ชื่อชั้นของ Toyota ในประเทศไทย ถือว่าได้รับการยอมรับมานาน ชนิดที่เรียกว่า ผูกขาดก็ว่าได้ แต่ในช่วงหลังๆที่เริ่มมีคู่แข่งเข้ามาทำตลาดมากขึ้น บวกกับกระแสความนิยมรถยนต์ประเภทต่างๆที่เปลี่ยนไป ทำให้ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota ที่เคลื่อนตัวได้ช้าอยู่แล้ว ปรับตัวสู่ยุคใหม่ได้ยาก และไม่ทันการณ์เท่าที่ควร เห็นได้จากตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ที่ผู้บริหารของ TOYOTA เอง ต้องออกมาให้ความคิดเห็นในเชิงที่ว่า ยังไม่ถึงยุคของรถยนต์ไฟฟ้า แต่จะเป็นยุคของรถยนต์ไฮบริด ที่จะยังครองตลาดได้อีกหลายปี แต่ตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า วิสัยทัศน์ดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในเมืองไทย ที่คงไม่มีใครคิดมาก่อนว่า รถยนต์ไฟฟ้าจะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วถึงขนาดนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ Toyota ยังคงมีภาพลักษณ์ของรถยนต์ที่น่าเชื่อถืออยู่ ก็คือการที่มียอดขายรวม เป็นอันดับ 1 ของตลาด ด้วยการจำหน่ายรถยนต์ในเซกเมนต์ต่างๆมากที่สุด ในบรรดาค่ายรถยนต์ที่ทำตลาดอยู่ในเมืองไทย และการมีส่วนแบ่งทางการตลาดก้อนใหญ่ ในตลาดสำคัญอย่างรถกระบะขนาด 1 ตัน ซึ่งได้แก่ รถกระบะ Pure Pickup และรถกระบะดัดแปลงหรือ PPV แต่สิ่งที่ทำให้ Toyota เริ่มสั่นคลอนอย่างหนัก ก็คือการที่ถูก Isuzu เข้ามาแย่งแชมป์คืน ในตลาดที่ตัวเองเป็นอันดับ 1 มานานหลายปี อย่างตลาดรถกระบะ Pure Pickup ใน 2 ปีล่าสุด และไม่มีท่าทีว่าจะกลับขึ้นไปเป็นที่ 1 ได้ อย่างน้อยก็ในช่วง 1-2 ปีนี้ ตลาดรถ PPV จึงเป็นสิ่งที่ Toyota จะต้องรักษาไว้ในทุกทาง เท่าที่จะทำได้ เพราะ Isuzu เริ่มตีตื้นขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่กลางปีเป็นต้นไป ตลาดนี้ อาจจะรักษาได้ยากขึ้น เพราะตลาดมีทางเลือกที่สดใหม่กว่า อย่าง All-New Ford Everest โฉมใหม่ เข้ามาเติมสีสัน ทำให้ตลาดนี้ มีการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นไปอีก
และจากรายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ตลาดโดยรวม มียอดการขายทั้งสิ้น 74,489 คัน เพิ่มขึ้น 26.3% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 22,590 คัน เพิ่มขึ้น 19.1% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 51,899 คัน เพิ่มขึ้น 29.8% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 41,447 คัน เพิ่มขึ้น 33%
ตลาดรถกระบะดัดแปลง PPV เดือนกุมภาพันธ์ 2565
ปริมาณการขาย 5,725 คัน เพิ่มขึ้น 19.3%
อันดับ 1 Toyota Fortuner 2,915 คัน เพิ่มขึ้น 50.3% ส่วนแบ่งตลาด 50.9%
อันดับ 2 Isuzu MU-X 1,659 คัน ลดลง 10.4% ส่วนแบ่งตลาด 29.0%
อันดับ 3 Mitsubishi Pajero Sport 697 คัน เพิ่มขึ้น 31.3% ส่วนแบ่งตลาด 12.2%
อันดับ 4 Ford Everest 391 คัน ลดลง 17.3% ส่วนแบ่งตลาด 6.8%
อันดับ 5 Nissan Terra 63 คัน เพิ่มขึ้น 950.0% ส่วนแบ่งตลาด 1.1%
ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Toyota ทำยอดขาย Fortuner พุ่งกระฉูดถึง 2,915 คัน เติบโตจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึง 50.3% ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเกินครึ่ง คือ 50.9% ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง Isuzu MU-X ถึงเกือบเท่าตัว ซึ่งทำได้ที่ 1,659 คัน ลดลงจากปีก่อน 10.4% แต่ก็ยังสามารถรั้งอันดับ 2 เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น เพราะทิ้งห่าง Mitsubishi Pajero Sport ถึงเกือบ 1,000 คัน ส่วนอันดับ 4 ยอดขายร่วงตามคาด นั่นก็คือ Ford Everest ที่ทำได้เพียง 391 คัน ถือว่าเป็นช่วงสุดท้ายในการทำตลาดก่อนเปลี่ยนโมเดลใหม่ทั้งคัน ทำให้น่าจับตามองต่อไปว่า หาก Ford เริ่มทำตลาด All-New Everest แบบเต็มตัวในช่วงกลางปีเป็นต้นไป PPV สัญชาติอเมริกันรุ่นนี้ จะไปไกลได้ขนาดไหน เพราะด้วยขนาดของตลาดที่ค่อนข้างเล็ก อันดับยอดขายอาจจะถูกเปลี่ยนมือได้ง่าย แม้ว่า Toyota Fortuner ที่ถือว่าอันดับ 1 ตลอดกาล ก็เคยถูก Isuzu MU-X ลูบคมมาแล้ว การขึ้นไปแทนอันดับ 3 อย่าง Mitsubishi Pajero Sport ไม่ใช่เรื่องยาก ส่วนอันดับ 2 Isuzu MU-X ทาง Ford ก็อาจจะต้องออกแรงพอสมควร แต่หากจะขึ้นไปเป็นที่ 1 ของตลาด อาจจะต้องรอดูความเป็นไปได้อีกครั้ง หลังจากการทำตลาดแบบเต็มตัว ว่าตลาด จะตอบรับอย่างไร ส่วน Nissan Terra ถือว่าสถานการณ์ดีขึ้นกว่าปีก่อนมาก จากการปรับโฉมใหม่
ตลาดรถกระบะดัดแปลง PPV ใน 2 เดือนแรกของปี 2565
ปริมาณการขาย 10,486 คัน เพิ่มขึ้น 15.3%
อันดับ 1 Toyota Fortuner 5,158 คัน เพิ่มขึ้น 31.8% ส่วนแบ่งตลาด 49.2%
อันดับ 2 Isuzu MU-X 2,985 คัน ลดลง 9.1% ส่วนแบ่งตลาด 28.5%
อันดับ 3 Mitsubishi Pajero Sport 1,391 คัน เพิ่มขึ้น 32.1% ส่วนแบ่งตลาด 13.3%
อันดับ 4 Ford Everest 787 คัน ลดลง 3.6% ส่วนแบ่งตลาด 7.5%
อันดับ 5 Nissan Terra 165 คัน เพิ่มขึ้น 534.6% ส่วนแบ่งตลาด 1.6%
ยอดขายสะสมใน 2 เดือนแรก อันดับยอดขายยังเป็นเหมือนอันดับรายเดือน คือมี Toyota Fortuner นำโด่งเป็นอันดับ 1 ตามมาห่างๆ โดย Isuzu MU-X ซึ่งผ่านมา 2 เดือน จะเห็นว่า ระยะห่าง อยู่ระดับหลักร้อย หรือหลักพันคันเท่านั้น ซึ่งทำให้การเปลี่ยนแปลงในด้านอันดับ เกิดขึ้นได้ไม่ยาก หากมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในตลาดเกิดขึ้น เช่นการเปิดตัวเจนเนอเรชั่นใหม่ หรือการปรับโฉม รวมถึงการปล่อยแคมเปญพิเศษ เพื่อกระตุ้นตลาด หรือแม้แต่การจำหน่าย ให้แก่ลูกค้าองค์กรใหญ่ เพียงโครงการเดียว ก็อาจจะทำให้อันดับ เปลี่ยนแปลงได้ในทันที ความอ่อนไหวของตลาดนี้จึงมีสูง นั่นทำให้ All-New Ford Everest มีลุ้นในทุกอันดับรายเดือนในทางทฤษฎี แต่อาจจะยากในอันดับยอดขายสะสม โดยเฉพาะในปีนี้ ที่กว่าจะเริ่มขายได้อย่างเต็มรูปแบบ ก็อาจจะต้องรอกลางปีขึ้นไป แต่หาก Everest ทำได้ดีในด้านยอดขายรายเดือน ก็น่าจะทำให้เห็นภาพรวมของตลาด ในระยะกลาง ถึงระยะยาวได้