การตั้งเป้ายอดขายในปีแรก ที่ 20,000 คัน ในตอนเปิดตัว MG Extender เมื่อหลายปีก่อน ทำให้ได้รับการจับตามองจากหลายฝ่าย จากการเป็นค่ายรถยนต์จากจีน ที่น่าจะเข้าเปลี่ยนเกม ในตลาดรถกระบะขนาดกลางของเมืองไทย ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่าย พร้อมชูจุดขาย ด้วยตัวถังที่มีขนาดใหญ่กว่าคู่แข่ง ถึงกับให้นิยาม Extender ว่า เป็นกระบะพันธุ์ยักษ์ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ยอดขายถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายอย่างน่าใจหาย จนถึงตอนนี้ ยอดขายรายเดือน ก็ยังต่ำกว่าเป้าอยู่หลายเท่าตัว แม้ว่าจะมีการปรับโฉมไปแล้วก็ตาม เป็นการพิสูจน์ว่า ตลาดรถกระบะในไทยไม่หมู ที่จะเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดได้ง่ายๆ และนั่นน่าจะส่งผลต่อการตัดสินใจเปิดตัว PPV ที่มีอยู่แล้วในต่างประเทศ รวมถึงคู่แข่งใหม่รายอื่น โดยเฉพาะ GWM ที่เล็งตลาดนี้เอาไว้ หลายปีมาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในตลาดสำคัญอย่างออสเตรเลีย รถกระบะสัญชาติจีนรุ่นนี้ ทำผลงานได้น่าพอใจ ด้วยการทำตลาดภายใต้แบรนด์ LDV ในชื่อรุ่น T60 ซึ่งบางตลาด ยังจำหน่ายในชื่อ Maxus T70 โดยได้เริ่มเข้าไปบุกเบิกตลาดรถกระบะไฟฟ้า เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุด SAIC บริษัทแม่ของทั้ง MG และ LDV ต้องการขยายฐานลูกค้ารถกระบะขนาดกลางให้มากขึ้น เตรียมเปิดตัว LDV T60 เจนเนอเรชั่นที่ 2 ในปี 2024 พร้อมเน้นทำตลาดเวอร์ชั่นไฟฟ้า และมีความเป็นไปได้ว่า ชื่อรุ่นอาจจะถูกเปลี่ยนตามไปด้วย
เรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยโดย Dinesh Chinnappa ผู้จัดการทั่วไปของ LDV Australia ว่ารถกระบะ LDV เจนเนอเรชั่นใหม่ จะตอบโจทย์ได้ดีกว่าเดิม จากการที่บริษัท ได้ส่ง feedback ต่างๆ ไปยังสำนักงานใหญ่ เพื่อให้มั่นใจว่า All-New T60 หรือ Extender จะแข่งขันได้ดีขึ้น เมื่อต้องเจอกับ Ford Ranger และ Toyota Hilux ที่กำลังครองตลาดในออสเตรเลียอยู่
Chinnappa เผยว่า เมื่อราว 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา ผู้บริหาร SAIC ได้มาเยี่ยมชมการดำเนินงานของ LDA ออสเตรเลีย พร้อมรับฟังความคิด เพื่อนำกลับไปพัฒนารถกระบะรุ่นใหม่ ว่ารถที่ทุกคนต้องการ ควรจะเป็นอย่างไร ชาวออสเตรเลีย ต้องการรถกระบะแบบไหน ซึ่งทีมงาน LDV ได้ใช้เวลาถึง 1 เดือน ในการเตรียมเอกสารข้อมูลต่างๆ เพื่อส่งต่อให้กับผู้บริหารจากบริษัทแม่
ดโญสิ่งที่บริษัทต้องการให้มีการพัฒนา ใน LDV T60 หรือ MG Extender โฉมใหม่ ก็คือเรื่องของเสถียรภาพ สมรรถนะ และการมีเทคโนโลยีและฟีเจอร์ต่างๆเพิ่มเข้ามา Chinnappa บอกว่า เราได้ประชุมพูดคุยกันมาก เกี่ยวกับการทำให้รถกระบะ มีความเป็นรถยนต์นั่งสูงขึ้น คือต้องมีความสะดวกสบายในการโดยสาร มีความประณีตในการออกแบบ และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเฉพาะการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ แต่สิ่งที่ LDV ออสเตรเลีย ไม่ได้ร้องขอ ก็คือขุมพลัง V6 ที่ได้รับความนิยมใน Ford Ranger และ Volkswagen Amarok แต่กลับเป็นขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ทีมงานในออสเตรเลียเห็นว่าน่าสนใจกว่า ซึ่งในเจนเนอเรชั่นหน้า LDV คาดหวังว่า จะได้เห็น eT60 ที่ทรงพลัง มากกว่าที่จะเป็นขุมพลังที่ใช้น้ำมันแบบเดิมๆ และทาง Chinnappa เอง ก็มั่นใจว่า รถกระบะไฟฟ้า จะทำได้ดีกว่าในหลายๆด้าน ในสิ่งที่ผู้ใช้งาน คาดหวังจากรถกระบะสักรุ่นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการสัญจรไปบนเส้นทางออฟโรด ระยะทางการขับขี่ และการลากจูงสัมภาระ โดยเขามั่นใจว่า SAIC กำลังพัฒนารุ่นขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ สำหรับเจนเนอเรชั่นใหม่อยู่ด้วย ซึ่งจะเป็นรุ่นที่จะช่วยเติมเต็มความต้องการของลูกค้า ได้อย่างครอบคลุมที่สุด
Chinnappa พูดต่อว่า ไม่แน่ มันอาจจะมีอีกหนึ่งเวอร์ชั่น ที่สามารถลุยไปบนพื้นที่แห้งแล้งกันดาร กึ่งทะเลทรายแบบ Nullarbor ได้ ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกล ในออสเตรเลียตอนใต้
สำหรับ LDV รุ่น eT60 รถกระบะรุ่นแรกของบริษัทที่เปิดตัวไปแล้ว มีราคาค่อนข้างสูงและเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรเป็นหลัก แต่รุ่นใหม่ จะเจาะตลาดมวลชนเป็นหลัก สื่อมวลชนที่นั่น ได้ตั้งคำถามกับ Chinnappa ว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่เวอร์ชั่นไฟฟ้า จะทำยอดขายได้มากกว่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซล Chinnappa ตอบว่า ในอนาคต ผมมองว่ามันจะเกิดขึ้น ฉะนั้นคำตอบคือใช่ อย่างไรก็ตาม มันคงไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เพราะต้องมีความพร้อมในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลด้วย แต่สิ่งต่างๆอาจจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วได้เช่นกัน
[yourchannel video=”NGgYVqyQDh4″ autoplay=”1″ show_comments=”1″]