เกินไปไหม! 2022 Isuzu D-MAX ยอดขายทิ้งห่าง Toyota Hilux Revo เดือนเดียว 5,901 คัน

Facebook
Twitter
Pinterest
Linkedin
LINE

โตโยต้าแถลงยอดขายตลาดรถยนต์ครึ่งแรกของปี 2565 พร้อมคาดการณ์ตลาดรวมอยู่ที่ 880,000 คัน

อุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทยในช่วงครึ่งปีแรก ยังคงได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศ ที่อยู่ในภาวะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์ ที่ยังคงยืดเยื้อ ส่งผลโดยตรงต่อยอดการผลิต และต้นทุนการผลิตรถยนต์ ที่ปรับตัวสูงขึ้น เพื่อจำหน่ายทั้งภายในประเทศ และการส่งออก รวมทั้งแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ ที่ยังปรับตัวสูงขึ้น และทิศทางของอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เป็นปัจจัยที่มีส่วนทำให้กำลังการซื้อของผู้บริโภค ยังฟื้นตัวได้อย่างจำกัด ล้วนส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภค ที่มีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม

อย่างไรก็ดี ยังคงมีปัจจัยบวก จากการที่ภาครัฐ เริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ และการดำเนินมาตรการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศ รวมถึงสัดส่วนของการฉีดวัคซีนที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งในไทยและต่างประเทศ ทำให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิต และดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้เกือบเป็นปกติ ล้วนเป็นส่วนช่วยให้สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศ ทยอยกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนมายังตลาดรถยนต์ด้วยเช่นกัน เห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43 ที่ผ่านมา ตลอดจนแรงกระตุ้นจูงใจผู้บริโภค ด้วยแคมเปญการขายเชิงรุกของบรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลาย ล้วนมีส่วนผลักดันตลาดรถยนต์โดยรวมให้ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ตัวเลขยอดขายตลาดรวมในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 427,303 คัน เพิ่มขึ้น 14.5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว”

จากมาตรการผ่อนคลายและการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจปรับไปในทิศทางที่ดีขึ้น และจะส่งผลบวกต่อทิศทางของตลาดรถยนต์ในปีนี้ ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะสามารถฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้นโตโยต้าจึงคาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในปี 2565 จะอยู่ที่ 880,000 คัน เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ปริมาณการจำหน่ายรถกระบะ Pure Pickup ประจำเดือนมิถุนายน 2565
ปริมาณการขาย 33,433 คัน เพิ่มขึ้น 13.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อันดับ 1 Isuzu D-MAX 17,076 คัน เพิ่มขึ้น 49.5% ส่วนแบ่งตลาด 51.1%
อันดับ 2 Toyota Hilux Revo 11,175 คัน ลดลง 12.0% ส่วนแบ่งตลาด 33.4%
อันดับ 3 Ford Ranger 2,360 คัน เพิ่มขึ้น 1.3% ส่วนแบ่งตลาด 7.1%
อันดับ 4 Mitsubishi Triton 2,050 คัน เพิ่มขึ้น 6.1% ส่วนแบ่งตลาด 6.1%
อันดับ 5 Nissan Navara 388 คัน ลดลง 26.5% ส่วนแบ่งตลาด 1.2%
อันดับ 6 MG Extender 303 คัน ลดลง 18.8% ส่วนแบ่งตลาด 0.9%
อันดับ 7 Mazda BT-50 81 คัน เพิ่มขึ้น 20.9% ส่วนแบ่งตลาด 0.2%

