Toyota ได้รับการจับตามองมากเป็นพิเศษ ในการเข้าสู่วงการรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะหลังจากการแนะนำ bZ4X รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัท ที่มีการผลิตในแบบ mass production แต่พอมีการจำหน่ายไปได้เพียง 2,000 กว่าคน ทั้งในยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น กลับต้องเจอปัญหาที่ Toyota ออกมาแถลงว่า ล้ออาจจะหลุดออกมาในระหว่างการขับขี่ได้ ทำให้ต้องเรียกคืนรถทุกคันเพื่อทำการซ่อมแซม แต่หลังจากเวลาผ่านไป 1 เดือนกว่า ยังไม่มีรายงานการส่งรถคืนให้กับลูกค้าแต่อย่างใด บางรายได้รับการเสนอซื้อคืน หรือมีการชดเชยในบางเงื่อนไข จุดนี้ ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าจาก Toyota เสียความเชื่อมั่นในเรื่องคุณภาพไปจากลูกค้า และทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ปัญหาจริงๆแล้ว มันมีมากกว่าดุมล้อที่ชำรุดหรือไม่
ล่าสุด Toyota เดินหน้าเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 2 ในประเทศจีน นั่นก็คือ bZ3 ซีดานระบบไฟฟ้า ที่มีการพัฒนามาจากรถต้นแบบ bZ SDN ที่ Toyota ได้เคยอวดโฉมไปแล้ว ซึ่งจะมีการผลิตโดยบริษัทร่วมทุน FAW-Toyota และเตรียมวางจำหน่าย ในปลายไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ แต่ที่น่าสนใจก็คือ bZ3 ใช้ส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดอย่างแบตเตอรี่ ที่ได้มาจาก BYD และเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่าง Blade battery ที่ BYD พยายามนำเสนอมาโดยตลอด โดยเฉพาะในงานเปิดตัวบริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ ตัวแทนจำหน่าย BYD ในเมืองไท
แม้ว่าในตลาดจีน รถไฮบริดยังได้รับความนิยมพอสมควร และรถยนต์จาก Toyota ยังใช้ระบบไฮบริดทั่วไป แต่ชาวจีนนิยมใช้รถยนต์ที่เป็นระบบ Plug-In Hybrid หรือ PHEV มากกว่า นอกเหนือไปจากรถยนต์ไฟฟ้า และฟิวเซลส์ ซึ่งถือว่าเป็นรถยนต์พลังงานใหม่หรือ NEV นั่นทำให้ Toyota ใช้ทางลัดในการขยายตลาดในจีน ด้วยการซื้อเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบตเตอรี่จากบริษัทที่ชื่อ Fudi Industrial ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ BYD ที่จำหน่ายเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าให้กับบริษัทอื่นๆที่สนใจ อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มของ bZ3 ยังเป็นสถาปัตยกรรม e-TNGA ของ Toyota อยู่
Blade Battery จาก BYD ที่ติดตั้งใน Toyota bZ3 เป็นแบบ Lithium iron phosphate หรือ LFP ที่ไม่มีการเปิดเผยขนาดความจุ bZ3 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง โดยมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ขนาดคือ 183 แรงม้า และ 244 แรงม้า ความเร็วสูงสุดทำได้ที่ 160 กม/ชม. ตัวถังมีความยาว 4725 มม กว้าง 1835 มม และสูง 1475 มม ฐานล้อยาว 2880 มม โดย Toyota จะเปิดตัว bZ3 อย่างเป็นทางการในงาน Guangzhou Auto Show ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ที่ประเทศจีน
การใช้เทคโนโลยีจาก BYD นอกจากจะทำให้ Toyota สามารถนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในตลาดแล้ว ยังช่วยให้บริษัทสามารถเข้าสู่ตลาดจีนได้เร็วกว่าการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่มาใช้เอง และอีกเหตุผลหนึ่ง ที่อาจจะทำให้ Toyota สบายใจเป็นพิเศษ ก็คือรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ ไม่น่าจะสร้างปัญหาเหมือนกับ bZ4X ที่มีกำหนดการเปิดตัวในเมืองไทย ปลายปีนี้
[yourchannel video=”svXiUeN7Vg8″ autoplay=”1″ show_comments=”1″]