึงความสง่างามของการเคลื่อนไหวในการออกแบบที่ไหลจากด้านหน้าไปด้านหลัง

  • ราวหลังคา

ราวหลังคาที่มีคุณภาพดีราวกับว่าแกะสลักจากโลหะชิ้นเดียวเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น XDL EXCLUSIVE ราวหลังคานี้เป็นจุดเด่นเพื่อเน้นรูปทรงและความงดงามที่สืบเนื่องมาจากระยะฐานล้อที่ยาวของมาสด้า CX-8

  • โคมไฟท้ายและการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์

มุมมองจากด้านหลังได้รับการออกแบบโดยมีองค์ประกอบทั้งหมดที่ลื่นไหลในแนวนอนและแสดงออกถึงความงดงามที่ไม่สิ้นสุด โคมไฟท้ายนำเอาการดีไซน์แบบสามมิติมาใช้มากขึ้น ในขณะที่มีคิ้วโครเมียมที่แสดงออกถึงความมีเอกลักษณ์พาดผ่านระหว่างโคมไฟท้ายช่วยเพิ่มความรู้สึกถึงงานฝีมือและคุณภาพ ผลลัพธ์โดยรวมคือ รูปลักษณ์ที่สง่างามได้อย่างน่าพอใจ

สีภายนอกของตัวรถ

สีภายนอกมีทั้งหมด 6 สี ประกอบด้วย สีเทา แมชชีน เกรย์ ที่มีความสมดุลระหว่างความงามของความแม่นยำเชิงกลและความแตกต่างของแสงและเงา และสีแดง โซล เรด คริสตัส, สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล, สีเงิน โซนิค ซิลเวอร์, สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัส บลู และสีดำ เจ็ทแบล็ก ให้เลือกในทุกรุ่นของมาสด้า CX-8

การออกแบบภายในที่เน้นคุณภาพและความรู้สึก

การออกแบบภายในเน้นการสร้างพื้นที่ที่สะดวกสบายสำหรับทุกคนภายในห้องโดยสาร มีความพิถีพิถันในการเลือกรูปแบบที่สวยงามพร้อมกับวัสดุและสีที่เข้ากันได้ดีที่สุด ยกตัวอย่างเช่น การเลือกวัสดุแบบ Real Wood และหนัง Nappa เป็นวัสดุที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศของห้องโดยสาร ผลลัพธ์ที่ได้คือ พื้นที่ที่ผ่อนคลายและมีคุณภาพสูงพร้อมบรรยากาศของการเรียนรู้ที่สะดวกสบายอันเต็มไปด้วยสิ่งที่สะท้อนความมีรสนิยม

พื้นที่ห้องโดยสารออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนที่สะดวกสบาย

เช่นเดียวกับรถยนต์มาสด้าทุกรุ่น บริเวณคนขับล้อมรอบด้วยสวิชต์ควบคุมและมาตรวัดที่ถูกจัดวางแบบสมมาตร และมีการวางผังในแนวนอนที่ต่อเนื่องมาจากศูนย์กลางของแผงหน้าปัดไปจนถึงขอบประตู บรรยากาศที่เกิดขึ้นนั้นสร้างความหนักแน่นที่น่าตื่นเต้นที่กระตุ้นให้ผู้ขับขี่มุ่งเน้นไปที่ถนนข้างหน้า ในขณะที่ยังแสดงให้รู้สึกถึงความกว้างอีกด้วย การผสมผสานการออกแบบนี้เข้ากันได้ดีกับเพดานหลังคาสีดำและแผงคอนโซลที่ใช้วัสดุและสีที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า CX-8 ทำให้เกิดบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร

มาสด้า CX-8 ยังคงใช้ชิ้นส่วนที่เป็นโครเมียมในการตกแต่งภายใน ซาตินโครม (Satin Chrome) ชวนให้นึกถึงโลหะที่บ่งบอกถึงภาพความแข็งแกร่งของเอสยูวี ในขณะที่โครเมียมแบบมันวาวช่วยเพิ่มความสง่างาม การผสมผสานของทั้งสองสิ่งนี้เพิ่มความพิเศษให้กับบรรยากาศที่ผ่อนคลายของห้องโดยสาร

จุดเด่นของการออกแบบ

  • วัสดุแบบ Real Wood ผสมผสานความอบอุ่นกับสไตล์ที่ทันสมัย

วัสดุแบบ Real Wood ถูกนำมาใช้กับแผงหน้าปัดและแผงประตูในทุกรุ่น ความอบอุ่นของวัสดุธรรมชาติผสมผสานกับกระบวนการเคลือบที่เพิ่มความทันสมัยให้กับรถเอสยูวีระดับสูงของมาสด้า

  • สัมผัสที่น่ารื่นรมย์ของเบาะหนัง Nappa

เบาะหนังหุ้มด้วยหนัง Nappa ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของสัมผัสที่นุ่มนวลและความรู้สึกที่มีคุณภาพ เพื่อสร้างรูปลักษณ์ที่มีคุณภาพสูงเหมาะสมกับรถเอสยูวีระดับสูงของมาสด้า การออกแบบเบาะนั่งโดยให้มีการเจาะรูขนาดเล็กบนหนัง ไม่ได้ลดประสิทธิภาพในการดูดซับเสียงและความร้อน หนัง Nappa ให้ความรู้สึกสัมผัสที่ดีกว่าและเข้ากับรูปทรงของเบาะได้อย่างแนบสนิทยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความรู้สึกที่มีคุณภาพโดยรวมในห้องโดยสาร

  • การออกแบบคอนโซลกลางเน้นความรู้สึกของความมีรสนิยม

แผงคอนโซลกลางขนาดใหญ่และแผงคันเกียร์ตกแต่งด้วยสีดำเปียโน ล้อมรอบด้วยเมทัลลิกรูปตัวยู สิ่งนี้รวมเข้ากับการวางระดับคอนโซลกลางที่สูง เพื่อให้ได้รูปลักษณ์และมิติความลึกที่เหมาะกับการออกแบบมาสด้า CX-8

  • แผงควบคุมระบบปรับอากาศและสวิตช์แบบหมุน

การวางสวิตช์ในแนวนอน เมื่อรวมกับพื้นที่แสดงผลที่กว้างขึ้นและสวิตช์แบบหมุนที่มีขนาดเล็ก การออกแบบแผงควบคุมระบบปรับอากาศ ช่วยให้รู้สึกถึงความสอดคล้องกันของการออกแบบในแนวนอนของการออกแบบภายใน และด้านข้างของสวิตช์แบบหมุน อาทิเช่น ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander ได้ใช้ผิวสัมผัสที่ละเอียดและให้ความรู้สึกที่ดีเมื่อใช้งาน

  • กระจกไฟฟ้าเปิด/ปิดโดยการสัมผัสเพียงครั้งเดียว

สามารถเปิด-ปิดกระจกทุกบาน โดยการสัมผัสเพียงครั้งเดียว มาพร้อมกับสวิตช์ที่มีไฟเรืองแสงช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานและความรู้สึกถึงคุณภาพ โดยฟังก์ชั่นนี้ได้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่น

สีภายใน

มาสด้า CX-8 นั้นมาพร้อมกับการตกแต่งภายในแบบเดียว คือภายในหนัง Nappa สีแดง Deep Red

  • ภายในสีแดง Deep Red

ส่วนบนสีดำและส่วนล่างสีแดง Deep Red รวมกันเพื่อสร้างความอบอุ่นและผ่อนคลาย การใช้โทนสีเข้มสองแบบเพื่อแยกส่วนบนและส่วนล่างของห้องโดยสารสร้างบรรยากาศที่ทันสมัยและให้ความรู้สึกกว้างขวาง

4. พื้นที่ภายใน

ห้องโดยสารที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ออกแบบมาเพื่อคุณภาพและความสะดวกสบาย

ตามปรัชญาการออกแบบที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนารถยนต์ของมาสด้าความพยายามร่วมกันได้ถูกสร้างขึ้น เพื่อสภาพแวดล้อมของห้องโดยสารที่ให้ผู้โดยสารทั้งสามแถวนั่งได้อย่างนุ่มนวลและสบาย ดังนั้น การออกแบบที่นั่งตามหลักสรีรศาสตร์และสภาพแวดล้อมที่กว้างขวางทำให้ผู้โดยสารทุกคนสามารถนั่งในท่าทางที่สะดวกสบายอันเป็นจุดเริ่มต้นที่จำเป็น นอกจากนี้ พื้นที่ภายในยังมีทางเข้าและออกที่ง่าย รวมถึงบริเวณพื้นที่เก็บสัมภาระที่ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับความต้องการของผู้ใช้งาน การพัฒนามุ่งเน้นไปที่การทำให้แถวที่สามสามารถใช้งานได้จริงและมอบความรู้สึกคุณภาพระดับพรีเมียมที่เหมาะสมกับเอสยูวีระดับสูงของมาสด้า ผลลัพธ์ที่ได้คือ พื้นที่ห้องโดยสารที่ทันสมัยและสะดวกสบาย ผู้โดยสารทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับการขับขี่ที่ยาวนานไม่ว่าพวกเขาจะนั่งที่เบาะใดก็ตาม

