ในปี 2016 Fiat Chrysler Automobile หรือ FCA บริษัทแม่ของ RAM ได้เคยอวดโฉมรถกระบะปิกอัพต้นแบบขนาด full size Rebel TRX Concept ที่มาพร้อมขุมพลังซูเปอร์ชาร์จเจอร์ Hellcat V8 และการอัพเกรดช่วงล่างใหม่ ซึ่ง RAM เผยว่า มันจะเป็นคู่แข่งสำคัญของ Ford F-150 Raptor แต่ทุกอย่างก็เงียบไป จนล่าสุดวันนี้ RAM ก็ได้เปิดตัว 1500 TRX รุ่นปี 2021 ซึ่งมันก็คือ Rebel TRX รุ่น production นั่นเอง ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ RAM เคลมว่า 1500 TRX คือสุดยอดรถกระบะรุ่น production ของโลก ที่เร็ว และแรงที่สุด ด้วยพละกำลังสูงสุด ถึง 702 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น ที่ 69,995 เหรียญสหรัฐ หรือราว 2,180,000 บาท
ขุมพลัง Hellcat V8 ขนาดความจุ 6.2 ลิตร บล็อคนี้ อาจจะถือว่าเป็นรุ่นเครื่องยนต์ ที่มีพละกำลังน้อยที่สุดในตระกูล Hellcat แต่สำหรับรถกระบะรุ่น production ที่จำหน่ายในเชิงพาณิชย์แล้ว มันมากพอ ที่จะทำให้ 1500 TRX กลายเป็นรถกระบะ body-on-frame ที่แรงที่สุดในโลก ซึ่ง RAM เผยว่า พละกำลังที่ลดลงไป ก็เนื่องมาจากระบบท่อไอดีและท่อไอเสีย ที่ยาวมากขึ้น ซึ่งจะลดทอนกำลังของเครื่องยนต์ให้น้อยลงไป
RAM ยังได้เพิ่มความแกร่ง ให้กับโครงสร้างของ 1500 ที่เป็นพื้นฐานของ TRX ด้วยการใช้เหล็กความแข็งแรงสูง ที่ทั้งหนา และหนักกว่าเดิม 25% ซึ่งจุดนี้ RAM เคลมว่า จะช่วยให้ 1500 TRX เหินขึ้นลง หรือบุกตะลุยในพื้นที่ off-road ได้โดยไม่ต้องทำการเบรค เพื่อลดแรงกระแทก เหมือนกับรถกระบะของคู่แข่ง ระบบเกียร์สมรรถนะสูง ZF 8 สปีด ที่มีใช้ใน Jeep Grand Cherokee Trackhawk ช่วยส่งกำลังจากเครื่องยนต์ Hellcat ไปยังล้อทั้งสี่ ผ่านทางระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ part-time ชุด transfer case ได้รับการอัพเกรด เพื่อรองรับแรงบิดที่สูงขึ้น เพลาหลัง Dana 60 มาพร้อมดิฟล็อคหลังไฟฟ้า เพื่อการบุกตะลุยในพื้นที่ทะเลทราย ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ขุมพลัง Hellcat V8 มีระบบไอดีจาก 2 ทาง คือจากทางกระจังหน้า และสกู๊ปดักอากาศบนฝากระโปรง 1500 TRX สามารถทำอัตราเร่ง จาก 0-60 ไมล์ หรือ 96 กม/ชม ได้ภายใน 4.5 วินาที และแตะระดับ 100 ไมล์ หรือ 161 กม/ชม ใน 10.5 วินาที สามารถทำระยะควอเตอร์ไมล์ ได้ที่ 12.9 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด อยู่ที่ 190 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ระยะระหว่างล้อที่กว้างขึ้น 6 นิ้ว ทำให้การทรงตัวดีขึ้น ที่ระดับความเร็วสูง คิ้วซุ้มล้อ ทำให้ความกว้างโดยรวม มากกว่าเดิมเพิ่มเป็น 8 นิ้ว ระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น 0.8 นิ้ว ทำให้สามารถใส่ยาง Goodyear Wrangler Territory ขนาด 325/65 R18 เข้าไปได้ ซึ่งเป็นยางที่ถูกออกแบบ มาเพื่อ 1500 TRX โดยเฉพาะ โดยล้อทั้ง 4 ได้รับการติดตั้งโช้คอัพปรับได้ Bilstein Blackhawk E2 ที่รองรับน้ำหนัก ได้ตั้งแต่ 22 ปอนด์ ไปจนถึง 1 ตัน
