มร.ยามาชิตะ กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแพร่ระบาดในระลอกล่าสุดที่มีความรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้ได้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม และส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อรถยนต์ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุ่งหวังว่าสถานการณ์ต่างๆจะฟื้นตัวดีขึ้น จากความพยายามของภาครัฐในการแก้ไขปัญหา ควบคู่ไปกับแผนการฉีดวัคซีนสำหรับคนไทย ซึ่งจะก่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม”
มร.ยามาชิตะ กล่าวต่อไปว่า “แม้ว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยจะยังคงได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 แต่บรรดาบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ทั้งหลาย ก็ได้มีความพยายามในการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆในเชิงรุก เห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายรถยนต์จากงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 42 ที่ผ่านมา ตลอดจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้มีส่วนช่วยคลายความวิตกกังวลของผู้บริโภคและกระตุ้นให้เกิดใช้จับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่งผลให้ตัวเลขยอดขายตลาดรวมในช่วงครึ่งปีแรกอยู่ที่ 373,191 คัน เพิ่มขึ้น 13.6% จากยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว”
สถิติการขายรถยนต์ในประเทศ ม.ค. – มิ.ย. 2564 | ยอดขายปี 2564 | เปลี่ยนแปลง เทียบกับปี 2563 |
ปริมาณการขายรวม | 373,191 คัน | +13.6 % |
รถยนต์นั่ง | 120,351 คัน | + 0.5 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | 252,840 คัน | + 21.0 % |
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) | 196,934 คัน | + 18.3 % |
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) | 168,993 คัน | + 13.1% |
“สำหรับผลการดำเนินงานของโตโยต้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 มียอดขายโดยรวมเพิ่มขึ้น 24.4% หรือ คิดเป็นจำนวน 117,185 คัน ซึ่งถือได้ว่าดีกว่าอัตราการฟื้นตัวของตลาด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทฯ จะเผชิญกับความยากลำบากมากมายในปีที่ผ่านมา แต่ยังมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 หรือเท่ากับ 31.4% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตัวเลข 28.7% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สืบเนื่องจากกลยุทธ์การขายแบบใหม่ของเรา ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการเสริมความเข้มแข็งในส่วนกลยุทธ์การขายบนช่องทางออนไลน์และการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ตลอดจนความพยายามในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆของเราในช่วงแรกของปีนี้
สถิติการขายรถยนต์ของโตโยต้า ม.ค. – มิ.ย. 2564 | ยอดขายปี 2564 | เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2563 | ส่วนแบ่งตลาด |
ปริมาณการขายรวม | 117,185 คัน | + 24.4 % | 31.4 % |
รถยนต์นั่ง | 29,703 คัน | – 0.7 % | 24.7 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | 87,482 คัน | + 36.1 % | 34.6 % |
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) | 74,141 คัน | + 31.8 % | 37.6 % |
