ครั้งหนึ่ง ตลาดรถกระบะดัดแปลงหรือ PPV ของไทย ไม่เคยมีใคร ที่จะกล้าคิดเลยว่า จะมีรถยนต์แบรนด์ใด ก้าวขึ้นมาแข่งขันกับ Toyota Fortuner ในด้านยอดขาย จะใกล้เคียงที่สุด ก็คือ Mitsubishi Pajero Sport ที่ยึดอันดับที่ 2 มาอย่างยาวนาน ซึ่งสามารถทำได้ เพียงแค่ขยับเข้าใกล้ Fortuner หลังจากที่ได้ทำการปรับโฉมใหม่เท่านั้น แต่แล้ว Isuzu ค่ายรถกระบะอันดับ 1 รายล่าสุดของไทย ก็สร้างเซอร์ไพรซ์ ที่ไม่ใช่เพียงแค่การเข้ามาแทนที่อันดับ 2 อย่าง Pajero Sport เท่านั้น แต่สามารถส่งให้ All-New MU-X ทำยอดขายพุ่งทะยานแซงเบอร์ 1 ตลอดกาล อย่าง Fortuner ไปได้อย่างเหนือความคาดหมาย ในเดือนธันวาคม ปี 2020 ที่่ผ่านมา หลังจากนั้น MU-X ก็สามารถเข้ายึดตำแหน่งที่ 2 ได้จาก Pajero Sport มาอย่างต่อเนื่อง และทำยอดขายสูสีกับอันดับ 1 ได้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นการยืนยันความสำเร็จ ของทีมการตลาดตรีเพชรอีซูซุว่า ที่ผ่านมา Isuzu D-MAX สามารถก้าวขึ้นมาสู่แถวหน้าของตลาดรถกระบะเมืองไทย และกลับมาครองแชมป์ได้อีกครั้งในปีที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องของดวง หรือความบังเอิญแต่อย่างใด
จากรายงานสถิติการขายรถยนต์ ประจำเดือนมีนาคม 2564 โดยบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีการปรับตัวดีขึ้นในทุกตลาด โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 79,969 คัน เพิ่มขึ้น 25.6% ประกอบด้วยรถยนต์นั่ง 30,183 คัน เพิ่มขึ้น 24.7% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 49,786 คัน เพิ่มขึ้น 26.1% ขณะที่รถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ ซึ่งเป็นยอดรวมของรถกระบะธรรมดา และรถ PPV มีจำนวน 38,106 คัน เพิ่มขึ้น 25.8%
ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง หรือ PPV ประจำเดือนมีนาคม 2564
มีปริมาณการขาย 5,850 คัน เพิ่มขึ้น 89.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
อันดับ 1 Toyota Fortuner 2,588 คัน เพิ่มขึ้น 169.0% ส่วนแบ่งตลาด 44.2%
อันดับ 2 Isuzu MU-X 1,892 คัน เพิ่มขึ้น 195.6% ส่วนแบ่งตลาด 32.3%
อันดับ 3 Mitsubishi Pajero Sport 914 คัน เพิ่มขึ้น 18.2% ส่วนแบ่งตลาด 15.6%
อันดับ 4 Ford Everest 433 คัน เพิ่มขึ้น 3.3% ส่วนแบ่งตลาด 7.4%
อันดับ 5 Nissan Terra 23 คัน ลดลง 61.0% ส่วนแบ่งตลาด 0.4%
อันดับ 6 Chevrolet Trailblazer 0 คัน ลดลง 100.0% ส่วนแบ่งตลาด 0.0%
ในเดือนล่าสุดนี้ MU-X ยังตามติด Fortuner ในระยะห่างพอสมควร คือมีช่องว่างอยู่ที่ 696 คัน และมากกว่าอันดับ 3 อยู่ 2 เท่าตัว แต่ MU-X มีการเติบโตที่มากกว่า Fortuner ซึ่งถ้า Isuzu ยังสามารถรักษาระดับการเติบโตให้มากกว่า Toyota ไปได้ตลอด นั่นจะทำให้ระยะห่างระหว่างรถทั้งสองรุ่น น้อยไปลงด้วย ซึ่งหมายความว่า ในระยะยาว MU-X มีโอกาสแซง Fortuner ขึ้นเป็นที่ 1 ได้ และการที่ตลาดมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ทำให้ตัวเลขยอดขาย