ในขณะที่กำลังซื้อในตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ กำลังหดตัวอย่างหนัก ดังเห็นได้ชัด จากเซกเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดของไทย อย่างรถกระบะ Pure pickup แต่รถกระบะขนาด 1 ตันเหมือนกัน อย่างรถกระบะดัดแปลง หรือที่เรียกว่า PPV กลับมียอดขายสวนทาง คือยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับตลาดรถยนต์นั่ง เป็นการสะท้อนให้เห็นจุดประสงค์ในการใช้งานรถยนต์ประเภทนี้ว่า กลุ่มเป้าหมาย ใช้งานรถ ในแบบรถยนต์นั่งมากกว่า เพียงแต่ต้องการความสมบุกสมบันในแบบรถกระบะ สิ่งที่น่าจับตาดูกันต่อไป ก็คือการนำเสนอทางเลือก ที่เป็นขุมพลังไฮบริดและไฟฟ้า เพราะดูเหมือนว่า ระบบขับเคลื่อนแบบนี้ เป็นที่ชื่นชอบของคนไทย จากการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดรถยนต์นั่ง ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นั่นทำให้เราอาจจะได้เห็น PPV ไฮบริดหรือไฟฟ้าแบตเตอรี่ ในอีกไม่นาน โดยเฉพาะทั้ง PPV และรถกระบะ pure pickup จากค่าย Toyota ในขณะที่ Isuzu ก็เพิ่งเปิดเผย ถึงแผนการผลิตรถกระบะไฟฟ้าในเมืองไทย เมื่อเร็วๆนี้ และแน่นอนว่า เราอาจจะได้ลุ้นกับ MU-X เวอร์ชั่นไฟฟ้า หรือไฮบริดเช่นกัน ความนิยมในรถยนต์นั่ง ที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราได้เห็นยอดขายล่าสุด ที่ยังเป็นบวก จากรายงานสถิติการขายรถยนต์ ประจำเดือนกรกฏาคม 2566 โดย โตโยต้า ประเทศไทย ที่ได้รายงานยอดขายรถยนต์ทั้งตลาด ว่าอยู่ที่ 58,419 คัน ลดลง 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่ตลาดรถยนต์นั่ง ยังแรงต่อเนื่อง ด้วยยอดขาย 25,511 คัน เติบโต 17.3% ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่อง ด้วยยอดขาย 35,908 คัน ลดลง 19.9% ในส่วนของรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ ชะลอตัวเช่นกันด้วยยอดขาย 24,982 คัน ลดลงถึง 26.6% จากการชะลอการตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่องของภาคธุรกิจ และภาคประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของธุรกิจขนส่ง โดยมีปัจจัยลบที่สำคัญอย่างยิ่งคือความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ที่มีความกังวลต่อหนี้เสีย อันเป็นผลต่อเนื่องที่เกิดจากสภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา
ปริมาณการจำหน่ายรถกระบะดัดแปลง PPV ประจำเดือนกรกฎาคม 2566
มีปริมาณการขาย 4,673 คัน เพิ่มขึ้น 10.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
อันดับ 1 Toyota Fortuner 1,776 คัน เพิ่มขึ้น 34.4% ส่วนแบ่งตลาด 38.0%
อันดับ 2 Isuzu MU-X 1,677 คัน เพิ่มขึ้น 7.0% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%
อันดับ 3 Ford Everest 934 คัน เพิ่มขึ้น 33.4% ส่วนแบ่งตลาด 20.0%
อันดับ 4 Mitsubishi Pajero Sport 213 คัน ลดลง 62.08% ส่วนแบ่งตลาด 4.6%
อันดับ 5 Nissan Terra 73 คัน ลดลง 20.7% ส่วนแบ่งตลาด 1.6%