ระบบกันสะเทือนหลัง ได้รับการออกแบบใหม่ มาเพื่อ TRX โดยเฉพาะ ระยะจากพื้นถึงใต้ท้องรถ อยู่ที่ 11.8 นิ้ว โดยชุดสปริงหลัง ถือว่ามีระดับความสูงมากที่สุด ในบรรดารถเชิงพาณิชย์ ที่มีจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา โดย RAM เผยว่า ระยะยุบด้านหน้าและหลัง อยู่ที่ 13 และ 14 นิ้วตามลำดับ เฉือน Ford F-150 Raptor ไปเล็กน้อย ซึ่งอยู่ที่ 13 และ 13.9 นิ้วตามลำดับ โดย Raptor มีระยะจากพื้นถึงใต้ท้องรถ อยู่ที่ 11.5 นิ้ว ซึ่งรถกระบะทั้งสองรุ่น สามารถลุยน้ำได้ ที่ระดับสูงสุด 32 นิ้ว ได้อย่างปลอดภัย
ห้องโดยสารภายใน ได้รับการอัพเกรดใหม่ ตกแต่งด้วยสีที่ตัดกับสีเบาะนั่ง เช่น สีแดง พร้อมเดินด้ายสีเดียวกัน โดยมีให้เลือกหลายแบบ หัวเกียร์ใหม่ถูกติดตั้งอยู่บนคอนโซลกลาง จากเดิมที่อยู่ด้านหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มอารมณ์การขับขี่ในแบบสปอร์ต แต่ก็ต้องเสียพื้นที่ในการวางสัมภาระบริเวณนี้ไป พวงมาลัยเป็นขอบหนาท้ายตัด paddle shifter ทำจากวัสดุอลูมิเนียมขนาดใหญ่ ทำให้การเข้าเกียร์ในโหมด manual ทำได้ง่ายขึ้น แม้ในขณะที่มีการหักเสี้ยวพวงมาลัยอยู่ก็ตาม โดยรุ่นย่อย TR2 ขึ้นไป จะมี head-up display มาให้ด้วย นอกจากนั้น ยังมีกล้องมองหลังเป็นอ็อปชั่น
RAM 1500 TRX มีหลายโหมดการขับขี่ ได้แก่ Normal, Wet & Snow, Off-Road, Sand, Rocks รวมถึง Baja โดยมีระบบ launch control มาให้ด้วย โดย 1500 TRX ยังมีระบบ jump detection ซึ่งมีเซนเซอร์ตรวจจับความเร็ว และระดับความสูงที่ล้อ รวมถึงตัววัดอัตราเร่ง ทำให้ระบบของรถรู้ว่า ตัวรถ กำลังลอยตัวอยู่ในอากาศ ขณะเหินอยู่หรือไม่ เพื่อป้องกันระดับกำลัง ที่พุ่งสูงขึ้นในทันทีทันใด เตรียมพร้อมในการเช้าเกียร์ที่เหมาะสม การกระจายแรงบิด รวมถึงอัตราแดมปิ้ง ซึ่งระบบโช้คอัพ จะมีการทำงานที่หนักมาก เพื่อให้การขับขี่นุ่มนวล และมีเสถียรภาพ และด้วยการขับขี่ในเส้นทาง off-road ที่อาจจะมีสภาพถนน ที่เลวร้ายกว่าปกติ skid plate ได้รับการติดตั้งถึง 5 จุด เพื่อป้องกันการกระแทก ที่อาจจะเกิดขึ้นใต้ท้องรถ
RAM 1500 TRX มีความสามารถในการลากจูงโหลด ที่มีน้ำหนักสูงสุด 8100 ปอนด์ รับโหลดบรรทุก ได้ที่ 1,310 ปอนด์ เหนือกว่า Ford F-150 Raptor ซึ่งทำได้ที่ 8000 ปอนด์ และ 1200 ปอนด์ ตามลำดับ นอกจากนั้น ยังมีระบบควบคุมรถพ่วงท้าย ที่เรียกว่า Trailer Reverse Steer Control ซึ่งเหนือกว่าระบบ Pro Trailer Backup Assist ของ Ford ตรงที่สามารถตรวจจับ ความยาวของรถพ่วงท้ายได้โดยอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องใส่ข้อมูลความยาวของรถพ่วงท้าย เข้าไปในระบบ ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้มาก
RAM จะเปิดรับจอง 1500 TRX ในวันนี้ 18 สิงหาคม และจะทำการส่งมอบรถครั้งแรก ได้ภายในสิ้นปี 2020 นี้ โดยรุ่น Launch Edition จะถูกผลิตออกมาจำหน่ายก่อน 702 คัน ที่มาพร้อมขอบล้อเย็บหมุด เครื่องเสียง Harman Kardon ลำโพง 19 ตัว หลังคา panoramic sunroof และสีพิเศษภายนอก สีเทา Anvil Gray