หลังจากที่หนึ่งในแบรนด์รถยนต์จากอเมริกา ที่มีจำหน่ายในเมืองไทยอย่าง Chevrolet ได้ประกาศยุติการจำหน่าย ไปแบบช็อคคนไทยทั้งประเทศ มุมมองหนึ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้รถก็คือ แล้วจะมีค่ายรถยนต์รายใดต่อไป ที่จะมีโอกาสถอนทัพจากเมืองไทยไปแบบ chevrolet บ้าง ซึ่งแน่นอนว่า Ford ก็คือหนึ่งในนั้น ในฐานะค่ายรถยนต์สัญชาติอเมริกันเช่นเดียวกัน และยังมีรุ่นรถยนต์ที่จำหน่าย เพียงไม่กี่รุ่นในเมืองไทย
นั่นทำให้ Ford ประเทศไทย ไม่สามารถเฉยอยู่ได้ จึงเป็นที่มาของเอกสารชี้แจง พร้อมการแสดงความเสียใจกับเพื่อนร่วมอุตสาหกรรม ที่ช่วยกันผลักดันอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทย มาอย่างยาวนาน จะว่าไปแล้ว การแสดงสปิริตในลักษณะนี้ของ Ford ก็เพิ่งเกิดขึ้นกับ Holden ในออสเตรเลีย ที่ General Motors ก็ประกาศยุติการทำตลาด ภายในสิ้นปี 2021
โดย Ford ได้ชี้แจงว่า บริษัทยังเดินหน้าลงทุน ในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้ประกาศการลงทุนเพิ่มอีก 82 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2,400 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และศักยภาพในการผลิตของโรงงานฟอร์ด ทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม ให้สามารถผลิตรถยนต์ ได้ถึง 40,000 คัน จากปัจจุบัน ที่ทำได้ที่ 14,000 คัน แต่นั่นดูเหมือนว่า ไม่ได้สร้างความมั่นใจ ให้กับผู้ใช้รถยนต์ชาวไทย มากเท่าใดนัก
อย่างไรก็ตาม ฟอร์ดแสดงเจตนารมณ์ว่า ยังยึดมั่นต่อการดำเนินธุรกิจ ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย ด้วยพนักงานกว่า 8,300 คน ทั้งพนักงานในสำนักงาน และที่โรงงาน ฟอร์ด แมนูแฟคเจอร์ริ่ง ซึ่งฟอร์ดเป็นเจ้าของทั้งหมด รวมถึงโรงงานร่วมทุน ออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย ซึ่งผลิตและส่งออกรถยนต์ ไปยังกว่า 180 ประเทศทั่วโลก
ปัจจุบัน ฟอร์ด เป็นหนึ่งในบริษัทยานยนต์ ผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าการลงทุนสะสม รวมกว่า 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ นับตั้งแต่ปี พศ 2538 เป็นต้นมา และในปี 2562 ที่ผ่านมา ฟอร์ดมียอดขายรถกระบะเรนเจอร์ในประเทศไทย ถึง 43,375 คัน ครองอันดับ 3 ไว้ได้อย่างเหนียวแน่นเป็นปีที่ 4 ในตลาดรถกระบะที่มีการแข่งขันสูง ขณะที่ยอดขายรวมทั้งปี 2562 อยู่ที่ 50,006 คัน