กระแสการเปิดตัว All-New Ford Ranger เจนเนอเรชั่นใหม่ ในปลายปีนี้ การแข่งขันในตลาดเมืองไทยของเจ้าตลาด อย่าง Isuzu D-MAX และ Toyota Hilux Revo รวมถึงการเปิดตัวรุ่นใหม่ ของ Nissan Navara และ Mazda BT-50 ทำให้รถกระบะปิกอัพ ที่ได้รับความนิยมในอันดับ 4 ของไทยในปัจจุบัน อย่าง Mitsubishi Triton แทบจะไม่มีการพูดถึงในตลาด ทั้งๆที่เป็นรถกระบะปิกอัพ รุ่นที่น่าจับตามองมากที่สุด ในปี 2022-2023 ก็ว่าได้ เพราะ Mitsubishi เตรียมเขย่าตลาด ด้วย Triton โฉมใหม่ ที่ไม่ใช่เพียงแค่การปรับเปลี่ยนใหม่หมดยกคันเท่านั้น แต่ยังเป็นรถกระบะ 1 ใน 2 รุ่น ที่มีความชัดเจนมากที่สุด ในเรื่องขุมพลังไฟฟ้า อย่างระบบไฮบริด นอกเหนือไปจาก Ford Ranger โฉมใหม่
ส่วนหนึ่งที่ทำให้กระแสข่าวของ Triton เงียบหายไปในช่วงนี้ ก็คือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ทำให้แผนงานการเปิดตัวรถยนต์รุ่นต่างๆทั่วโลก ได้รับผลกระทบไปตามๆกัน ส่งผลให้มีการคาดการณ์ จากทั้งสื่อสารมวลชนสายยานยนต์ และกลุ่มเป้าหมายในตลาด ว่ากำหนดการต่างๆ อาจจะไม่เป็นไปตามแผนงานเดิม และการที่ค่ายรถยนต์เอง ก็ไม่ได้ออกมายืนยัน หรือให้ความชัดเจนในเรื่องนี้ ทุกอย่าง จึงดูเหมือนจะเงียบไป
ล่าสุด โอเว่น ทอมสัน ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ ของ Mitsubishi Motors ออสเตรเลีย ได้ออกมายืนยันว่า กำหนดการเปิดตัว All-New Triton ยังคงเป็นไปตามแผนงานเดิม แม้ว่าสถานการณ์โรคระบาด จะส่งผลกระทบต่อการทดสอบรถต้นแบบ ที่มีขึ้นในประเทศออสเตรเลียช่วงนี้ก็ตาม
ทอมสัน ยังให้ข้อมูลอีกว่า Triton โฉมใหม่ จะมาพร้อมกับขุมพลังทางเลือก ที่เป็นระบบไฟฟ้า ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในแผนงาน มาตั้งแต่วันแรก ที่มีแผนเปิดตัว Triton เจนเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งขุมพลังไฟฟ้าที่ว่า ก็คือระบบ PHEV หรือ Plug-In Hybrid ที่ Ford เอง ก็มีขุมพลังแบบเดียวกันนี้ สำหรับ Ranger โฉมใหม่ด้วยเช่นกัน และอาจจะครอบคลุมไปถึง Volkswagen Amarok ที่มีการพัฒนาร่วมกับ Ford Ranger ในเจนเนอเรชั่นใหม่ด้วย
แน่นอนว่า ขุมพลังใหม่ ที่ยังไม่เคยมีการทำตลาดมาก่อนในเซกเมนท์นี้ ย่อมมีความเสี่ยงในการลงทุน แต่ Mitsubishi เองเชื่อว่า ในตลาดสำคัญอย่างออสเตรเลีย ทางเลือกดังกล่าว น่าจะมีโอกาสแจ้งเกิดได้ ซึ่งขุมพลังชนิดนี้ จะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานในแต่ละตลาด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะเริ่มบุกตลาด ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
ทอมสันยังเสริมอีกว่า เขายังมองไม่เห็นภาพว่า คนในชนบท หรือพื้นที่ๆห่างไกลจากตัวเมือง จะเลือกใช้รถกระบะแบบ PHEV ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งขุมพลังเบนซิน ยังมีข้อจำกัดในการใช้งานในบางพื้นที่ เช่น เหมืองต่างๆ ที่อนุญาตให้ใช้งาน เฉพาะรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล หรือรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น เพราะเครื่องยนต์เบนซิน ทำให้เกิดความเสี่ยง ที่อาจจะมีการระเบิด จากสภาพแวดล้อมที่มีความไวต่อเชิ้อเพลิงชนิดนี้ ซึ่งขุมพลัง PHEV แบบเบนซิน อาจจะเหมาะสมกับรถยนต์ ที่ใช้งานในตัวเมืองมากกว่า
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า Mitsubishi Triton เจนเนอเรชั่นใหม่ จะใช้ขุมพลัง PHEV แบบเดียวกันกับรุ่น Outlander PHEV หรือ Eclipse CROSS PHEV หรือไม่ ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 2.4 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ติดตั้งบริเวณเพลาหน้าและหลัง ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ รวมถึงระบบ PHEV แบบดีเซล ที่ยังไม่มีการพิจารณาด้วยซ้ำ ซึ่งทำให้เราพอจะคาดเดาได้ว่า Triton PHEV อาจจะมีการเปิดตัว หลังจากที่มีการเปิดตัว Triton รุ่นมาตรฐาน เครื่องยนต์สันดาปภายในไปแล้ว หรือบางที Mitsubishi อาจจะรอดูกระแสตอบรับ ของ Ford Ranger PHEV ก่อน ก็เป็นไปได้
Mitsubishi ออสเตรเลียเอง ได้พูดคุยสื่อสารกับบริษัทแม่อย่างสม่ำเสมอ ในเรื่องของ Triton เจนเนอเรชั่นใหม่ และได้รับข้อมูลต่างๆจากตลาด เพื่อนำมาพัฒนารถกระบะรุ่นใหม่ หลังจากที่ได้เริ่มโครงการนี้ มาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งการทดสอบส่วนใหญ่ ได้เกิดขึ้นในประเทศออสเตรเลีย นอกจากนั้น All-New Mitsubishi Triton ยังจะเป็นพื้นฐานให้กับ Nissan Navara เจนเนอเรชั่นใหม่อีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัว ในปี 2023 หรือราว 1 ปี หลังจากที่มีการเปิดตัว All-New Triton ไปแล้ว
คุณคิดว่า หาก Mitsubishi เปิดตัว Triton รุ่น PHEV ในเมืองไทย คนไทยเอง จะให้ความสนใจที่จะซื้อ มากน้อยแค่ไหน