ขนาดตัวถังที่คล่องตัว

แม้ในขณะที่มีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวางตามความคาดหวังของรถเอสยูวีที่มีที่นั่งสามแถว ความกว้างและความสูงโดยรวมของ รถมาสด้า ซีเอ็กซ์-8 นั้นมีความใกล้เคียงกับของ รถมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ขนาดมิติตัวรถนี้ทำให้ตัวถังมีขนาดเล็กกว่า รถมาสด้า ซีเอ็กซ์-9 ซึ่งทำให้ง่ายต่อการบังคับควบคุม กันชนหลังและประตูด้านท้าย (Liftgate) ได้รับการออกแบบเพื่อให้ใช้พื้นที่ด้านหลังรถน้อยกว่าเมื่อยกเปิดประตูด้านท้าย

การเปรียบเทียบขนาดมิติรถ มาสด้า CX-8 มาสด้า CX9 และมาสด้า CX5

  มาสด้า CX8 มาสด้า CX-9 (อ้างอิง) มาสด้า CX-5 (อ้างอิง)
ความยาวรวม มิลลิเมตร 4,900 5,075 4,550
ความกว้างรวม มิลลิเมตร 1,840 1,969 1,840
ความสูงรวม มิลลิเมตร 1,730 1,747 1,680
ระยะฐานล้อ มิลลิเมตร 2,930 2,930 2,700
ความกว้างล้อหน้า มิลลิเมตร 1,595 1,663 1,595
ความกว้างล้อหลัง มิลลิเมตร 1,600 1,663 1,595
รัศมีเลี้ยวแคบสุด เมตร 5.8 5.9 5.5
ส่วนยื่นด้านหน้า มิลลิเมตร 950 1,032 950
ส่วนยื่นด้านหลัง มิลลิเมตร 1,020 1,113 900

ห้องโดยสารออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายอย่างแท้จริง

การพัฒนาเน้นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่มีอยู่อย่างเต็มที่ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารแต่ละคนสามารถนั่งได้อย่างสบายด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ เป้าหมายคือการออกแบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกขนาดสามารถนั่งในท่าทางที่เหมาะสมที่สุดในเบาะนั่งแถวหน้า มีความสะดวกสบายและกว้างขวางสำหรับผู้โดยสารร่างใหญ่ในแถวที่สอง และยังรองรับผู้โดยสารที่สูงถึง 170 เซนติเมตรในแถวที่สาม การสร้างมาสด้า CX-8 อย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ตรงกับเกณฑ์เหล่านี้ส่งผลให้ได้พื้นที่ห้องโดยสารที่สะดวกสบาย และทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับการขับรถทางไกล

ตำแหน่งการขับขี่ในอุดมคติ

ที่นั่งแถวหน้า ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางของมาสด้าและช่วยให้ผู้โดยสารมีท่านั่งแบบธรรมชาติเพื่อรักษาเส้นโค้งรูปตัว S ในอุดมคติของกระดูกสันหลัง รูปแบบสมมาตรสำหรับพวงมาลัยและแป้นเหยียบทำให้ผู้ขับขี่อยู่ตรงกลาง คุณสมบัติเหล่านี้รวมเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ตำแหน่งการขับขี่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการรักษาท่าทางการขับขี่ที่มั่นคงเป็นธรรมชาติ เพื่อสนับสนุนการขับขี่ที่ตอบสนองต่อความตั้งใจของผู้ขับขี่อย่างแท้จริง

เบาะนั่งพับแยก 60:40

เบาะนั่งแถวที่ 2 ได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อความสบายในการนั่ง เบาะที่นั่งสามารถปรับเลื่อนไปด้านหน้า-หลังได้ถึง 120 มิลลิเมตร ปรับได้ขั้นละ 10 มิลลิเมตร พนังพิงหลังสามารถปรับเอียงได้  22 องศา ถึง 30 องศา และพับไปข้างหน้าเพื่อให้เข้าถึงแถวที่ 3 ได้สะดวกง่ายดาย

การออกแบบเบาะนั่งของมาสด้าช่วยให้เบาะนั่งด้านซ้ายและขวารองรับบริเวณเชิงกรานอย่างมั่นคงและที่เท้าแขนสามารถพับเก็บในพนักพิงหลังตรงกลางเพื่อรองรับผู้โดยสารคนที่เจ็ด การพับเบาะนั่งแถวที่สองและสามลงจะทำให้มีพื้นที่ราบขนาดใหญ่ ช่วยให้ รถมาสด้า ซีเอ็กซ์-8 พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ต้องการนั่งโดยสารสูงสุด 7 คนหรือเคลื่อนย้ายสิ่งของสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งขนาดใหญ่

เบาะนั่งแถวที่สามสามารถนั่งได้อย่างเป็นธรรมชาติ

สอดคล้องกับแนวทางการออกแบบที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลางของมาสด้า การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์กำหนดความสูงของเบาะนั่งแถวที่ 3 และพื้นที่ใต้เบาะนั่งแถวที่ 2 ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับเท้าของผู้โดยสาร เป็นผลให้ผู้โดยสารที่มีความสูงถึง 170 เซนติเมตร สามารถนั่งได้อย่างเป็นธรรมชาติและสะดวกสบาย

การเข้าและออกห้องโดยสารที่ยอดเยี่ยม

ประตูหลังของมาสด้า CX-8 เปิดกว้างได้สูงสุดถึง 80 องศา เพื่อความสะดวกที่เพิ่มขึ้นเมื่อทำการขนถ่ายสิ่งของขนาดใหญ่หรือเมื่อติดตั้ง-ถอดหรือปรับเบาะนั่งสำหรับเด็ก เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าและออกจากแถวที่สามประตูจึงมีขนาดที่กว้างเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กว้างขึ้นเมื่อเปิดประตู นอกจากนี้ รูปร่างของแผงประตูยังได้รับการออกแบบเพื่อให้ง่ายต่อการเข้าและออก ถึงแม้ว่าประตูจะไม่เปิดกว้างเต็มที่ก็ตาม บริเวณด้านหน้าของที่วางแขนของเบาะนั่งแถวที่ 3 และส่วนล่างของเสา C นั้นจะง่ายต่อการเข้าสู่ห้องโดยสารและทำให้ยืนบริเวณเบาะนั่งแถวที่สามได้ง่าย

การดึงคันโยกสำหรับการเข้า-ออกเบาะนั่งแถวที่ 3 ซึ่งอยู่บริเวณพนักพิงของเบาะนั่งแถวที่ 2 ทำให้เบาะพับลงและเลื่อนไปข้างหน้า สิ่งนี้สร้างพื้นที่พิเศษเพื่อให้ง่ายขึ้นในการเข้าและออกจากเบาะนั่งแถวที่ 3 ร่วมกับการวางแนวของเสา C ให้ตั้งขึ้นทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องบิดหรืองอร่างกายขณะเข้า-ออก

พื้นที่เก็บของภายในห้องโดยสาร

ช่องเก็บของที่เหมาะสมกับความต้องการที่หลากหลายหรือรูปแบบการใช้งานนั้นถูกจัดวางไว้ทั่วห้องโดยสารเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดและใช้งานง่ายสำหรับผู้โดยสารในที่นั่งทั้ง 3 แถว ผู้โดยสารแถวหน้าสามารถเข้าถึงกล่องคอนโซลขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดายโดยมีช่องเชื่อมต่อ USB ในตัว  แถวที่ 2 มีที่วางแขนตรงกลางพร้อมที่วางแก้วในตัว และช่องเก็บของในแถวที่ 3 สามารถใส่ขวดพลาสติกขนาด 500 มิลลิลิตร พร้อมกับสมาร์ทโฟนหรือสิ่งของขนาดเล็กได้

พื้นที่เก็บสัมภาระ

เมื่อบรรทุกผู้โดยสาร 7 คน มาสด้า CX-8 จะมีพื้นที่เก็บสัมภาระ 209 ลิตร (VDA) เพียงพอที่จะบรรจุถุงกอล์ฟ 2 ใบ1 เมื่อพับเบาะแถวที่ 3 ลงจะมีพื้นที่เก็บสัมภาระ 742 ลิตร (VDA) เพียงพอที่จะรองรับกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ 3 ใบ (67 เซนติเมตร)1 การพับเบาะที่นั่งทั้งแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ลงจะสร้างพื้นที่ราบขนาดใหญ่พอที่จะใส่จักรยาน 2 คันได้1 นอกจากนี้ยังมีประตูด้านท้ายไฟฟ้า ที่สามารถเปิดและปิดโดยอัตโนมัติเมื่อกดสวิตช์

