ในระหว่างการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ Nissan Kicks e-Power นายราเมช นาราสิมัน ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้นิสสัน ต้องหยุดสายการผลิตชั่วคราว ล่าสุด บริษัทได้กลับมาเปิดสายการผลิต เป็นปกติอีกครั้ง สำหรับสายการผลิตที่ 1 ส่วนสายการผลิตที่ 2 อยู่ระหว่างการประเมิน และคาดว่าจะมีความชัดเจน ในปลายสัปดาห์นี้
นายราเมช นาราสิมัน ยังเปิดเผยอีกว่า ได้มีการประเมิน อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย ว่าจะฟื้นตัวในอีก 3 ปีข้างหน้า จึงคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์ จะฟื้นตัวตามสภาพเศรษฐกิจ โดยในปี 2563 นิสสันประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไว้ว่า จะลดลง 30-35% หรือจะมีปริมาณการขาย อยู่ที่ 6 แสนกว่าคัน จากปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 1 ล้านกว่าคัน
ทั้งนี้ แม้ว่าตลาด จะมีการหดตัวอย่างรุนแรง แต่ทุกอย่าง ก็ต้องเดินหน้าต่อไป โดยในส่วนของนิสสัน ก็ยังยืนยันในแผนธุรกิจต่างๆ รวมถึงความสำคัญ ของธุรกิจในไทย ที่บริษัทแม่ ยังต้องการให้ไทย เป็นศูนย์กลางการผลิตต่อไป
ทั้งนี้ นิสสันได้เคยประกาศ แผนเพิ่มการลงทุนมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท ในปีที่ผ่านมา สำหรับโครงการ อีโคคาร์ เฟส 2 และโครงการ อี–เพาเวอร์ โดยมีระยะเวลา 3 ปี ทั้งด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การยกระดับสายการผลิต ซึ่งรองรับ ทั้งการจำหน่ายในประเทศ และการส่งออกไปยังต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ ผู้บริหารนิสสัน ยืนยันอีกครั้งว่า จะไม่มีการลดราคาเพื่อกระตุ้นตลาดแต่ที่ผ่านมานั้น เป็นเพียงโปรโมชั่น หรือแคมเปญพิเศษ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และข้าราชการบางกลุ่ม ที่จำกัดจำนวนการขาย เพียง 1,000 คันเท่านั้น ทำให้เป็นที่น่าจับตามองต่อไปว่า นิสสันจะทำอย่างไร ให้ขยับขึ้นมาเป็นค่ายรถยนต์แนวหน้าของไทย เหมือนกับที่ทำได้ ในระดับโลก จากฝีมือของผู้บริหารคนใหม่นี้
การออกมาให้ความมั่นใจ ของผู้บริหารนิสสัน ประเทศไทย ในครั้งนี้ สอดคล้องกับกระแสข่าวที่ว่า นิสสัน จะหันมาโฟกัสตลาดในเอเชียมากขึ้น ซึ่งจะมีการแถลงข่าว เกี่ยวกับแผนงานการลดต้นทุนของ Nissan Motor ในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ และจากการที่นิสสัน ประเทศไทย ยังยืนยันการลงทุนตามแผนงานเดิม และเน้นการตลาดที่ครอบคลุมมากขึ้น ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า เราอาจจะได้เห็นนิสสัน ในรูปแบบใหม่ ที่ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในตลาดเมืองไทย ได้ดีกว่าในอดีต แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าท้าทายอีกเช่นกัน หากนิสสัน ไม่ใช้กลยุทธ์ในด้านราคา ในการสร้างตลาดขึ้นมา เหมือนอย่างค่ายรถยนต์อื่นๆ ที่มักจะทำกัน