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) | 61,833 คัน | + 24.6 % | 36.6 % |
สำหรับแนวโน้มตลาดรถยนต์ของปี 2564 มร.ยามาชิตะคาดการณ์ว่า “มีหลากหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อทิศทางของตลาดรถยนต์ในปีนี้ อาทิ สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกล่าสุด การเข้าถึงวัคซีนของประชาชน รวมถึงแนวโน้มสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ ตลอดจนการสนับสนุน จากองค์กรเอกชนทุกภาคส่วนที่ผนึกกำลังในการร่วมคลี่คลายสถานการณ์ เรามีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จะสามารถฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ดังนั้นเราจึงคาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2564 จะอยู่ที่ 800,000 คัน เพิ่มขึ้น 1 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”
ประมาณการยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2564 | ยอดขาย ประมาณการปี 2564 | เปลี่ยนแปลง เทียบกับปี 2563 |
ปริมาณการขายรวม | 800,000 คัน | + 1 % |
รถยนต์นั่ง | 271,000 คัน | – 1.4 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | 529,000 คัน | + 2.3 % |
มร.ยามาชิตะ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับโตโยต้า เรามีเป้าหมายการขายในปี 2564 อยู่ที่ 260,000 คัน หรือคิดเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้น 6.4 % จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 32.5% แม้ว่าเราจะเผชิญปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19 แต่เรายังคงเชื่อมั่นว่า จากความพยายามของเรา ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขายบนช่องทางออนไลน์ แพ็คเกจการให้บริการที่ทำให้ลูกค้าสามารถ “เป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายขึ้น”และมาตรการเพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าในเรื่องการดูแลสุขอนามัย ทั้งในโชว์รูมและศูนย์บริการ รวมทั้งการให้บริการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคภายในรถยนต์ ตลอดจนความเข้มแข็งของเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ จะมีส่วนช่วยให้เราได้รับความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากลูกค้าเพื่อบรรลุสู่เป้าหมายของเราได้เป็นผลสำเร็จ”
ประมาณการขายรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2564 | ยอดขาย ประมาณการปี 2564 | เปลี่ยนแปลงเทียบกับปี 2563 | ส่วนแบ่งตลาด |
ปริมาณการขายรวม | 260,000 คัน | + 6.4 % | 32.5 % |
รถยนต์นั่ง | 67,000 คัน | -1.7% % | 24.7 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | 193,000 คัน | + 9.6 % | 36.5 % |
รถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) | 166,800 คัน | + 11.5 % | 40.2 % |
รถกระบะ 1 ตัน (ไม่รวมรถกระบะดัดแปลง) | 142,000 คัน | + 9.3 % | 39.6 % |
สำหรับปริมาณการส่งออกของโตโยต้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 บริษัทฯได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 141,909 คัน เพิ่มขึ้น 46% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมียอดการผลิตสำหรับการขายภายในประเทศและการส่งออกมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 258,365 คัน เพิ่มขึ้น 50% จากปีที่แล้ว
ปริมาณการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและการผลิตของโตโยต้า ม.ค. – มิ.ย. ปี 2564 | ปริมาณปี 2564 | เปลี่ยนแปลง เทียบกับปี 2563 |
ปริมาณการส่งออก | 141,909 คัน | + 46% |
ยอดผลิตรวมทั้งส่งออกและการขายในประเทศ | 258,365 คัน | + 50% |
ทั้งนี้สำหรับเป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของโตโยต้าในปีนี้ คาดการณ์ว่าปริมาณการส่งออกจะอยู่ที่ 322,000 คัน เพิ่มขึ้น 50 % จากปีที่แล้ว จากสัญญาณการฟื้นตัวในตลาดต่างประเทศ ด้วยปัจจัยต่างๆ อาทิ เช่น อัตราการลดลงของผู้ป่วยโควิด-19 ความคืบหน้าของแผนการฉีดวัคซีน และแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในประเทศต่างๆ
ส่วนในด้านการผลิตนั้น มองว่ามีแนวโน้มดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า จากความต้องการของลูกค้าในตลาดต่างประเทศซึ่งมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น ดังนั้นปริมาณการผลิตรถยนต์ของโตโยต้าในปี 2564 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 580,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 31 % จากปีที่แล้ว ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวสอดคล้องกับเป้าหมายการขายของทั้งในประเทศและส่งออก
เป้าหมายการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและการผลิตของโตโยต้าปี 2564 | ปริมาณปี 2564 | เปลี่ยนแปลง เทียบกับปี 2563 |
ปริมาณการส่งออก | 322,000 คัน | + 50 % |
ยอดผลิตรวมทั้งส่งออกและการขายในประเทศ | 580,000 คัน | + 31 % |
มร.ยามาชิตะ ยังได้กล่าวอีกด้วยว่า ” ภายใต้การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย โตโยต้ายังคงเดินหน้าสนับสนุนและเคียงข้างสังคมไทยให้ก้าวผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน ผ่านโครงการ ‘Toyota Stay with You’ ซึ่งเราได้ส่งมอบรถยนต์โตโยต้าให้กับกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และสาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อใช้ในการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ระหว่างการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ จากการที่บริษัทฯได้ร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ เราได้ให้บริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในรถยนต์โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ให้แก่ลูกค้ารถยนต์ทุกยี่ห้อไปแล้วกว่า1,300,000 คัน จนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ เรายังมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ การบริการ และกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความใส่ใจสูงสุดในด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยของพนักงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด อีกทั้งเราได้มีการว่าจ้างพนักงานในส่วนของสายงานการผลิตเพิ่มมากกว่า 400 อัตรา เพื่อกระตุ้นการจ้างงานในตลาดแรงงานไทยในปัจจุบัน รวมทั้งยังมีแผนที่จะจ้างงานเพิ่มในอนาคตอีกด้วย ทั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นของเราที่จะมีส่วนช่วยบรรเทาสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ และเรายังคาดหวังว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมไทยและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจในอนาคต”