ยอดขายของ Isuzu D-MAX ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ต้องบอกว่าพุ่งสูงแบบก้าวกระโดด โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 49.5% ส่งผลให้มีส่วนแบ่งทางการตลาดเกินครึ่ง คือ 51.1% ทิ้งห่างที่ 2 อย่าง Toyota Hilux Revo ถึง 5,901 คัน เรียกว่าทิ้งระยะห่างมากที่สุดในรอบหลายเดือนก็ว่าได้ ทั้งนี้อาจจะเกิดมาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปัญหาการผลิตของทาง Toyota จากการขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ การเข้าสู่ปลายโมเดล และการรับรู้ของตลาดเกี่ยวกับ Hilux เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่คาดว่าจะมีการเปิดตัวในปลายปี 2023 ซึ่งผลกระทบนี้ น่าจะส่งผลไปถึงปลายปี แม้ว่า Toyota จะมีการกระตุ้นตลาดด้วยรุ่นพิเศษก็ตาม แต่ด้วยจำนวนการผลิตที่มีอยู่อย่างจำกัด ทำให้ยอดขายในช่วงนี้ อาจจะต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ในขณะที่ Isuzu ซึ่งประสบปัญหาเดียวกัน แต่มีการแก้ปัญหาที่ลึกล้ำกว่า ด้วยการเปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส เปิดตัวรุ่นย่อยใหม่ที่ไม่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนบางอย่าง ในขณะที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าบางกลุ่มได้ ทำให้ยอดขายพุ่งสูงอย่างที่เห็น สำหรับ Ford ที่มีการเปิดตัว All-New Ranger ไปแล้ว ยังไม่เห็นยอดขายที่เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาสักพัก กว่าสายการผลิตจะเดินเครื่องเต็มสูบ และสามารถส่งมอบให้กับลูกค้าได้ในทันที ส่วน Mitsubishi ที่เตรียมเปิดตัว TRITON เจนเนอเรชั่นใหม่ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หรืออย่างช้าก็ต้นปี 2023 ยังรักษาระดับยอดขายในอันดับ 4 แบบไม่ถูกทิ้งห่างจากอันดับ 3 นัก ส่วนรถกระบะรุ่นที่เหลือ ยอดขายทรงตัว จะมี MG Extender ที่ยอดขายต่ำกว่ามาตรฐานต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะต้องหาจุดเปลี่ยน เพื่อให้รถกระบะรุ่นนี้มีความแตกต่างมากกว่านี้

ปริมาณการจำหน่ายรถกระบะ Pure Pickup ใน 6 เดือนแรกของปี 2565
ปริมาณการขาย 198,256 คัน เพิ่มขึ้น 17.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อันดับ 1 Isuzu D-MAX 92,344 คัน เพิ่มขึ้น 22.1% ส่วนแบ่งตลาด 46.6%
อันดับ 2 Toyota Hilux Revo 75,766 คัน เพิ่มขึ้น 22.5% ส่วนแบ่งตลาด 38.2%
อันดับ 3 Ford Ranger 12,655 คัน ลดลง 8.0% ส่วนแบ่งตลาด 6.4%
อันดับ 4 Mitsubishi Triton 12,014 คัน เพิ่มขึ้น 12.4% ส่วนแบ่งตลาด 6.1%
อันดับ 5 Nissan Navara 3,346 คัน ลดลง 10.5% ส่วนแบ่งตลาด 1.7%
อันดับ 6 MG Extender 1,621 คัน ลดลง 38.9% ส่วนแบ่งตลาด 0.8%
อันดับ 7 Mazda BT-50 510 คัน ลดลง 23.7% ส่วนแบ่งตลาด 0.3%

ผ่านไป 6 เดือน Isuzu D-MAX ทิ้งห่าง Toyota Hilux Revo ไปถึง 16,578 คัน มากกว่ายอดขายทั้งเดือนของ Hilux เสียอีก ทำให้อีก 6 เดือนที่เหลือ แทบไม่มีโอกาสให้ Toyota ได้ลุ้นกับยอดขาย Hilux Revo ที่จะกลับมาแซงจนเข้าป้ายเป็นที่ 1 ในปี 2022 นี้ เพราะยิ่งนานวัน Hilux Revo โฉมปัจจุบัน ก็ดูเก่ามากขึ้น แม้ว่าจะปรับเปลี่ยนบางส่วนเพื่อกระตุ้นตลาด แต่โดยรวมก็ยังเป็นรูปร่างหน้าตาเดิม นอกจากนั้น ในครึ่งปีหลัง Ford น่าจะเริ่มลงตัวกับการผลิตและส่งมอบ Ranger โฉมใหม่ให้กับลูกค้า ซึ่งอาจจะทำให้ Toyota สูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดไปอีก อีกทั้งมีข่าวการเตรียมเปิดตัว All-New Mitsubishi Triton เจนเนอเรชั่นใหม่ ทำให้กลุ่มลูกค้าในตลาดบางส่วนอาจจะชะลอการตัดสินใจซื้อไปก่อน ในขณะที่ลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่ง ตัดสินใจเลือกซื้อ Isuzu D-MAX ไปก่อน จากความมั่นใจในตัวสินค้า การส่งมอบรถที่ทำได้รวดเร็วกว่า และมีความจำเป็นจะต้องใช้รถในช่วงนี้ ในขณะที่อีก 3 แบรนด์ที่เหลือ ยังไม่ดึงดูดพอ ทำให้ในช่วงครึ่งปีหลัง อาจเป็นโอกาสทองของ D-MAX ที่จะรีบกอบโกยยอดขายให้ได้มากที่สุด ในช่วงที่เป็นสูญญากาศของวงการรถกระบะก็ว่าได้