บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ส่งมอบผลิตภัณฑ์ BRIDGESTONE ECOPIA R156 นวัตกรรมยางรักษ์โลกที่ช่วยเติมเต็มสมรรถนะความปลอดภัย และมอบความคุ้มค่าในการใช้งานให้กับบริษัท ไทย สมายล์ บัส (จำกัด) เพื่อใช้สำหรับรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งให้บริการประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ขานรับกับแนวคิดของไทย สมายล์ บัส ที่ว่า “Thai Smile Bus Our Love Will Change The World รักเรารักษ์โลก” ด้วยการเปลี่ยนรถโดยสาร NGV มาเป็นรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อร่วมผลักดันนโยบายการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังตอกย้ำเจตนารมณ์ของบริดจสโตนในการร่วมยกระดับสังคมแห่งการเดินทางและการขนส่งยุคใหม่สู่สังคมแห่งยานยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างยั่งยืน เพื่อร่วมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนไทย และร่วมสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น
ผลิตภัณฑ์ BRIDGESTONE ECOPIA R156 คือนวัตกรรมยางเรเดียลสำหรับรถบรรทุกและรถโดยสาร มีอายุการใช้งานที่ยาวนานด้วยเทคโนโลยีการออกแบบเนื้อยาง ทำให้เนื้อยางสึกเรียบสม่ำเสมอตลอดเส้น สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ช่วยประหยัดพลังงาน และลดต้นทุนด้วยโครงยางซึ่งเพิ่มความสามารถในการนำกลับมาหล่อดอกได้อย่างเหนือชั้น และส่วนผสมเนื้อยางพิเศษ (ECOPIA Compound) ที่ช่วยลดความต้านทานต่อการหมุน แต่ยังคงสมรรถนะในการขับขี่และปลอดภัย อีกทั้งยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ซึ่งตอบโจทย์ไทย สมายล์ บัส ได้เป็นอย่างดี
คุณฮิโรยูกิ มะซึโมะโตะ ผู้อำนวยการสายงานธุรกิจโซลูชั่นยางรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ บริษัท บริดจสโตนเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นับเป็นโอกาสอันดีที่บริดจสโตนได้มีส่วนร่วมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้นผ่านความร่วมมือกับไทย สมายล์ บัส โดยเรามุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมยางที่ตอบโจทย์สมรรถนะการใช้งานของลูกค้า มอบความปลอดภัย และความคุ้มค่า พร้อมคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการร่วมสนับสนุนระบบขนส่งสาธารณะพลังงานไฟฟ้า และขับเคลื่อนประเทศสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยสามารถสังเกตรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าของไทย สมายล์ บัส ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ BRIDGESTONE ECOPIA R156 ซึ่งจะมีสัญลักษณ์ติดอยู่ที่ตัวรถ และให้บริการประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล”
การดำเนินงานดังกล่าวสอดคล้องกับ “Bridgestone E8 Commitment (พันธสัญญา E8 ของบริดจสโตน)” *1 “ด้าน Extension (การเติบโต) ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อพัฒนานวัตกรรมของยางเพื่อส่งเสริมการใช้รถโดยสารพลังงานไฟฟ้า”, “ด้าน Ecology (สิ่งแวดล้อม) ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาง บริการ และโซลูชั่นที่ช่วยประหยัดพลังงาน เพิ่มความคุ้มค่าในการเดินทาง ทั้งยังส่งเสริมการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”, “ด้าน Ease (ความสะดวกสบาย) ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์ยางที่ช่วยตอบสนองความต้องการ และเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบาย และปลอดภัยสำหรับผู้คนในสังคม” และ “ด้าน Empowerment (พลังทางสังคม) ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อส่งเสริมสังคมการเดินทางอย่างยั่งยืนผ่านการเดินทางโดยรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า”