มร.ยามาชิตะ กล่าวปิดท้ายว่า “เราขอแสดงความขอบคุณต่อภาครัฐ และลูกค้าทุกท่านตลอดจนผู้มีส่วนร่วมทุกท่าน สำหรับการสนับสนุนที่ท่านได้กรุณามอบให้กับพวกเรามาโดยตลอด แม้ในช่วงเวลาอันยากลำบากเช่นนี้ก็ตาม เรายังคงยืนหยัดเดินหน้าตามแนวทางสากลของโตโยต้าในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางของการผลิตและส่งออกรถยนต์ในระดับภูมิภาค ตลอดจนเดินหน้าสร้างความเจริญเติบโตให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อคนไทย”
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมิถุนายน 2564
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 64,974 คัน เพิ่มขึ้น 11.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 22,337 คัน | เพิ่มขึ้น 67.1% | ส่วนแบ่งตลาด 34.4% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 14,098 คัน | ลดลง 15.4% | ส่วนแบ่งตลาด 21.7% |
อันดับที่ 3 ฮอนด้า | 7,339 คัน | เพิ่มขึ้น 26.1% | ส่วนแบ่งตลาด 11.3% |
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,538 คัน เพิ่มขึ้น 8.3%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า | 6,422 คัน | เพิ่มขึ้น 33.3% | ส่วนแบ่งตลาด 28.5% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 5,414 คัน | ลดลง 12.7% | ส่วนแบ่งตลาด 24.0% |
อันดับที่ 3 มาสด้า | 1,821 คัน | เพิ่มขึ้น 30.1% | ส่วนแบ่งตลาด 8.1% |
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 42,436 คัน เพิ่มขึ้น 13.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 16,923 คัน | เพิ่มขึ้น 97.6% | ส่วนแบ่งตลาด 39.9% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 14,098 คัน | ลดลง 15.4% | ส่วนแบ่งตลาด 33.2% |
อันดับที่ 3 ฟอร์ด | 2,721 คัน | เพิ่มขึ้น 57.6% | ส่วนแบ่งตลาด 6.4% |
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 33,169 คัน เพิ่มขึ้น 12.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 14,472 คัน | เพิ่มขึ้น 96.2% | ส่วนแบ่งตลาด 43.6% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 12,564 คัน | ลดลง 18.2% | ส่วนแบ่งตลาด 37.9% |
อันดับที่ 3 ฟอร์ด | 2,721 คัน | เพิ่มขึ้น 57.6% | ส่วนแบ่งตลาด 8.2% |
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน: 3,811 คัน
โตโยต้า 1,768 คัน, อีซูซุ 1,142 คัน, มิตซูบิชิ 453 คัน, ฟอร์ด 391 คัน, นิสสัน 57 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 29,358 คัน เพิ่มขึ้น 10.4%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 12,704 คัน | เพิ่มขึ้น 107.8% | ส่วนแบ่งตลาด 43.3% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 11,422 คัน | ลดลง 23.2% | ส่วนแบ่งตลาด 38.9% |
อันดับที่ 3 ฟอร์ด | 2,330 คัน | เพิ่มขึ้น 64.8% | ส่วนแบ่งตลาด 7.9% |
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – มิถุนายน 2564
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 373,191 คัน เพิ่มขึ้น 13.6%
อันดับที่ 1 โตโยต้า | 117,185 คัน | เพิ่มขึ้น 24.4% | ส่วนแบ่งตลาด 31.4% |
อันดับที่ 2 อีซูซุ | 93,165 คัน | เพิ่มขึ้น 22.5% | ส่วนแบ่งตลาด 25.0% |
อันดับที่ 3 ฮอนด้า | 42,715 คัน | เพิ่มขึ้น 3.4% | ส่วนแบ่งตลาด 11.4% |
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 120,351 คัน เพิ่มขึ้น 0.5%