1 ถูกทดสอบโดยใช้ตัวอย่างที่เป็นตัวแทนขนาดเฉลี่ย ชิ้นส่วนที่มีขนาดใกล้เคียงบางขิ้นอาจไม่สามารถเข้าได้เนื่องจากรูปร่างหรือการออกแบบ

2 อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น 2.5 SP, XDL และ XDL EXCLUSIVE

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติเต็มรูปแบบในที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติในแถวหน้าเป็นการควบคุมที่เป็นอิสระสำหรับที่นั่งคนขับและผู้โดยสาร มีการไหลเวียนอากาศแบบ 2 ชั้น ซึ่งจะช่วยไหลเวียนอากาศบริสุทธิ์ในส่วนบนของห้องโดยสาร และยังมีการหมุนเวียนอากาศในบริเวณเท้าของผู้โดยสารอีกด้วย เบาะหลังใช้ระบบปรับอากาศอัตโนมัติซึ่งช่วยให้ผู้โดยสารแถวที่สองควบคุมอุณหภูมิสำหรับเบาะด้านหลังได้อย่างอิสระ ช่องระบายอากาศสำหรับระบบปรับอากาศด้านหลังติดตั้งอยู่ที่ด้านหลังของคอนโซลกลางและใต้เบาะนั่งแถวที่สอง

ม่านบังแดดประตูหลัง

ม่านบังแดดแบบม้วนถูกติดตั้งในส่วนบนของแผงประตูด้านหลัง ผู้โดยสารสามารถดึงม่านบังแดดขึ้นเพื่อให้อยู่ในตำแหน่งที่ช่วยบังแสงแดดซึ่งจะครอบคลุมหน้าต่างทั้งบาน

หมายเหตุ: อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น XDL EXCLUSIVE

ระบบล็อคประตูอัตโนมัติตามความเร็วรถ
ประตูจะถูกล็อคโดยอัตโนมัติเมื่อรถเริ่มเคลื่อนตัวจากจุดหยุดนิ่งจนถึงความเร็ว 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบนี้ช่วยได้ดีเมื่อมีเด็กๆ อยู่บนรถ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการด้านความปลอดภัยเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ได้รับประโยชน์จากการออกแบบที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง

ทีมพัฒนาพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้การออกแบบและโครงสร้างที่ลงตัวสำหรับการเพิ่มมุมมองที่เหมาะสม เช่น ช่องว่างระหว่างเสา A และกระจกมองข้าง หรือมุมเอียงของเสา A ผลลัพธ์ที่ได้คือทัศนวิสัยที่ชัดเจนเมื่อมองออกไปด้านหน้าให้ความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น

ความพยายามในการเพิ่มทัศนวิสัยด้านหลังรวมถึงการออกแบบห้องโดยสารให้มีขนาดที่เหมาะสม ในขณะเดียวกันก็ให้มุมมองที่ทำให้ง่ายต่อการมองเห็นรถยนต์ที่เข้ามาใกล้จากด้านหลัง รวมถึงความใส่ใจในการออกแบบหน้าต่างด้านหลังและพนักพิงศีรษะแบบพับเก็บได้ในเบาะนั่งแถวที่สาม คุณสมบัติดังกล่าวช่วยเพิ่มทัศนวิสัยด้านหลังและช่วยให้การมองเห็นยานพาหนะหรือวัตถุอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังมาสด้า CX-8 ได้ง่ายขึ้น

มาตรวัด

จอแสดงผลแบบสี (Multi-Information Display) อยู่ทางด้านขวาของแผงหน้าปัดขนาดใหญ่ เป็นแบบ TFT LCD แสดงผลแบบสีขนาด 4.6 นิ้ว พร้อมข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มองเห็นได้รวดเร็วและง่ายดาย ไฟเตือนที่ใช้แสดงผลการทำงานปกติทั้งหมดเป็นสีเขียวที่มีเฉดสีเดียวกัน และการวางตำแหน่งมาตรวัดแบบสมมาตรซ้ายขวายังช่วยเพิ่มการมองเห็นที่ดีอีกด้วย

หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า (Active Driving Display)

มาสด้า CX-8 ใช้หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบเดียวกับที่ใช้ในมาสด้า CX-5 และ มาสด้า CX-9 ซึ่งแสดงข้อมูลบนกระจกหน้ารถ โดยข้อมูลที่แสดงจะถูกแบ่งออกเป็นโซนด้านบนและด้านล่าง ข้อมูลสภาพแวดล้อมของการขับขี่จะแสดงในส่วนบน และข้อมูลความเร็วของรถในขณะนั้น และข้อมูลของระบบความปลอดภัยขั้นสูง (i-Activsense) จะแสดงในส่วนล่าง ทำให้การอ่านข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้รวดเร็วและง่ายดาย

หน้าจอ Center Display

มาสด้า CX-8 ใช้จอแสดงผลที่ใช้เทคโนโลยี optical bonding เชื่อมต่อจอ LCD และแผงสัมผัส เป็นการลดชั้นของอากาศระหว่างจอ LCD และแผงสัมผัส และลดการหักเหของแสงเพื่อลดการสะท้อนที่ผิดปกติ ทำให้แสดงภาพได้ชัดเจนและมองเห็นภาพที่ง่ายและรวดเร็ว การติดตั้งหน้าจอ Center Display ที่ด้านบนของคอนโซลหน้าช่วยลดระยะการเคลื่อนที่ของสายตาของผู้ขับขี่ในการมองหน้าจอ ซึ่งช่วยสนับสนุนการขับขี่ที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

Mazda Connect

Mazda Connect ช่วยให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตและบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้ง่ายขึ้นเมื่ออยู่ในรถ นอกเหนือจากฟังก์ชั่นด้านเสียงแล้วยังรองรับการใช้งานโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรีรวมถึง Apple CarPlay™ ผ่านการเชื่อมต่อ USB ที่ใช้งานง่ายไปยังระบบในรถยนต์ ลูกค้าสามารถใช้แอพพลิเคชันบน iPhone® ผ่านทาง Human-Machine Interface (HMI) ของ Mazda Connect แอปพลิเคชันที่ใช้งานได้ในรถยนต์มีข้อจำกัดตามสมาร์ทโฟนแต่ละเครื่อง

ระบบในรถที่สามารถใช้งานได้:

  • Apple CarPlay™: เป็นทางที่ปลอดภัยกว่าและฉลาดกว่าในการใช้ iPhone ในรถ สามารถโทรออก ส่งข้อความ ฟัง Apple Music และดูแผนที่ ด้วยเสียงผ่าน Siri

ระบบเสียงของ Bose®
(AUDIOPILOT™2 + Centerpoint®2 + ลำโพง 10 ตำแหน่ง)

ระบบเสียง 10 ลำโพงนี้ใช้ระบบ AUDIOPILOT™ 2 ของ Bose ในการชดเชยเสียงรบกวนรอบข้าง และระบบเสียงรอบทิศทาง Centerpoint®2 ของ Bose® เป้าหมายคือ การส่งมอบคุณภาพเสียงแบบเดียวกันแก่ผู้โดยสารในที่นั่งทั้ง 3 แถว การเพิ่มขนาดวูฟเฟอร์จาก 8 ลิตรในมาสด้า CX-5 เป็น 10.5 ลิตรสำหรับมาสด้า CX-8 ให้เสียงเบสที่ทรงพลังมากขึ้นตลอดทั้ง 3 แถว การปรับจูนแบบกำหนดได้เองของระบบยังให้เสียงที่เป็นธรรมชาติและชัดเจนกับทุกที่นั่งในห้องโดยสาร

วูฟเฟอร์อยู่ในตำแหน่งตรงกลางของยางอะไหล่ใต้แผ่นรองของห้องเก็บสัมภาระ เพื่อเพิ่มความรู้สึกที่มีคุณภาพใต้ห้องเก็บสัมภาระ

หมายเหตุ: อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น XDL EXCLUSIVE

5. สมรรถนะการขับขี่

สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังและราบรื่น ท้าทายภาพลักษณ์ของรถที่นั่งแบบ 3 แถว