อาจจะมีการแกว่งขึ้น หรือลงได้มาก ซึ่งถ้า Isuzu ต้องการเป็นเบอร์ 1 ในตลาดนี้ขึ้นมาจริงๆ ก็ย่อมทำได้ง่ายกว่าตลาดรถกระบะอยู่มาก ในขณะที่ Toyota อาจจะยังมั่นใจ ในเรื่องตัวแบรนด์สินค้า และการที่จะเพิ่มอ็อปชั่น ในราคาที่ไม่สูงมาก ก็อาจจะไม่ใช่แนวทาง ที่บริษัทจะเลือกใช้ เพราะนั่นหมายถึงการทำสงครามราคา และ Toyota เอง ก็มีต้นทุนในการจัดการ ที่สูงกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ
ส่วนอันดับ 3 และ 4 ก็ดูจะมีระยะห่างกันพอประมาณ ซึ่ง Ford เอง ก็ต้องรอลุ้นการเปิดตัว All-New Everest ที่จะมีการเปิดตัวต่อจาก Ranger โฉมใหม่ ซึ่งจะทำให้การแข่งขันในตลาด PPV น่าจับตามองมากขึ้น ในขณะที่ยอดขายของ Nissan Terra น่าจะทำให้บริษัท กลับมาพิจารณาว่า การมีอยู่ ของรถยนต์ รุ่นที่ทำยอดขายเพียง 20 กว่าคันต่อเดือน กับการแบกรับต้นทุนในการบริหารจัดการ การสต็อกอะไหล่ และการบำรุงรักษา จะคุ้มค่าในการทำตลาดต่อหรือไม่ เพราะรถที่ใช้เป็นพื้นฐานของ Terra อย่าง Navara ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ส่วน Chevrolet Trailblazer ก็น่าจะถูกตัดออกจากรายชื่อ ของรถที่ทำตลาดในไทยในอีกไม่นาน
ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง หรือ PPV ในไตรมาสแรกของปี 2564
มีปริมาณการขาย 14,944 คัน เพิ่มขึ้น 51.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
อันดับ 1 Toyota Fortuner 6,502 คัน เพิ่มขึ้น 95.8% ส่วนแบ่งตลาด 43.5%
อันดับ 2 Isuzu MU-X 5,177 คัน เพิ่มขึ้น 193.6% ส่วนแบ่งตลาด 34.6%
อันดับ 3 Mitsubishi Pajero Sport 1,967 คัน ลดลง 25.1% ส่วนแบ่งตลาด 13.2%
อันดับ 4 Ford Everest 1,249 คัน ลดลง 3.8% ส่วนแบ่งตลาด 8.4%
อันดับ 5 Nissan Terra 49 คัน ลดลง 83.0% ส่วนแบ่งตลาด 0.3%
อันดับ 6 Chevrolet Trailblazer 0 คัน ลดลง 100.0% ส่วนแบ่งตลาด 0.0%
สำหรับยอดขายสะสมในไตรมาสแรก เราจะพบว่า MU-X มีการเติบโตมากกว่า Fortuner เกือบ 2 เท่าตัว และขึ้นมาครองส่วนแบ่งตลาด มากถึง 34.6% ตัวเลขนี้ น่าจะทำให้ Toyota ไม่อาจจะอยู่นิ่งได้ ทำให้เราพอจะคาดหวังโปรโมชั่นใหม่จาก Toyota ได้ในอนาคตอันใกล้ เพราะถ้าจะให้รอการปรับโฉมครั้งใหญ่ ก็จะต้องรอไปอีกอย่างน้อย 3-4 ปี อีกอย่าง แม้ว่าตลาด PPV จะมีขนาดเล็ก แต่การปล่อยให้ Isuzu ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ในตลาดนี้ได้ ย่อมเป็นการเสียศักดิ์ศรี และภาพลักษณ์ของ Toyota ที่ให้ความสำคัญมาโดยตลอด อีกทั้ง PPV เป็นรถที่ใช้พื้นฐานมาจากรถกระบะขนาด 1 ตัน การเสียแชมป์ในตลาดนี้ไปอีก ก็เหมือนเป็นการพ่ายแพ้ ในตลาดรถกระบะของไทยไปโดยสิ้นเชิง ในมุมกลับกัน Isuzu ก็มีความมุ่งมั่น ที่จะเอาชนะ Toyota ในสนามรบแห่งนี้มากขึ้น หลังจากที่ได้ชัยชนะ ในสมรภูมิรถกระบะ มาในปีที่ผ่านมา ทำให้การแข่งขันระหว่างอันดับ 1 และ 2 จะต้องจับตาดูกันชนิดที่เรียกว่า เดือนต่อเดือนกันเลยทีเดียว