อันดับที่ 1 ฮอนด้า | 36,586 คัน | เพิ่มขึ้น 6.0% | ส่วนแบ่งตลาด 30.4% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 29,703 คัน | ลดลง 0.7% | ส่วนแบ่งตลาด 24.7% |
อันดับที่ 3 นิสสัน | 11,294 คัน | ลดลง 10.7% | ส่วนแบ่งตลาด 9.4% |
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 252,840 คัน เพิ่มขึ้น 21.0%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 93,165 คัน | เพิ่มขึ้น 22.5% | ส่วนแบ่งตลาด 36.8% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 87,482 คัน | เพิ่มขึ้น 36.1% | ส่วนแบ่งตลาด 34.6% |
อันดับที่ 3 ฟอร์ด | 16,296 คัน | เพิ่มขึ้น 41.5% | ส่วนแบ่งตลาด 6.4% |
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 196,934 คัน เพิ่มขึ้น 18.3%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 85,021 คัน | เพิ่มขึ้น 20.5% | ส่วนแบ่งตลาด 43.2% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 74,141 คัน | เพิ่มขึ้น 31.8% | ส่วนแบ่งตลาด 37.6% |
อันดับที่ 3 ฟอร์ด | 16,296 คัน | เพิ่มขึ้น 41.5% | ส่วนแบ่งตลาด 8.3% |
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน : 27,941 คัน
โตโยต้า 12,308 คัน, อีซูซุ 9,392 คัน, มิตซูบิชิ 3,532 คัน, ฟอร์ด 2,536 คัน, นิสสัน 173 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 168,993 คัน เพิ่มขึ้น 13.1%
อันดับที่ 1 อีซูซุ | 75,629 คัน | เพิ่มขึ้น 11.8% | ส่วนแบ่งตลาด 44.8% |
อันดับที่ 2 โตโยต้า | 61,833 คัน | เพิ่มขึ้น 24.6% | ส่วนแบ่งตลาด 36.6% |
อันดับที่ 3 ฟอร์ด | 13,760 คัน | เพิ่มขึ้น 46.1% | ส่วนแบ่งตลาด 8.1% |
NEWSPAPER (TOTAL MARKET SALES BY SEGMENT) | ||||||||
TOTAL CAR SALES | In Jun | |||||||
Jun-21 | Jun-20 | Y-O-Y | Share | ’21 Acc. | ’20 Acc. | Y-O-Y | Share | |
Toyota | 22,337 | 13,366 | +67.1% | 34.4% | 117,185 | 94,222 | +24.4% | 31.4% |
Isuzu | 14,098 | 16,661 | -15.4% | 21.7% | 93,165 | 76,054 | +22.5% | 25.0% |
Honda | 7,339 | 5,822 | +26.1% | 11.3% | 42,715 | 41,326 | +3.4% | 11.4% |
Mitsubishi | 3,944 | 4,002 | -1.4% | 6.1% | 23,528 | 25,762 | -8.7% | 6.3% |
Nissan | 2,270 | 3,523 | -35.6% | 3.5% | 16,027 | 21,502 | -25.5% | 4.3% |
Mazda | 3,005 | 2,642 | +13.7% | 4.6% | 18,908 | 15,408 | +22.7% | 5.1% |
Suzuki | 1,955 | 2,021 | -3.3% | 3.0% | 10,645 | 11,089 | -4.0% | 2.9% |
Hino | 1,216 | 940 | +29.4% | 1.9% | 6,483 | 4,193 | +54.6% | 1.7% |
Subaru | 93 | 35 | +165.7% | 0.1% | 1,591 | 539 | +195.2% | 0.4% |
Mitsu-Fuso | 0 | 0 | 0.0% | 0 | 0 | 0.0% | ||
Total Japanese makes | 56,257 | 49,012 | +14.8% | 86.6% | 330,247 | 290,095 | +13.8% | 88.5% |
Jun-21 | Jun-20 | Y-O-Y | Share | ’21 Acc. | ’20 Acc. | Y-O-Y | Share | |
Ford | 2,723 | 1,728 | +57.6% | 4.2% | 16,330 | 11,534 | +41.6% | 4.4% |
MG | 2,374 | 2,215 | +7.2% | 3.7% | 14,403 | 10,902 | +32.1% | 3.9% |
Chevrolet | 0 | 355 | -100.0% | 0.0% | 0 | 5,035 | -100.0% | 0.0% |
Hyundai | 137 | 151 | -9.3% | 0.2% | 1,142 | 1,075 | +6.2% | 0.3% |
TATA | 1 | 15 | -93.3% | 0.0% | 69 | 133 | -48.1% | 0.0% |
Kia | 75 | 68 | +10.3% | 0.1% | 971 | 449 | +116.3% | 0.3% |
Proton | 0 | 0 | 0.0% | 0 | 2 | -100.0% | 0.0% | |
