2021 D-MAX Thailand

ยอดขาย-ส่งออก-ผลิตรถยนต์ จักรยานยนต์ของไทย เดือนกรกฎาคม 2564 / 2021

วันพุธที่ 25 สิงหาคม 2564 นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกิตติมศักดิ์ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และนายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมแถลงข่าวเปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนกรกฎาคม 2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนกรกฎาคม 2564 มีทั้งสิ้น 122,852 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 37.52 เพราะฐานต่ำในปีที่แล้ว แต่ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 8.49 เนื่องจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์ส่วนใหญ่พบกับปัญหาขาดแคลนชิพที่เป็นชิ้นส่วนสำคัญและชิ้นส่วนรถยนต์บางชิ้นในการผลิต จึงต้องชะลอการผลิตรถยนต์บางรุ่น

จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 967,453 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 39.11

รถยนต์นั่ง เดือนกรกฎาคม 2564 ผลิตได้ 45,203 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 31.09
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 มีจำนวน 342,180 คัน เท่ากับร้อยละ 35.37 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 30.08

รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนกรกฎาคม 2564 ผลิตได้ 0 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 100 รวมเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 ผลิตได้ 29 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 75

รถยนต์บรรทุก เดือนกรกฎาคม 2564 ผลิตได้ทั้งหมด 77,649 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 41.57 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 ผลิตได้ทั้งสิ้น 625,244 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 44.63

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนกรกฎาคม 2564 ผลิตได้ทั้งหมด 74,890 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 39.87 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 ผลิตได้ทั้งสิ้น 606,812 คัน เท่ากับร้อยละ 62.72ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 43.76 โดยแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 149,589 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 28.26
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 379,523 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 50.23
• รถกระบะ PPV 77,700 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 47.06

รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนกรกฎาคม 2564 ผลิตได้ 2,759 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 111.26 รวมเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 ผลิตได้ 18,432 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 80.65

ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนกรกฎาคม 2564 ผลิตได้ 69,934 คัน เท่ากับร้อยละ 56.93 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 60.25 ส่วนเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 556,171 คัน เท่ากับร้อยละ 57.49 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 42.60

รถยนต์นั่ง เดือนกรกฎาคม 2564 ผลิตเพื่อการส่งออก 20,395 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 6.29 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 164,096 คัน เท่ากับร้อยละ 47.96 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 25.19

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนกรกฎาคม 2564 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 49,539 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 102.60 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 392,075 คัน เท่ากับร้อยละ 64.61 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 51.41 โดยแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 47,241 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 60.40
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 300,054 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2563 ร้อยละ 58.27
• รถกระบะ PPV 44,780 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มิถุนายน 2563 ร้อยละ 12.22

ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนกรกฎาคม 2564 ผลิตได้ 52,918 คัน เท่ากับร้อยละ 43.07 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 15.80 และเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ผลิตได้ 411,282 คัน เท่ากับ ร้อยละ 42.51 ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 34.65

รถยนต์นั่ง เดือนกรกฎาคม 2564 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 24,808 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 62.21 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 ผลิตได้ 178,084 คัน เท่ากับร้อยละ 52.04 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 แล้ว เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.94

รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนกรกฎาคม 2564 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 25,351 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 12.85 และตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 ผลิตได้ทั้งสิ้น 214,737 คัน เท่ากับร้อยละ 35.39 ของยอดการผลิตรถกระบะ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 31.61 ซึ่งแบ่งเป็น

• รถกระบะบรรทุก 102,348คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 17.40
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 79,469 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 26.05
• รถกระบะ PPV 32,920 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 154.56

รถจักรยานยนต์
เดือนกรกฎาคม 2564 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 130,918 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 9.23 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 83,690 คัน ลดลงจากปี 2563 ร้อยละ 29.68 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 47,228 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 87.25

ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,392,094 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 36.26 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,089,003 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 35.87 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 303,091 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 37.67

ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของเดือนกรกฎาคม 2564 มีจำนวนทั้งสิ้น 52,442 คัน ต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 11.62 และลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 15.08 เพราะมีการล็อกดาวน์ตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม ลูกค้าจึงระมัดระวังในการใช้เงิน มีการยกเลิกการจองรถหรือเลื่อนการรับรถออกไป รวมทั้งการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน และการชะลอการผลิตรถยนต์รุ่นที่นิยมจากการขาดแคลนชิพและชิ้นส่วนรถยนต์จากการระบาดของโควิด-19 ในประเทศและประเทศคู่ค้าที่ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์

ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 115,623 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 15.62 แต่ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 28.23
ตั้งแต่เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 รถยนต์มียอดขาย 425,633 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 9.71 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 987,902 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 13.68

การส่งออก
รถยนต์สำเร็จรูป
เดือนกรกฎาคม 2564 ส่งออกได้ 70,590 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 42.42 เพราะฐานต่ำในปีที่แล้ว แต่ลดลงจากเดือนมิถุนายน 2564 ร้อยละ 14.97 โดยส่งออกลดลงในบางทวีป อาทิ เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศคู่ค้าลดลง ซึ่งมีมูลค่าการส่งออก 43,430.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 50.55 อย่างไรก็ตามประเทศคู่ค้าได้เปิดโรงงานผลิตรถยนต์เกือบเป็นปกติแล้ว จึงทำให้การส่งออกเครื่องยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์เพิ่มขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,783.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 174.38
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 17,075.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563ร้อยละ 173.02
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,223.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 81.64
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนกรกฎาคม 2564 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 65,513.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 75.44
เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 544,079 คัน โดยส่งออกเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 35.98 มีมูลค่าการส่งออก 314,138.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 44.88

• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 21,516.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 85.68
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 119,725.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2562 ร้อยละ 70.68
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 14,129.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 26.32

รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 469,509.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 51.58

รถจักรยานยนต์
เดือนกรกฎาคม 2564 มีจำนวนส่งออก 87,068 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 121.78 โดยมีมูลค่า 6,317.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 100.19

• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 231.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 323.58
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 205.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 119.88

รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนกรกฎาคม 2564 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 6,754.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2563 ร้อยละ 104.45

เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 574,183 คัน (รวม CBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 45.31 โดยมีมูลค่า 48,055.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 40.61

• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,455.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 97.58
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,141.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 63.42

รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 50,651.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – กรกฎาคม 2563 ร้อยละ 42.24

เดือนกรกฎาคม 2564 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 72,267.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 77.80

เดือนมกราคม – กรกฎาคม 2564 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 520,161.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 50.62

Leave a Reply