จากยอดขายล่าสุด จะพบว่า รถประเภท PPV มียอดขายรวมทั้งตลาด เป็นสัดส่วนถึง 23% หรือเกือบ 1 ใน 4 ของตลาดรถกระบะ pure pickup ซึ่งล่าสุดในเดือนเดียวกัน ทำได้เพียง 20,309 คัน แถม PPV ยังมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10% ในขณะที่รถกระบะยอดขายลดฮวบ ถึง 32% นั่นทำให้การพิจารณาทางเลือก ที่เป็นระบบไฮบริดและไฟฟ้าแบตเตอรี่ ดูจะมีความเป็นไปได้มากกว่าสำหรับ PPV เพราะกลุ่มลูกค้า เป็นคนละกลุ่มกันชัดเจน แต่ด้วยการที่รถใช้โครงสร้างแบบ ladder frame ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรถกระบะ Pure pickup เป็นหลัก การให้ความสำคัญกับ PPV ที่เป็นเหมือนตลาดเสริม ในการเพิ่มขุมพลังไฟฟ้าหรือไฮบริดให้ก่อน จึงมีความเป็นไปได้น้อย จากยอดขายในเดือนกรกฎาคม Toyota Fortuner สามารถขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้อีกครั้ง แต่ก็ห่างจากที่ 2 Isuzu MU-X เพียง 99 คันเท่านั้น ในขณะที่ Ford Everest ทำได้ดีเหมือนเดิม ด้วยส่วนแบ่งตลาดถึง 20% ส่วน Mitsubishi Pajero Sport และ Nissan Terra ยอดขายลงมาก โดยเฉพาะ Pajero Sport ซึ่งเป็นไปได้ว่าตลาดรับรู้ถึงการเตรียมเปิดตัวรุ่นใหม่ในอนาคต
ปริมาณการจำหน่ายรถกระบะดัดแปลง PPV ใน 7 เดือนแรกของปี 2566
มีปริมาณการขาย 37,940 คัน เพิ่มขึ้น 12.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
อันดับ 1 Isuzu MU-X 13,630 คัน เพิ่มขึ้น 27.8% ส่วนแบ่งตลาด 35.9%
อันดับ 2 Toyota Fortuner 13,538 คัน ลดลง 8.4% ส่วนแบ่งตลาด 35.7%
อันดับ 3 Ford Everest 7,204 คัน เพิ่มขึ้น 144.5% ส่วนแบ่งตลาด 19.0%
อันดับ 4 Mitsubishi Pajero Sport 213 คัน ลดลง 62.08% ส่วนแบ่งตลาด 4.6%
อันดับ 5 Nissan Terra 73 คัน ลดลง 20.7% ส่วนแบ่งตลาด 1.6%
สำหรับยอดขายสะสมทั้งปี จนถึงตอนนี้ ISUZU MU-X ยังนำมาเป็นอันดับ 1 แต่ทิ้งระยะห่างจากที่ 2 ไว้เพียง 92 คันเท่านั้น เรียกว่าเดาไม่ออกว่าใครจะเข้าวิน แต่ Isuzu อาจจะมีแต้มต่อหากเปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่ในช่วงปลายปีเพื่อกระตุ้นตลาด ในขณะที่ Toyota มีลุ้นกับ Fortuner รุ่นใหม่ที่เปิดตัวไปแล้ว เมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี้ ที่ยังมีลุ้นกับยอดขายที่มากขึ้นในการรายงานยอดขายครั้งต่อไป Ford Everest ยังเดินหน้าไปได้ดี กับยอดขายที่เพิ่มขึ้น 144.5% จากปีก่อน ถือว่ายอดขาย PPV เป็นส่วนสัดส่วนถึงเกือบครึ่งหนึ่งของยอดขาย Ranger เลยทีเดียว สำหรับ 7 เดือนแรกของปี การเติบโตของตลาดรถยนต์นั่งและรถยนต์ไฟฟ้า ที่เป็นไปในทิศทางเดียว อาจจะทำให้ผู้เล่นในตลาดรถกระบะ Pure pickup อาจจะหันมาให้ความสนใจในการทำตลาด PPV มากขึ้น อย่างน้อยก็ทำให้ภาพรวมของตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ไม่ได้แย่ลงไปมาก จากกำลังซื้อที่หดตัวลงอย่างมากในเมืองไทยช่วงนี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราอาจจะมีโอกาสเห็น PPV ไฮบริดหรือไฟฟ้า เร็วกว่าที่ควรจะเป็น