Porsche | 139 | 83 | +67.5% | 0.2% | 769 | 348 | +121.0% | 0.2% |
Daewoo | 0 | 0 | 0.0% | 0 | 7 | -100.0% | 0.0% | |
Peugeot | 21 | 25 | -16.0% | 0.0% | 210 | 134 | +56.7% | 0.1% |
Benz | 0 | 0 | 0.0% | 0 | 0 | 0.0% | ||
B.M.W. | 0 | 0 | 0.0% | 0 | 0 | 0.0% | ||
Volvo | 0 | 0 | 0.0% | 0 | 0 | 0.0% | ||
Volkswagen | 0 | 0 | 0.0% | 0 | 0 | 0.0% | ||
Other makers | 3,247 | 4,397 | -26.2% | 5.0% | 9,050 | 8,926 | +1.4% | 2.4% |
Total | 64,974 | 58,049 | +11.9% | 100.0% | 373,191 | 328,640 | +13.6% | 100.0% |
PASSENGER CAR SALES | In Jun | |||||||
Jun-21 | Jun-20 | Y-O-Y | Share | ’21 Acc. | ’20 Acc. | Y-O-Y | Share | |
Toyota | 5,414 | 4,802 | +12.7% | 24.0% | 29,703 | 29,926 | -0.7% | 24.7% |
Honda | 6,422 | 4,816 | +33.3% | 28.5% | 36,586 | 34,518 | +6.0% | 30.4% |
Mazda | 1,821 | 1,400 | +30.1% | 8.1% | 10,896 | 10,605 | +2.7% | 9.1% |
Nissan | 1,555 | 1,733 | -10.3% | 6.9% | 11,294 | 12,641 | -10.7% | 9.4% |
Mitsubishi | 1,540 | 1,440 | +6.9% | 6.8% | 8,962 | 10,346 | -13.4% | 7.4% |
Suzuki | 1,660 | 1,776 | -6.5% | 7.4% | 9,310 | 9,783 | -4.8% | 7.7% |
Subaru | 0 | 1 | -100.0% | 0.0% | 12 | 21 | -42.9% | 0.0% |
Total Japanese makes | 18,412 | 15,968 | +15.3% | 81.7% | 106,763 | 107,840 | -1.0% | 88.7% |
Jun-21 | Jun-20 | Y-O-Y | Share | ’21 Acc. | ’20 Acc. | Y-O-Y | Share | |
MG | 695 | 301 | +130.9% | 3.1% | 2,906 | 2,234 | +30.1% | 2.4% |
Kia | 68 | 66 | +3.0% | 0.3% | 948 | 427 | +122.0% | 0.8% |
Ford | 2 | 2 | +0.0% | 0.0% | 34 | 16 | +112.5% | 0.0% |
Hyundai | 0 | 0 | 0.0% | 2 | 0 | 0.0% | ||
Proton | 0 | 0 | 0.0% | 0 | 2 | -100.0% | 0.0% | |
Porsche | 139 | 83 | +67.5% | 0.6% | 769 | 348 | +121.0% | 0.6% |
Peugeot | 0 | 0 | 0.0% | 0 | 0 | 0.0% | ||
Benz | 0 | 0 | 0.0% | 0 | 0 | 0.0% | ||
B.M.W. | 0 | 0 | 0.0% | 0 | 0 | 0.0% | ||
Volvo | 0 | 0 | 0.0% | 0 | 0 | 0.0% | ||
Other makers | 3,222 | 4,384 | -26.5% | 14.3% | 8,929 | 8,885 | +0.5% | 7.4% |
Total | 22,538 | 20,804 | +8.3% | 100.0% | 120,351 | 119,752 | +0.5% | 100.0% |
COMMERCIAL VEHICLE SALES | In Jun | |||||||
Jun-21 | Jun-20 | Y-O-Y | Share | ’21 Acc. | ’20 Acc. | Y-O-Y | Share | |
Isuzu | 14,098 | 16,661 | -15.4% | 33.2% | 93,165 | 76,054 | +22.5% | 36.8% |
Toyota | 16,923 | 8,564 | +97.6% | 39.9% | 87,482 | 64,296 | +36.1% | 34.6% |
Ford | 2,721 | 1,726 | +57.6% | 6.4% | 16,296 | 11,518 | +41.5% | 6.4% |
Mitsubishi | 2,404 | 2,562 | -6.2% | 5.7% | 14,566 | 15,416 | -5.5% | 5.8% |
Honda | 917 | 1,006 | -8.8% | 2.2% | 6,129 | 6,808 | -10.0% | 2.4% |
Nissan | 715 | 1,790 | -60.1% | 1.7% | 4,733 | 8,861 | -46.6% | 1.9% |
Mazda | 1,184 | 1,242 | -4.7% | 2.8% | 8,012 | 4,803 | +66.8% | 3.2% |
Chevrolet | 0 | 355 | -100.0% | 0.0% | 0 | 5,035 | -100.0% | 0.0% |
MG | 1,679 | 1,914 | -12.3% | 4.0% | 11,497 | 8,668 | +32.6% | 4.5% |
Hino | 1,216 | 940 | +29.4% | 2.9% | 6,483 | 4,193 | +54.6% | 2.6% |
Hyundai | 137 | 151 | -9.3% | 0.3% | 1,140 | 1,075 | +6.0% | 0.5% |