มาสด้า CX-8 มุ่งมั่นที่จะส่งมอบสมรรถนะการขับขี่ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ขับขี่ต้องการที่จะเดินทางท่องเที่ยวไกลขึ้นกว่าเดิม  ซึ่งจะช่วยให้รู้สึกอยากขับรถไปได้ไกลเท่าที่ต้องการโดยไม่เมื่อยล้า ให้ความสะดวกสบายและความมั่นใจ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ มาสด้า CX-8 ได้รวบรวมประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ (Jinba-ittai) ของมาสด้าอย่างเต็มรูปแบบซึ่งทำให้ตระหนักถึงความพึงพอใจในการขับขี่ที่ตรงกับความรู้สึกของมนุษย์ในที่นั่งทั้ง 3 แถว เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) รุ่นใหม่ และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5) ในมาสด้า CX-8 มอบความรู้สึกที่มีคุณภาพสูงและการขับขี่ที่เงียบ สบาย และความมั่นใจ แม้แต่ผู้โดยสารในแถวที่ 3 ด้วยการใช้ความรู้ที่สะสมมานานหลายปีและเทคโนโลยีขั้นสูงล่าสุดทำให้มาสด้า CX-8 มีสมรรถนะที่ทรงพลังและราบรื่น ท้าทายภาพลักษณ์ของรถที่นั่งแบบ 3 แถว

สัมผัสได้ถึงสมรรถนะ

มาสด้า CX-8 ใช้เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5) และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) รุ่นล่าสุดของมาสด้าที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย เครื่องยนต์ใหม่ตอบสนองอย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้นกับลักษณะและระดับของการกดคันเร่ง และให้อัตราการเร่งที่ทรงพลังยิ่งขึ้น เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) ให้ความประทับใจในการขับขี่มากขึ้นตลอดจนผู้โดยสารทุกคนในรถได้รับความสะดวกสบายและความมั่นใจในระดับที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะขับในเมืองหรือการเดินทางไกลด้วยความเร็วสูง

เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) ที่ล้ำสมัย

เครื่องยนต์คลีนดีเซลของมาสด้า ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมมากมายในการส่งแรงบิดที่ยอดเยี่ยมและการทำงานที่ราบรื่นจนถึงรอบเครื่องยนต์สูง ในขณะที่มีเสียงรบกวนต่ำ และมีสมรรถนะด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมในระดับสูง

เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) รุ่นใหม่ ใช้การเผาไหม้แบบหลายขั้นตอนอย่างรวดเร็วของมาสด้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ ตามที่มุ่งมั่นให้การเผาไหม้เป็นไปตามอุดมคติของเชื้อเพลิงดีเซลที่ใช้ ด้วยเป้าหมายนี้เครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงใช้เทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรม อาทิเช่น รูปทรงลูกสูบใหม่ และหัวฉีด Piezo หลายรูที่ตอบสนองรวดเร็ว เทคโนโลยีใหม่อื่นๆ ที่นำมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ รวมถึงระบบควบคุมน้ำหล่อเย็นและเทอร์โบชาร์จเจอร์ที่มีครีบเทอร์ไบน์แบบแปรผัน นวัตกรรมเหล่านี้ช่วยเพิ่มการเผาไหม้และเพิ่มประสิทธิภาพตอนอุ่นเครื่องยนต์ ขณะเดียวกันก็ช่วยประหยัดเชื้อเพลิงเมื่อใช้งานจริง การปรับแต่งให้ได้ทั้งความนุ่มนวลในการตอบสนอง ที่มาพร้อมกับกำลังสูงสุดจาก 175 แรงม้า (PS) เป็น 190 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุดจาก 420 นิวตันเมตร เป็น 450 นิวตันเมตร อัตราส่วนการอัดเพิ่มขึ้นจาก 14.0:1 เป็น 14.4:1

เทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ ที่รวมอยู่ในเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) ได้แก่ Natural Sound Smoother และ Natural Sound Frequency Control ซึ่งช่วยลดการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ดีเซลรวมถึงการควบคุม DE Boost ที่มีความแม่นยำสูงซึ่งช่วยเพิ่มความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ให้ตรงกับความตั้งใจในการควบคุมของผู้ขับขี่

ลักษณะจำเพาะของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2)

  SKYACTIV-D 2.2
ปริมาตรกระบอกสูบ 2,191 ซีซี
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก 86.0 มิลลิเมตร x 94.3 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด 14.4
กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ (190 แรงม้า) ที่ 4,500 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ย 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร (2WD) 14.7 กิโลเมตรต่อลิตร (AWD)
การปล่อยไอเสีย คาร์บอนไดออกไซด์ (เฉลี่ย) 150 กรัมต่อกิโลเมตร (2WD) 179 กรัมต่อกิโลเมตร (AWD)
  • กระบวนการเผาไหม้แบบใหม่ของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) อันล้ำสมัย

เป้าหมายคือเพื่อให้การเผาไหม้ที่เงียบและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมกับสมรรถนะด้านสิ่งแวดล้อมในระดับสูง การพัฒนามุ่งเน้นไปที่อัตราการปลดปล่อยความร้อน เนื่องจากทีมงานของมาสด้าได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อฉีดสเปรย์น้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นละอองฝอยขนาดเล็กภายใต้แรงดันสูงเข้าไปในห้องเผาไหม้อย่างต่อเนื่อง

การเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้จะต้องทำให้ระยะเวลาการเผาไหม้สั้นลง แต่จะต้องลดอัตราการปลดปล่อยความร้อนและความดันอย่างกะทันหันเพื่อลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์ดีเซล (Diesel Knock Noise) และการปรับปรุงสมรรถนะด้านสิ่งแวดล้อมนั้นต้องการให้อากาศและเชื้อเพลิงผสมกันก่อนการเผาไหม้ การค้นหาความก้าวหน้าที่สอดคล้องกับข้อกำหนดที่ขัดแย้งกันเหล่านี้ มาสด้าได้คิดค้นกระบวนการเผาไหม้ในเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) ที่ล้ำสมัยโดยทำให้เกิดการเผาไหม้เป็น 3 ขั้นตอน

ด้วยการออกแบบเช่นนี้ส่งผลให้เกิดกระบวนการเผาไหม้ใหม่ที่เรียกว่า การเผาไหม้หลายขั้นอย่างรวดเร็ว (Rapid Multi-stage Combustion) การฉีดเชื้อเพลิงหลายครั้ง (มากถึง 6 ครั้ง) อย่างต่อเนื่องใกล้ศูนย์ตายบนทำให้เกิดการเผาไหม้ต่อเนื่อง โดยมีระยะเวลาการเผาไหม้ที่สั้นลงและลดเสียงรบกวน (เสียงน็อค) โดยการควบคุมปริมาณเชื้อเพลิงในการฉีดแต่ละครั้งอย่างแม่นยำเพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของอัตราการปลดปล่อยความร้อนเมื่อการเผาไหม้เริ่มต้น การฉีดเชื้อเพลิงแรงดันสูงทำให้น้ำมันแตกเป็นละอองฝอย ช่วยส่งเสริมการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงและอากาศอย่างทั่วถึงเพื่อการเผาไหม้ที่สะอาดยิ่งขึ้น

วิธีการเผาไหม้แบบใหม่นี้ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานเงียบลง และประหยัดมากขึ้นในระหว่างการขับขี่ในเมืองที่มีความเร็วต่ำและภาระของเครี่องยนต์ต่ำ แต่ให้เสียงเครื่องยนต์ที่ดังตามระดับการเร่งในขณะที่ต้องการสมรรถนะอันทรงพลัง

  • ห้องเผาไหม้รูปทรงไข่ที่ได้รับการออกแบบใหม่

ห้องเผาไหม้ยังคงรูปทรงไข่แบบตัดขวาง แต่รูปทรงของโพรงปลายลูกสูบถูกปรับเพื่อให้สเปรย์น้ำมันเชื้อเพลิงที่จะติดกับด้านข้างทำได้ยากขึ้น การออกแบบใหม่ช่วยลดการสูญเสียพลังงานโดยลดการถ่ายเทความร้อนให้กับผนังกระบอกสูบ

  • หัวฉีด piezo หลายรูตอบสนองเร็วเป็นพิเศษ

การนำหัวฉีดที่ให้การตอบสนองเร็วเป็นพิเศษแบบ 10 พอร์ต มาใช้ช่วยให้การฉีดแต่ละครั้ง (ต่อหนึ่งวัฏจักรการทำงานของเครื่องยนต์) สามารถเพิ่มจำนวนความถี่ในการฉีดเชื้อเพลิงได้เป็นอย่างมาก ระยะเวลาการเผาไหม้ก็สั้นลงเช่นกัน เซ็นเซอร์ความดันในตัวของหัวฉีดแต่ละตัวช่วยให้การฉีดเชื้อเพลิงแม่นยำมากขึ้น และทำงานร่วมกับรูปทรงของลูกสูบแบบใหม่เพื่อให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  • ระบบควบคุมน้ำหล่อเย็น

