เรียกว่าเปิดตัวเจนเนอเรชั่นใหม่ยังไม่ทันข้ามปี Ford ประเทศไทย ก็เจอโจทย์ใหญ่ในด้านภาพลักษณ์ เมื่อมีลูกค้ารายหนึ่งที่เผยว่า ได้มีการซื้อ Ford Everest ที่ต้องย้ำว่าเป็นเจนเนอเรชั่นก่อน เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในราคาเกือบ 1.5 ล้านบาท หลังจากที่ได้ขับรถไผได้เพียง 938 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ก็ต้องเจอกับปัญหาหลายอย่างที่แก้ไม่ตก ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณแจ้งเตือนของระบบตรวจวัดแรงดันลมยางไม่ถูกต้อง จอแสดงผลกลางไม่สามารถเชื่อมต่อกับกับโทรศัพท์มือถือระบบ android ได้ ระบบเซ็นเซอร์ฝาท้ายไม่ทำงาน เครื่องยนต์สั่น เกียร์ถอยหลังมีปัญหา และอื่นๆ ซึ่งหลังจากที่ได้นำรถเข้าตรวจสอบที่ศูนย์แล้ว กลับได้รับแจ้งว่า รถยนต์คันดังกล่าวปกติดี แต่ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข จนลูกค้าต้องการเปลี่ยนรถค้นใหม่ โดยยินยอมจ่ายเงินเพิ่ม ซึ่งได้เตรียมเงินสดไว้แล้ว 3-4 แสนบาท แต่ได้รับการปฏิเสธ หลังจากนั้นได้ร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ แต่กลับไม่มีความคืบหน้า จึงนำมาสู่การทุบกระจกหน้ารถด้วยชะแลง ที่หน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ตามที่เป็นข่าว
หลังจากนั้น Ford ประเทศไทย ได้ออกหนังสือชี้แจงว่า จากการที่ลูกค้ามีความกังวลใจ เรื่องการแสดงสัญญาณแจ้งเตือน ของระบบตรวจวัดแรงดันลมยางไม่ถูกต้อง บริษัทได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าลูกค้ามีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งการทำงานของเครื่องฟอกอากาศในรถยนต์บางรุ่นอาจส่งคลื่นความถี่ ที่มีผลต่อระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) บริษัทจึงแนะนำให้ลูกค้าถอดอุปกรณ์เสริมดังกล่าวออก ทำให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจ และได้นำเรื่องเข้าร้องเรียนกับคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งบริษัทได้เข้าร่วมการไกล่เกลี่ยตามนัดหมาย แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งมั่น ในการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าต่อไป
งานนี้ชัดเจนว่า ยังไม่ได้ข้อสรุปร่วมกันทั้งสองฝ่าย และน่าจะต้องมีการพูดคุยกันต่อไปถึงปัญหาอื่นๆซึ่งยังไม่มีการชี้แจง อย่างไรก็ตาม ยังถือว่า Ford ยังโชคดีตรงที่ว่า Everest คันที่มีปัญหา เป็นโฉมเก่า แต่สิ่งที่น่ากังวลสำหรับ Ford ก็คือ ภาพลักษณ์ของการให้บริการและแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า ที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน เพราะนั่นหมายถึงการให้บริการหลังการขาย และการดูแลเอาใจใส่ลูกค้า ที่อาจจะส่งผลมาถึงรถยนต์รุ่นใหม่อื่นๆด้วยเช่นกัน
ที่มาภาพ ทีม ข่าว-ภาพ อำเภอสีคิ้ว
[yourchannel video=”vDb7gmlHhmE” autoplay=”1″ show_comments=”1″]