ในงาน AUTO GUANGZHOU 2021 ประเทศจีน ที่เพิ่งปิดฉากลง ไปเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา GAC ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่จากจีน ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเปิด GAC Aion LX Plus รถเอสยูวีไฟฟ้า ที่ถือว่าเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของรุ่น Aion LX ซึ่งจะว่าไปแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าสนใจ เพราะรถยนต์สัญชาติจีน มีอยู่มากมาย และรถยนต์ไฟฟ้า ก็ถือว่าเป็นยานหนะ ที่ใช้กันแพร่หลายในแดนมังกร แต่สิ่งที่ทำให้รถยนต์รุ่นนี้ ได้รับความสนใจกว่ารถยนต์รุ่นอื่นๆในงาน ก็คือ Aion LX Plus มาพร้อมพละกำลังที่สูงถึง 725 แรงม้า และสามารถแล่นไปได้ไกลสูงสุดถึง 1,008 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟเต็มความจุแบตเตอรี่ 1 ครั้ง ถือว่าเป็นการก้าวกระโดด สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันก็ว่าได้ เพราะนอกจากพลังที่เหลือล้น ถ้าจะเปรียบเทียบแล้ว รถรุ่นนี้ สามารถเดินทางไปได้ทั่วไทย จากจุดเริ่มต้นที่กรุงเทพมหานคร โดยไม่ต้องมีการแวะพักรถเพื่อชาร์จไฟ เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ ให้กับรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ที่แม้ว่า GAC จะไม่ได้ทำตลาดในเมืองไทย แต่น่าจะเป็นนิมิตรหมายที่ดีว่า ในอนาคตอีกไม่กี่ปี เราก็น่าจะมีโอกาสได้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ในลักษณะเดียวกันนี้ จากค่ายรถยนต์จากจีน ซึ่งในปัจจุบันมีเพียง MG และ GWM ที่ทำตลาดในเมืองไทยอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจีนเอง มีความได้เปรียบผู้เล่นรายอื่นในหลายๆด้าน ทั้งเทคโนโลยี วัตถุดิบในการผลิตแบตเตอรี่ ขนาดของตลาด และเงินทุน
GAC Aion LX Plus เป็นรถเอสยูวีขนาดใหญ่ คือมีความยาวที่ 4835 มม กว้าง 1935 มม และสูง 1685 มม ฐานล้อมีความยาว อยู่ที่ 2920 มม คือมีขนาดใหญ่กว่ารถที่เราคุ้นเคยกันดี อย่าง Toyota Fortuner ในทุกมิติ ยกเว้นความสูง และด้วยขนาดตัวถังที่ใหญ่ ยิ่งทำให้ตัวเลขระยะทางวิ่ง และกำลังสูงสุด ดูน่าทึ่งขึ้นไปอีก นั่นทำให้แบตเตอรี่ ที่ส่งพลังไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าทั้งสองตัว ผ่านเกียร์แบบ 2 สปีด มีขนาดใหญ่ถึง 144 กิโลวัตต์ชั่วโมง โดย Aion LX Plus สามารถทำความเร็วจาก 0-100 ภายในเวลาเพียง 2.9 วินาทีเท่านั้น Aion LX Plus ยังมีรุ่นย่อย ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ให้กำลังสูงสุด 180 กิโลวัตต์หรือ 241 แรงม้า ความเร็วสูงสุด อยู่ที่ 170 กิโลเมตร/ชม
จุดเด่นของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้อีกอย่างก็คือ แบตเตอรี่ที่ใช้ เป็นสิทธิบัตรของ GAC เอง ที่เรียกว่า เทคโนโลยีแบตเตอรี่ Sponge silicon negative plate ที่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้มาก และทนทานในการใช้งาน นอกจากนั้น ยังมีขนาดเล็กกว่าแบตเตอรี่ทั่วไปที่ใช้ ถึง 20% และมีน้ำหนักน้อยกว่า 14%
GAC Aion LX Plus มาพร้อมดีไซน์ที่ทันสมัย ทั้งภายนอกและภายใน จอแสดงผลกลางมีขนาดใหญ่ถึง 15.6 นิ้ว มาพร้อมระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ ADiGO 4.0 ที่ควบคุมด้วยไมโครโปรเซสเซอร์ Qualcomm 8155 แบบ 8 core ขนาด 7 นาโนเมตร ระบบเสียงจาก Alpine มาพร้อมลำโพง 10 ตัว ส่วนเบาะนั่งหุ้มด้วยหนัง Nappa
ถือว่า Aion LX Plus มีความล้ำสมัย และมีประสิทธิภาพในการขับขี่ ที่ทำได้ดีกว่ารถยนต์ไฟฟ้า ที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันอย่างมาก โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายญี่ปุ่น ที่ส่วนใหญ่ ยังเน้นในการทำตลาดรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน และรถไฮบริดเป็นหลัก เพราะนอกจากจะลงทุนไปมากแล้ว เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอยู่ในมือ ดูเหมือนจะตามหลังค่ายรถยนต์จากจีนพอสมควร แต่ก็มีบางค่ายรถยนต์อย่าง Toyota และ Nissan ที่พยายามหาทางออกใหม่ ๆ ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ แบบ solid state เพื่อสร้างความแตกต่าง และให้บริษัท สามารถอยู่รอดได้ในระยะยาว
GAC ยังไม่เปิดเผยราคาจำหน่าย Aion LX Plus ในขณะนี้ ซึ่งถ้าราคาอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก ก็จะเหมือนเป็นการแสดงให้โลกได้เห็นไปในทีว่า ค่ายรถยนต์จากจีน กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในอุตสาหกรรมและธุรกิจยานยนต์ระดับโลก ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แทนที่ค่ายรถยนต์ต่างๆ ที่เราคุ้นเคยกันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งค่ายรถยนต์จากจีน นอกจากจะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีประสิทธิภาพสูง ดีไซน์สวยงาม และมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยแล้ว ราคาจำหน่าย ก็อยู่ในระดับที่คนทั่วไปเอื้อมถึงได้ด้วย