การใช้วาล์วควบคุมน้ำหล่อเย็นแบบใหม่ ช่วยป้องกันการสูญเสียความร้อนในขณะที่กำลังวอร์มเครื่องยนต์ ซึ่งทำได้โดยลดการไหลของสารหล่อเย็นรอบๆ ห้องเผาไหม้ การอุ่นพื้นที่รอบๆ ห้องเผาไหม้ให้ร้อนขึ้นอย่างรวดเร็วช่วยเพิ่มการจุดระเบิด ส่งเสริมการระเหยของน้ำมันเชื้อเพลิง และลดความหนืดของน้ำมันเครื่อง ลดความต้านทานเชิงกล การวอร์มเครื่องยนต์ที่เร็วขึ้นจะช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงและปรับปรุงการประหยัดเชื้อเพลิงเมื่อใช้งานจริง

  • เทอร์โบชาร์จเจอร์แปรผันแบบ 2 ขั้น

เทอร์ไบน์ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ของเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบ 2 ขั้น ทำงานอย่างอิสระหรือร่วมกันขึ้นอยู่กับความเร็วของเครื่องยนต์ และในขณะนี้เทอร์ไบน์ขนาดใหญ่ได้ใช้เทคโนโลยีครีบเทอร์ไบน์แปรผันซึ่งช่วยให้สามารถเร่งความเร็วได้เร็วขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้เพิ่มประสิทธิภาพการเร่งตลอดช่วงการทำงานของเครื่องยนต์ เพิ่มพลังและแรงบิดสูงสุด และตระหนักถึงประสิทธิภาพการทำงานที่ราบรื่นและทรงพลังยิ่งขึ้น

  • Natural Sound Smoother

เสียงน็อคของเครื่องยนต์ดีเซลที่เกิดในช่วงความถี่ 3.5 กิโลเฮิร์ต เป็นผลมาจากการสั่นสะเทือนที่เกิดจากการขยายตัวและการหดตัวของก้านสูบเมื่อการเผาไหม้เกิดขึ้น Natural Sound Smoother ใช้ตัวหน่วงการเคลื่อนที่ในแต่ละลูกสูบ เพื่อดูดซับการสั่นสะเทือนดังกล่าวและลดเสียงรบกวนจากเสียงน็อคของเครื่องยนต์ดีเซล

  • Natural Sound Frequency Control

เสียงน็อคของเครื่องยนต์เกิดขึ้นที่หรือใกล้กับความถี่ 1.3 กิโลเฮิร์ต 1.7 กิโลเฮิร์ต และ 2.5 กิโลเฮิร์ต ถูกขยายโดยการสั่นของชิ้นส่วนต่างๆ การควบคุมเวลาในการฉีดน้ำมันและการเผาไหม้ที่เพิ่มขึ้น 0.1 มิลลิวินาที และทำให้ความถี่ของแรงสั่นสะเทือนจากการเผาไหม้ทับซ้อนกับความถี่สูงสุดของชิ้นส่วนที่สะท้อนทำให้สามารถหักล้างการสั่นสะเทือนของแต่ละอันและลดเสียงรบกวนจากการน็อค การควบคุมที่แม่นยำยิ่งขึ้นเกี่ยวกับเวลาและปริมาณการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) ในมาสด้า CX-8 มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการใช้เทคโนโลยีนี้

  • การควบคุม DE Boost ที่แม่นยำสูง

การควบคุมความดันของเทอร์โบชาร์จเจอร์ (DE Boost Control) อย่างแม่นยำสูง ช่วยควบคุมการตอบสนองแรงบิดของเครื่องยนต์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยการควบคุมความดันเทอร์โบชาร์จเจอร์ให้เหมาะสมและปรับการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงให้ละเอียดยิ่งขึ้น  เครื่องยนต์ตอบสนองทันทีและแม่นยำในการเหยียบคันเร่งในขณะที่ภาระเครื่องยนต์ต่ำ เพื่อให้ได้สมรรถนะที่ตรงกับความตั้งใจของผู้ขับขี่และเสริมสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์

เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5)

อัตราการอัดที่สูงถึง 13:1 น้ำหนักที่ลดลงของเสื้อสูบอลูมิเนียมอัลลอยด์ และเพลาสมดุลที่ได้ทำการออกแบบใหม่ลดเสียงรบกวนความถี่ต่ำช่วยให้เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5) มีสมรรถนะการขับขี่ที่คล่องแคล่วและเงียบขึ้น ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดรวมถึงพอร์ตไอดีที่ทำงานได้อย่างแม่นยำ การฉีดเชื้อเพลิงแบบแยกสามขั้นตอนและวาล์วควบคุมน้ำหล่อเย็น เครื่องยนต์นี้จึงมีสมรรถนะการขับขี่ที่คล่องตัวและประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดีขึ้นเมื่อใช้งานจริง

ลักษณะจำเพาะของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5)

  SKYACTIV-G 2.5
ปริมาตรกระบอกสูบ 2,488 ซีซี
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก 89.0 มิลลิเมตร x 100.0 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด 13
กำลังสูงสุด 143 กิโลวัตต์ (194 แรงม้า) ที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 258 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ย 13.2 กิโลเมตรต่อลิตร (2WD)
การปล่อยไอเสีย คาร์บอนไดออกไซด์ (เฉลี่ย) 178 กรัมต่อกิโลเมตร (2WD)

เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด

เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-Drive ของมาสด้าผสมผสานการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยมพร้อมความรู้สึกถึงการเปลี่ยนเกียร์แบบเดียวกับเกียร์ธรรมดา รวมทั้งการเร่งความเร็วที่ราบรื่นและทรงพลังตั้งแต่เริ่มต้นจากจุดหยุดนิ่งหรือขณะที่วิ่งอยู่ เกียร์ที่จับคู่กับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYACTIV-D 2.2) และเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5) ในมาสด้า CX-8 ใช้แดมเปอร์ล็อคอัพแบบแข็งแรงต่ำ (low-rigidity lockup damper) ให้การขับขี่ที่เงียบกว่าพร้อมกับช่วงการล็อคที่กว้างขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงในช่วงการใช้งานจริง

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD ของมาสด้า

ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติที่สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ได้ของมาสด้า i-ACTIV AWD ใช้เซ็นเซอร์ 27 ตัว เพื่อตรวจสอบความตั้งใจของผู้ขับขี่ และการเปลี่ยนแปลงสภาพการขับขี่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันล้อหน้าไม่ให้ลื่นไถล น้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์ที่นำมาใช้ครั้งแรกกับมาสด้า CX-5 ที่ยังคงความหนืดต่ำแม้ในอุณหภูมิที่เย็นจัดคู่กับตลับลูกปืนแบบต้านทานต่ำรุ่นใหม่และมาตรการอื่นๆ เพื่อลดการสูญเสียพลังงานและความต้านทานเชิงกล และปรับปรุงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเมื่อใช้งานจริง

เทคโนโลยีควบคุมการขับขี่รุ่นใหม่ SKYACTIV-Vehicle Dynamics

SKYACTIV-Vehicle Dynamics เป็นชื่อของเทคโนโลยีการควบคุมการขับขี่ของมาสด้า ที่ให้ช่วยประสานการทำงานของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ ระบบส่งกำลัง ระบบช่วงล่าง และตัวถัง เพื่อเพิ่มความรู้สึกของการขับขี่ที่เป็นหนึ่งเดียวกับตัวรถ (Jinba-ittai) ซึ่งสร้างการเชื่อมต่อที่แข็งแกร่งระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ที่สร้างความแตกต่างให้กับรถยนต์มาสด้าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control (GVC) ที่ใช้เครื่องยนต์เพิ่มสมรรถนะของระบบช่วงล่าง

ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (GVC) เป็นเทคโนโลยีแรกภายใต้ SKYACTIV-Vehicle Dynamics ของมาสด้า ด้วยการปรับแรงบิดของเครื่องยนต์เพื่อตอบสนองต่อการหมุนพวงมาลัย ทำให้สามารถควบคุมแรงจี (G force) ด้านข้างและแนวตามยาว ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกควบคุมแยกจากกันให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และปรับแรงกระทำในแนวตั้งให้เหมาะสมกับล้อแต่ละล้อ เมื่อเจาะลึกลงไปในรายละเอียด GVC จะควบคุมแรงบิดของเครื่องยนต์เพื่อผ่อนแรงจีในทันทีที่คนขับเริ่มหมุนพวงมาลัยเพื่อถ่ายเทน้ำหนักไปที่ล้อหน้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับเลี้ยวของล้อหน้าและการตอบสนองของรถยนต์ เมื่อผู้ขับขี่รักษามุมบังคับเลี้ยวคงที่ตลอดการเข้าโค้ง GVC จะคืนค่าแรงบิดของเครื่องยนต์ให้ทันทีและถ่ายเทน้ำหนักเพื่อให้ได้สภาวะคล้ายกับเมื่อขับรถทางตรงและเพิ่มเสถียรภาพของตัวรถ ด้วยการถ่ายเทน้ำหนักเช่นนี้ส่งผลให้การเคลื่อนที่ของตัวรถราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับความตั้งใจของผู้ขับขี่ ในขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มความรู้สึกถึงเกาะถนนได้อย่างมั่นคงและให้ความรู้สึกปลอดภัยและความมั่นใจ GVC มีประสิทธิภาพเป็นพิเศษในรถเอสยูวี ซึ่งมีแนวโน้มที่จะสร้างแรงด้านข้างเนื่องจากจุดศูนย์ถ่วงค่อนข้างสูง จึงให้การตอบสนองและความมีเสถียรภาพของตัวรถในระดับสูง ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ทั้งผู้ขับและผู้โดยสารเคลื่อนตัวไปด้านข้างน้อยลง ทำให้ทุกคนในรถรู้สึกสบายตลอดการเดินทาง

SKYACTIV-Chassis สมรรถนะสูง น้ำหนักเบา

มาสด้า CX-8 ใช้ SKYACTIV-Chassis ของมาสด้าซึ่งให้การตอบสนองที่ตรงกับความต้องการของผู้ขับขี่พร้อมกับความสะดวกสบายและการบังคับควบคุมที่วางใจได้สูง การพัฒนาสำหรับมาสด้า CX-8 มุ่งเน้นไปที่ความสะดวกสบายและความเพลิดเพลินในการขับขี่ที่มากขึ้นสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารในที่นั่งทั้ง 3 แถว ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีขั้นสูงในขณะที่เพิ่มสมรรถนะการทำงานขั้นพื้นฐาน SKYACTIV-Chassis สำหรับมาสด้า CX-8 มอบความสบายที่เหนือชั้นซึ่งให้ความรู้สึกถึงความมีเสถียรภาพ

ระบบบังคับเลี้ยว

นอกเหนือจากการใช้ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าแบบคอลัมน์แล้ว มาสด้า CX-8 ยังใช้ลูกยางที่แข็งขึ้นสำหรับเฟืองพวงมาลัย ส่งผลให้พวงมาลัยตอบสนองได้อย่างแม่นยำพร้อมความแข็งแกร่งที่เหมาะสมกับการขับขี่ที่ต้องการการตอบสนองที่ดี

ระบบช่วงล่าง

ในการตั้งเป้าหมายที่จะมอบคุณภาพการขับขี่ที่สะดวกสบาย ซึ่งทำให้ผู้โดยสารทุกคนในห้องโดยสารรู้สึกถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับรถยนต์ มาสด้า CX-8 ใช้ระบบรองรับที่มีโครงสร้างพื้นฐานเหมือนกับมาสด้า CX-9 ซึ่งเป็นรถที่มีขนาดใหญ่กว่า คุณลักษณะของสปริงและช็อคแอบซอร์บเบอร์ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษสำหรับมาสด้า CX-8 และสปริงใหม่ที่ใช้กับช็อคแอบซอร์บเบอร์ด้านหน้าหยุดการให้ตัวซึ่งอาจทำให้ล้อหน้าด้านในยกขึ้นเมื่อเข้าโค้ง การใส่ใจในรายละเอียดนี้สร้างระบบช่วงล่างที่มั่นคง ช่วยเพิ่มความเป็นหนึ่งเดียวกัน การยึดเกาะที่ดี การขับขี่ที่ราบรื่นโดยไม่มีการโยกหรือโคลง และสมรรถนะการขับที่มั่นคง

ระบบเบรก

ระบบเบรกใช้จานเบรกพร้อมครีบระบายอากาศขนาด 12.6 นิ้วที่ด้านหน้าและจานเบรกขนาด 12.8 นิ้วที่ด้านหลัง ทำงานร่วมกับแม่ปั๊มเบรกขนาดใหญ่ทำให้การเบรกมีประสิทธิภาพสูง มีความมั่นคงและให้การควบคุมที่ดีเยี่ยม ระบบถูกออกแบบมาเพื่อให้ความรู้สึกในการเบรกที่ดีสำหรับผู้โดยสารทุกคนในห้องโดยสาร และไม่เพียงแต่ผู้ขับขี่ที่ใช้แป้นเหยียบเท่านั้น

ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electronic Parking Brake) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย ด้วยการกดสวิตช์เพียงครั้งเดียว ระบบเบรกมือไฟฟ้าจะส่งกำลังเบรกทั้งหมดที่จำเป็นในการจอดอย่างปลอดภัย เพื่อความสะดวกยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่ในการจราจรที่ติดขัด รถทุกรุ่นได้รับการติดตั้งฟังก์ชั่น Auto-hold ซึ่งช่วยให้รถหยุดได้แม้หลังจากที่คนขับยกเท้าขึ้นจากแป้นเบรก และเบรกจะถูกปลดออกเมื่อผู้ขับขี่เหยียบแป้นคันเร่ง คนขับสามารถเปิดหรือปิดฟังก์ชั่นนี้โดยใช้สวิตช์ที่ติดตั้งอยู่บนคอนโซลกลาง

SKYACTIV-Body น้ำหนักเบา ความแข็งแกร่งสูง

SKYACTIV-Body ของมาสด้ามีสมรรถนะสูงในสามด้านที่แตกต่างกัน ได้แก่ ความปลอดภัยจากการชน  โครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแกร่งสูง มาสด้า CX-8 มีความแข็งแกร่งจากโครงสร้างตัวถัง SKYACTIV-Body ที่ถูกเสริมด้วยวัสดุที่แข็งแรงในตำแหน่งที่เหมาะสม ตัวอย่างได้แก่ การใช้วัสดุเสริมขนาดใหญ่ที่ฐานของเสา A และการใช้วัสดุที่มีความแข็งแกร่งสูง นอกจากนี้ วัสดุน้ำหนักเบารวมถึงเหล็กกล้าแรงดึงสูงพิเศษขนาด 1,180 เมกะปาสคาล ที่ใช้กับเสา A ช่วยลดน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นในขณะที่เพิ่มความแข็งแรงของตัวถังได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างวงแหวนของตัวถังมาสด้า CX-8 เป็นมาสด้ารุ่นแรกที่ได้รับการออกแบบโครงสร้างแบบแยก (Forked design) ที่ฐานของเสา C นวัตกรรมนี้ทำให้สามารถรักษาโครงสร้างที่ต่อเนื่องของ SKYACTIV-Body จากส่วนบนของช็อคแอบซอร์บเบอร์ผ่านเสา C และทำได้โดยไม่กระทบต่อการออกแบบหรือความมั่นคงของโครงสร้างของมาสด้า CX-8 โครงสร้างนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง แต่ยังช่วยปกป้องผู้โดยสารแถวที่สามในกรณีที่เกิดการชนท้าย รวมไปถึงการปรับปรุงความเงียบในขณะขับขี่

สมรรถนะด้าน NVH

ในฐานะที่เป็นครอสโอเวอร์เอสยูวีแบบที่นั่งแบบ 3 แถว เป้าหมายอย่างหนึ่งสำหรับมาสด้า CX-8 คือการตระหนักถึงสภาพแวดล้อมของห้องโดยสารที่เงียบสงบ ซึ่งทำให้ผู้โดยสารทั้ง 3 แถวสามารถเพลิดเพลินกับการสนทนาที่ปราศจากความเครียดได้โดยไม่ต้องเพิ่มระดับเสียง ด้วยเหตุนี้ทีมพัฒนาได้ใช้ความรู้ที่ได้รับจากการสร้างรถยนต์มานานหลายทศวรรษ ขณะเดียวกันก็ใช้มาตรการพิเศษหลายประการสำหรับมาสด้า CX-8 ผลลัพธ์ที่ได้ คือ การขับขี่ที่เงียบสงบอย่างน่าทึ่งโดยเฉพาะเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง

เสียงจากพื้นถนนลดลง

เพื่อลดปริมาณการสั่นสะเทือนที่ส่งมาจากถนนสู่ตัวรถ ได้มีการใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อควบคุมการสั่นของระบบช่วงล่าง เช่น การเพิ่มแดมเปอร์แบบไดนามิกที่สตรัทด้านหน้า วัสดุกันการสั่นสะเทือนถูกเพิ่มเข้าไปในแผงบังโคลนหลัง สิ่งนี้จะช่วยลดการสั่นสะเทือนที่ด้านหลังซึ่งอาจกลายเป็นแหล่งที่มาของเสียงรบกวนในแถวที่สาม