Suzuki | 295 | 245 | +20.4% | 0.7% | 1,335 | 1,306 | +2.2% | 0.5% |
TATA | 1 | 15 | -93.3% | 0.0% | 69 | 133 | -48.1% | 0.0% |
Kia | 7 | 2 | +250.0% | 0.0% | 23 | 22 | +4.5% | 0.0% |
Peugeot | 21 | 25 | -16.0% | 0.0% | 210 | 134 | +56.7% | 0.1% |
Mitsu-Fuso | 0 | 0 | 0.0% | 0 | 0 | 0.0% | ||
Benz | 0 | 0 | 0.0% | 0 | 0 | 0.0% | ||
Subaru | 93 | 34 | +173.5% | 0.2% | 1,579 | 518 | +204.8% | 0.6% |
Other makers | 25 | 13 | +92.3% | 0.1% | 121 | 48 | +152.1% | 0.0% |
Total | 42,436 | 37,245 | +13.9% | 100.0% | 252,840 | 208,888 | +21.0% | 100.0% |
ONE-TON PICKUP SALES | In Jun | |||||||
Jun-21 | Jun-20 | Y-O-Y | Share | ’21 Acc. | ’20 Acc. | Y-O-Y | Share | |
Toyota | 14,472 | 7,375 | +96.2% | 43.6% | 74,141 | 56,265 | +31.8% | 37.6% |
Isuzu | 12,564 | 15,368 | -18.2% | 37.9% | 85,021 | 70,573 | +20.5% | 43.2% |
Ford | 2,721 | 1,726 | +57.6% | 8.2% | 16,296 | 11,518 | +41.5% | 8.3% |
Mitsubishi | 2,386 | 2,562 | -6.9% | 7.2% | 14,224 | 15,416 | -7.7% | 7.2% |
Nissan | 585 | 1,559 | -62.5% | 1.8% | 3,910 | 7,805 | -49.9% | 2.0% |
Chevrolet | 0 | 257 | -100.0% | 0.0% | 0 | 2,458 | -100.0% | 0.0% |
Mazda | 67 | 58 | +15.5% | 0.2% | 668 | 797 | -16.2% | 0.3% |
TATA | 1 | 10 | -90.0% | 0.0% | 22 | 98 | -77.6% | 0.0% |
MG | 373 | 661 | -43.6% | 1.1% | 2,652 | 1,479 | +0.0% | 1.3% |
Total | 33,169 | 29,576 | +12.1% | 100.0% | 196,934 | 166,409 | +18.3% | 100.0% |
Remark: PPV is included in 1-TON PICKUP segment and can be separated as follows. | ||||||||
PURE PICKUP SALES | In Jun | |||||||
Jun-21 | Jun-20 | Y-O-Y | Share | ’21 Acc. | ’20 Acc. | Y-O-Y | Share | |
Toyota | 12,704 | 6,113 | +107.8% | 43.3% | 61,833 | 49,622 | +24.6% | 36.6% |
Isuzu | 11,422 | 14,868 | -23.2% | 38.9% | 75,629 | 67,625 | +11.8% | 44.8% |
Ford | 2,330 | 1,414 | +64.8% | 7.9% | 13,760 | 9,420 | +46.1% | 8.1% |
Mitsubishi | 1,933 | 2,009 | -3.8% | 6.6% | 10,692 | 11,598 | -7.8% | 6.3% |
Nissan | 528 | 1,222 | -56.8% | 1.8% | 3,737 | 6,973 | -46.4% | 2.2% |
Chevrolet | 0 | 229 | -100.0% | 0.0% | 0 | 1,820 | -100.0% | 0.0% |
Mazda | 67 | 58 | +15.5% | 0.2% | 668 | 797 | -16.2% | 0.4% |
TATA | 1 | 10 | -90.0% | 0.0% | 22 | 98 | -77.6% | 0.0% |
MG | 373 | 661 | -43.6% | 1.3% | 2,652 | 1,479 | +79.3% | 1.6% |
Total | 29,358 | 26,584 | +10.4% | 100.0% | 168,993 | 149,432 | +13.1% | 100.0% |
PPV SALES | In Jun | |||||||
Jun-21 | Jun-20 | Y-O-Y | Share | ’21 Acc. | ’20 Acc. | Y-O-Y | Share | |
Toyota | 1,768 | 1,262 | +40.1% | 46.4% | 12,308 | 6,643 | +85.3% | 44.0% |
Isuzu | 1,142 | 500 | +128.4% | 30.0% | 9,392 | 2,948 | +218.6% | 33.6% |
Mitsubishi | 453 | 553 | -18.1% | 11.9% | 3,532 | 3,818 | -7.5% | 12.6% |
Ford | 391 | 312 | +25.3% | 10.3% | 2,536 | 2,098 | +20.9% | 9.1% |
Chevrolet | 0 | 28 | -100.0% | 0.0% | 0 | 638 | -100.0% | 0.0% |
Nissan | 57 | 337 | -83.1% | 1.5% | 173 | 832 | -79.2% | 0.6% |
Total | 3,811 | 2,992 | +27.4% | 100.0% | 27,941 | 16,977 | +64.6% | 100.0% |