ลดเสียงลม

มาตรการที่นำมาใช้เพื่อลดเสียงลมคือการติดซีลรอบประตูด้านท้าย และลดขนาดของช่องระหว่างส่วนหลังของหลังคาและสปอยเลอร์หลังคา ราวหลังคาได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ดังนั้นจึงไม่รบกวนการไหลของอากาศที่ราบเรียบเหนือหลังคา มาตรการเหล่านี้ทำให้แถวที่สามซึ่งอยู่ใกล้กับประตูหลังและหลังคาเงียบขึ้น

วัสดุซับเสียงที่ดีขึ้น

เสียงที่สามารถเล็ดลอดเข้าสู้ห้องโดยสารได้มี 2 ประเภท ลำดับแรกคือเสียงที่ส่งโดยตรงไปยังหูของผู้โดยสาร และสองคือเสียงที่สะท้อนมาถึงผู้โดยสารในที่สุด เมื่อเสียงเหล่านี้มาถึงหูของผู้โดยสารภายในเวลาต่างๆ ซึ่งจะสร้างความรู้สึกไม่เป็นที่พอใจ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเสียงสะท้อนภายในห้องโดยสาร จึงมีการใช้วัสดุสำหรับเพดานหลังคาด้านในที่มีประสิทธิภาพสูงในการดูดซับเสียง วิธีการป้องกันเสียงสะท้อนนี้ช่วยให้รู้สึกถึงคุณภาพของความเงียบสงบในห้องโดยสาร วัสดุดูดซับเสียงที่ฐานของเสา D ยังช่วยลดปริมาณเสียงที่ผู้โดยสารแถวที่ 3 อาจได้ยินด้วย

อากาศพลศาสตร์

แนวคิด “ground line” ของหลักอากาศพลศาสตร์ของมาสด้ามีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการไหลของอากาศส่วนล่างใต้ท้องรถ ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ด้วยการสร้างสมดุลระหว่างการไหลของอากาศเหนือตัวถังส่วนบนและส่วนล่าง ด้วยเหตุนี้มาสด้า CX-8 จึงมีสมรรถนะอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม โดยการใช้ชิ้นส่วนที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ในส่วนบนและส่วนล่างของตัวถังพร้อมกับรูปทรงท่อแบบพิเศษสำหรับช่องเปิดภายในกระจังหน้า สิ่งนี้ทำให้ได้การขับที่ความเร็วสูงมีความเงียบขึ้นและยังช่วยปรับปรุงการประหยัดเชื้อเพลิงอีกด้วย

6. ความปลอดภัย

สมรรถนะความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมช่วยเพิ่มความพึงพอใจในการขับขี่ให้กับผู้โดยสารทุกคน

ความปลอดภัยเชิงป้องกันของมาสด้า (Mazda Proactive Safety)1 เป็นวิธีการในการเพิ่มความสามารถของระบบความปลอดภัยให้ครอบคลุม ทำให้ผู้ขับขี่ให้สามารถควบคุมยานพาหนะได้อย่างปลอดภัยและมีความมั่นใจมากขึ้น ระดับสมรรถนะความปลอดภัยขั้นสูงอันโดดเด่นติดตั้งมาจะช่วยให้ผู้โดยสารในที่นั่งทั้งแบบ 3 แถวสนุกกับการขับขี่อย่างเพลิดเพลิน

มาสด้า CX-8 ใช้เทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE2 ขั้นสูงของมาสด้า รวมถึงระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor) ใหม่ สิ่งนี้เป็นการช่วยเหลือผู้ขับขี่เป็นอย่างมากในการระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยในการป้องกันอุบัติเหตุและการลดความเสียหายด้วย ส่งผลให้มาสด้า CX-8 ช่วยให้การเดินทางในรถยนต์สะดวกสบายยิ่งขึ้นและมั่นใจยิ่งขึ้น คุณสมบัติด้านความปลอดภัยเชิงปกป้อง ประกอบไปด้วย SKYACTIV-Body ที่มีความแข็งแรงสูงของมาสด้าซึ่งช่วยยกระดับความปลอดภัยในการชน

1 Mazda Proactive Safety เป็นปรัชญาความปลอดภัยของมาสด้าที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถขับรถได้อย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงที่สามารถนำไปสู่อุบัติเหตุได้

2 i-ACTIVSENSE เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงที่ใช้อุปกรณ์การตรวจจับเช่นเรดาร์มิลลิเวฟและกล้อง

ความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-ACTIVSENSE

ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360° View Monitor)

ด้วยการใช้กล้องสี่ตัวที่ด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังของรถ ระบบนี้จะแสดงบริเวณโดยรอบของรถบนจอแสดง Center Display เซนเซอร์ 8 ตัว ที่ด้านหน้าและด้านหลังตรวจจับสิ่งกีดขวางและส่งเสียงเตือนหากเข้าใกล้เกินไป เมื่อนำรถเข้าหรือออกจากโรงรถ เมื่อเข้าใกล้แยกรูปตัว T หรือกำลังผ่านรถที่กำลังสวนมาบนถนนแคบ ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทางช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเห็นระยะห่างจากสิ่งกีดขวางได้แม้กระทั่งในจุดบอด ในการช่วยให้ผู้ขับขี่ตอบสนองอย่างรวดเร็วและเหมาะสม ระบบมีส่วนช่วยอย่างมากในการหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ

เมื่อแสดงมุมมองของพื้นที่ด้านหน้าหรือด้านหลังรถยนต์ ผู้ขับขี่ยังสามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อมในมุมมองจากด้านบนที่แสดงผลแยกต่างหาก ด้วยการแสดงภาพจากกล้องด้านหน้าและด้านหลังเป็นมุมกว้างถึง 177 องศา สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้อย่างกว้างขวาง มุมมองด้านข้างแสดงพื้นที่โดยรอบล้อหน้าแต่ละล้อ เมื่อเปิดกล้องแล้วคนขับสามารถเลือกมุมมองได้อย่างอิสระโดยใช้หน้าจอสัมผัส หรือ Center Commander

หมายเหตุ: อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น 2.5 SP, XDL และ XDL EXCLUSIVE

ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (ALH : Adaptive LED Headlamps)

ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (ALH) เป็นระบบสนับสนุนผู้ขับขี่ที่ใช้ชุดของบล็อกไฟแอลอีดี 12 บล็อกในโคมไฟหน้าแต่ละดวงเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยเมื่อขับขี่ในเวลากลางคืน ประกอบด้วยไฟสูงไร้แสงจ้า ไฟต่ำช่วงกว้าง และโหมดสำหรับขับขี่ด้วยความเร็วสูง ซึ่งจะเปลี่ยนมุมของแสงไฟให้สอดคล้องกับความเร็วของรถโดยอัตโนมัติ

หมายเหตุ: อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น XDL EXCLUSIVE

  • ไฟสูงไร้แสงจ้า

เมื่อเดินทางด้วยความเร็วประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป กล้องเซนเซอร์ด้านหน้าจะตรวจจับไฟหน้าของรถที่กำลังวิ่งสวนมาหรือไฟท้ายของรถที่อยู่ด้านหน้า แล้วดับบล็อกไฟแอลอีดีอย่างเหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงแสงที่อาจส่องเข้าตาผู้ขับขี่คันอื่น โดยคงไว้ซึ่งทัศนวิสัยการมองเห็นที่เป็นเลิศไว้

  • ไฟต่ำช่วงกว้าง

เมื่อเดินทางด้วยความเร็วสูงไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไฟต่ำช่วงกว้างจะส่องสว่างพื้นที่กว้างกว่าไฟหน้าทั่วไป ยกตัวอย่างเช่นการส่องสว่างพื้นที่ที่มองเห็นได้ระหว่างเสาเอและเสากระจกมองข้างช่วยปรับปรุงทัศนวิสัยที่ทางแยกและทางโค้ง

  • โหมดสำหรับขับขี่ด้วยความเร็วสูง

เมื่อเดินทางด้วยความเร็วประมาณ 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ไฟหน้าจะปรับเป็นไฟสูงโดยอัตโนมัติเพื่อขยายขอบเขตการส่องสว่างและทำให้ง่ายต่อการมองระยะทางไกลบนถนน

ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM : Advanced Blind Spot Monitoring)

ด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ระบบจะใช้เรดาร์เซ็นเซอร์ความถี่ 24 กิกะเฮิร์ต เพื่อตรวจจับรถที่กำลังเข้ามาใกล้จุดบอดที่ด้านข้างหรือด้านหลังช่วยให้ผู้ขับขี่ตรวจสอบความปลอดภัยก่อนเปลี่ยนเลน เรดาร์เซ็นเซอร์แบบเดียวกันนี้ยังใช้ในระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA : Rear Cross Traffic Alert) ซึ่งจะส่งเสียงเตือนเมื่อตรวจพบรถที่เข้าใกล้จากทั้งสองด้าน

หมายเหตุ: อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่น

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LAS : Lane-keep Assist System) และ ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS : Lane Departure Warning System)

กล้องเซ็นเซอร์ด้านหน้าจะตรวจจับเส้นแบ่งเลนบนถนนด้านหน้า และช่วยป้องกันการออกนอกเลนโดยไม่ได้ตั้งใจโดยการสั่นที่พวงมาลัยหรือส่งเสียงเตือนผู้ขับขี่ นอกจากนี้ ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LAS) ยังช่วยควบคุมพวงมาลัยเพื่อให้ผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงการออกนอกเลน หรือทำให้รถอยู่ในจุดกึ่งกลางของเลน

หมายเหตุ: อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น XDL EXCLUSIVE

ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA : Driver Attention Alert)

ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAA) ใช้ข้อมูลเช่นมุมบังคับเลี้ยวและความเร็วของรถพร้อมกับข้อมูลจากกล้องเซ็นเซอร์ด้านหน้า เพื่อตรวจสอบสภาพของผู้ขับขี่เมื่อขับด้วยความเร็วสูงและแนะนำให้หยุดพักตามความเหมาะสม ระบบถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากความเหนื่อยล้า

หมายเหตุ: อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น XDL EXCLUSIVE

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (MRCC : Mazda Radar Cruise Control)

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (MRCC) ใช้เรดาร์เซนเซอร์ระดับมิลลิเวฟและกล้องเซนเซอร์ด้านหน้า เพื่อวัดความเร็วสัมพัทธ์ของรถที่อยู่ด้านหน้าและระยะห่างระหว่างรถด้านหน้ากับมาสด้า CX-8 ข้อมูลนี้ใช้เพื่อควบคุมเครื่องยนต์และเบรกอัตโนมัติเพื่อรักษาความเร็วและระยะห่างที่เหมาะสม ระบบจะเริ่มทำงานตั้งแต่ความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงถึง 145 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เมื่อขับรถโดยเปิด MRCC รถจะชะลอตัวลงโดยอัตโนมัติหากรถข้างหน้าชะลอตัวลง และรถเร่งความเร็วโดยอัตโนมัติและติดตามรถไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เหมาะสม

หมายเหตุ: อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น 2.5 SP, XDL และ XDL EXCLUSIVE

ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS : Advanced Smart City Brake Support)

ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS) ใช้กล้องเซนเซอร์ด้านหน้าเพื่อตรวจจับรถและคนเดินถนนข้างหน้า เพื่อช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดความเสียหายที่เกิดขึ้น ระบบสามารถตรวจจับรถได้ตั้งแต่ความเร็ว 4 ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคนเดินถนนตั้งแต่ 10 ถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

หมายเหตุ: อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น 2.5 SP, XDL และ XDL EXCLUSIVE

ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS : Smart Brake Support)

ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS) ใช้เรดาร์เซ็นเซอร์ระดับมิลลิเวฟและกล้องเซ็นเซอร์ด้านหน้าเพื่อตรวจจับรถและสิ่งกีดขวางล่วงหน้า ช่วยหลีกเลี่ยงการชนด้านหน้าหรือลดความเสียหายด้วยการส่งเสียงเตือนและช่วยเบรกแบบสองขั้นตอน ระบบสามารถทำงานที่ความเร็วตั้งแต่ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไปและรวมถึงรองรับการทำงานที่ความเร็วสูง

หมายเหตุ: อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น 2.5 SP, XDL และ XDL EXCLUSIVE

ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (SCBS-R : Smart City Brake Support-Reverse)

ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง (SCBS-R) ใช้เซ็นเซอร์อัลตราโซนิคที่ติดตั้งอยู่บนกันชนหลังเพื่อช่วยลดความเสียหายหากเกิดการชนระหว่างการถอยหลัง ระบบทำงานตั้งแต่ 2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถึง 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

หมายเหตุ: อุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น XDL EXCLUSIVE

ความปลอดภัยเชิงปกป้อง

SKYACTIV-Body แข็งแกร่งสูง

มาสด้า CX-8 ใช้ SKYACTIV-Body ที่มีความแข็งแรงสูงของมาสด้าซึ่งดูดซับและกระจายแรงกระแทกจากด้านหน้า ด้านข้าง หรือด้านหลังอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดการเสียรูปทรงของห้องโดยสาร ความปลอดภัยในการชนที่ยอดเยี่ยมทำได้โดยการออกแบบและสร้างขึ้นด้วยความใส่ใจ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานแบบตรงและต่อเนื่องที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และการประยุกต์ใช้โครงสร้างแบบหลายแนว (multi-load path) และโครงสร้างแบบวงแหวน

  • มาตรการป้องกันการชนปะทะด้านหน้า

SKYACTIV-Body ใช้โครงสร้างแบบ multi-load path ประกอบไปด้วย แนวส่วนบน แนวส่วนกลาง และแนวส่วนล่าง ที่ดูดซับและกระจายแรงกระแทกภายในห้องเครื่องยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวเสริมรับแรงขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่เหนือฐานของเสา A รวมกับตัวเสริมภายในเสาบานพับที่ป้องกันตัวถังจากการเสียรูปทรงเพื่อสร้างแนวรับแรงในแนวตั้ง และเพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างแบบ multi-load path โดยการใช้เหล็กกล้าแรงดึงสูงพิเศษ 1,180 เมกะพาสคาล เป็นวัสดุทำเสา A และวัสดุความแข็งแรงสูงที่ใช้ในห้องโดยสาร SKYACTIV-Body ช่วยลดน้ำหนักในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความปลอดภัยในการชนระดับสูง

  • มาตรการป้องกันการชนปะทะด้านข้าง

ชุดโครงสร้างแบบ H-shaped ที่เชื่อมต่อกับหลังคาและเสาบีกับส่วนล่างใต้ตัวถัง ร่วมกับการใช้เหล็กกันกระแทกด้านข้างทั้งในประตูหน้าและหลัง เพื่อป้องกันการเสียรูปของห้องโดยสารในกรณีที่เกิดการชน นอกจากนี้ การใช้เหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษขนาด 980 เมกะพาสคาล ที่มีความต้านทานแรงดึงสูงในเสาบีและกรอบประตูด้านข้างช่วยเพิ่มความแข็งแรงของห้องโดยสาร

มีความพยายามอย่างมากในการออกแบบขอบประตู เพื่อลดโอกาสของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากขอบคมหรือวัตถุที่ยื่นออกมาจากการเสียรูปในกรณีที่เกิดการชน

  • มาตรการป้องกันการชนปะทะด้านหลัง

มาสด้า CX-8 ใช้โครงสร้างที่เชื่อมต่อระหว่างเฟรมด้านหลังแบบ double-hat shaped และเฟรมบี เพื่อดูดซับและกระจายแรงกระแทกอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีเฟรมและโครงสร้างที่ป้องกันถังน้ำมันเชื้อเพลิง และช่วยป้องกันการรั่วไหลของน้ำมันเชื้อเพลิงที่อาจเกิดขึ้นจากการชนกระแทก โครงสร้างแบบ fork-shaped  ที่นำมาใช้ที่ฐานของเสา C ช่วยป้องกันเฟรมด้านหลังจากการยกในกรณีที่เกิดการชนท้าย โดยยังคงมีพื้นที่เหลือให้กับผู้โดยสารแถวที่สาม

อุปกรณ์ความปลอดภัยเพิ่มเติมและกลไก

เข็มขัดนิรภัยด้านหน้ามาพร้อมกับระบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ โฟมโพลีโพรพิลีนที่เพิ่มเข้าไปด้านในของหมอนรองศีรษะเป็นตัวอย่างหนึ่งของมาตรการที่ทำเพื่อลดปริมาณการเคลื่อนไหวของศีรษะ เมื่อเทียบกับลำตัวในกรณีที่มีการกระแทกจากด้านหลังซึ่งช่วยลดแรงกระแทกที่คอ นอกจากนี้ถุงลมนิรภัยด้านหน้าและถุงลมนิรภัยข้างสำหรับเบาะหน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นสำหรับผู้ขับขี่และที่นั่งผู้โดยสารเช่นเดียวกับม่านนิรภัยด้านข้าง (สำหรับที่นั่งทั้ง 3 แถว)

เข็มขัดนิรภัยที่พร้อมกับระบบดึงรั้งกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ มีติดตั้งให้สำหรับผู้โดยสารที่ด้านซ้ายและด้านขวาของที่นั่งแถวที่ 2 เช่นเดียวกับจุดยึดที่นั่งเด็ก ISOFIX ด้วย

Leave a Reply