นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของประเทศ ในเดือนธันวาคม 2563 ดังต่อไปนี้
การผลิต
จำนวนรถยนต์ทั้งหมดที่ผลิตได้ในเดือนธันวาคม 2563 มีทั้งสิ้น 142,969 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 6.53 เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกันจากการผลิตเพื่อขายในประเทศที่เพิ่มขึ้นทั้งรถยนต์นั่งและรถกระบะร้อยละ 36.79 และ 26.35 ตามลำดับและลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2563 ร้อยละ 17.10
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,426,970 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 29.14 แต่มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 1,400,000 คัน ร้อยละ 1.90
รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2563 ผลิตได้ 54,137 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 4.15
ยอดผลิตของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 มีจำนวน 542,437 คัน เท่ากับร้อยละ 38.01 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 32.56
รถยนต์โดยสารขนาดต่ำกว่า 10 ตัน และมากกว่า 10 ตัน ขึ้นไป ในเดือนธันวาคม 2563 ผลิตได้ 32 คัน เพิ่มขึ้นนจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 1,500 รวมเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ผลิตได้ 237 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 8.49
รถยนต์บรรทุก เดือนธันวาคม 2563 ผลิตได้ทั้งหมด 88,800 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 8 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ผลิตได้ทั้งสิ้น 884,296 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 26.86
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2563 ผลิตได้ทั้งหมด 86,319 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 7.86 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ผลิตได้ทั้งสิ้น 861,449 คัน เท่ากับร้อยละ 60.37 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 26.87 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 261,340 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 21.26
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 500,603 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 27.81
• รถกระบะ PPV 99,506 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 34.83
รถบรรทุกขนาดต่ำกว่า 5 ตัน – มากกว่า 10 ตัน เดือนธันวาคม 2563 ผลิตได้ 2,481 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 13.13 รวมเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ผลิตได้ 22,847 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 26.50
ผลิตเพื่อส่งออก
เดือนธันวาคม 2563 ผลิตได้ 54,733 คัน เท่ากับร้อยละ 38.28 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 17.84 ส่วนเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ผลิตเพื่อส่งออกได้ 704,626 คัน เท่ากับร้อยละ 49.38 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากปี 2562 ระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 32.06
รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2563 ผลิตเพื่อการส่งออก 13,503 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 39.38 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 227,066 คัน เท่ากับร้อยละ 41.86 ของยอดผลิตรถยนต์นั่ง ซึ่งลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 34.78
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2563 มียอดการผลิตเพื่อการส่งออก 41,230 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 7.02 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ผลิตเพื่อส่งออกได้ทั้งสิ้น 477,560 คัน เท่ากับร้อยละ 55.44 ของยอดการผลิตรถกระบะ ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 30.69 โดยแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 57,036 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 29.49
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 360,859 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 29.82
• รถกระบะ PPV 59,665 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 36.48
ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ
เดือนธันวาคม 2563 ผลิตได้ 88,236 คัน เท่ากับร้อยละ 61.72 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 30.55 และเดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ผลิตได้ 722,344 คัน เท่ากับร้อยละ 50.62 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 26.03
รถยนต์นั่ง เดือนธันวาคม 2563 ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 40,634 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 36.79 ยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศของรถยนต์นั่ง ตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ผลิตได้ 315,371 คัน เท่ากับร้อยละ 58.14 ของยอดการผลิตรถยนต์นั่ง โดยเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 แล้ว ลดลงร้อยละ 30.86
รถกระบะขนาด 1 ตัน เดือนธันวาคม 2563 มียอดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 45,089 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 26.35 และตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ผลิตได้ทั้งสิ้น 383,889 คัน เท่ากับร้อยละ 44.56 ของยอดการผลิตรถกระบะ ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 21.50 ซึ่งแบ่งเป็น
• รถกระบะบรรทุก 204,304 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 18.61
• รถกระบะดับเบิลแค็บ 139,744 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 22.04
• รถกระบะ PPV 39,841 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 32.18
รถจักรยานยนต์
เดือนธันวาคม 2563 ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 204,469 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 6.51 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 159,099 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ร้อยละ 0.16 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 45,370 คัน ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 24.23
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,023,433 คัน ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 20.13 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,615,319 คัน ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 17.10 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 408,114 คัน ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 30.21
ยอดขาย
ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือนธันวาคม 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 104,089 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 11.3 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2563 ร้อยละ 31.46 เป็นอีกเดือนหนึ่งที่ยอดขายในประเทศเกินหนึ่งแสนคันหลังจากหมดโครงการรถยนต์คันแรก สะท้อนถึงเศรษฐกิจในประเทศที่เริ่มฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ของรัฐบาลเช่นการประกันรายได้เกษตรกร ช็อปดีมีคืน คนละครึ่ง ฯลฯ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องของรัฐบาล รวมทั้งการออกรถยนต์รุ่นใหม่และการส่งเสริมการขายของผู้จำหน่ายรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์วันที่ 1-13 ธันวาคมที่ผ่านมาซึ่งมียอดจองกว่า 33,000 คัน
ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 123,844 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 9 และเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤศจิกายน 2563 ร้อยละ 3.15
ตั้งแต่เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 รถยนต์มียอดขาย 792,146 คัน ลดลงจากปี 2562 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 21.4 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 1,516,096 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 11.78
การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป
เดือนธันวาคม 2563 ส่งออกได้ 68,481 คัน ลดลงจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 5.24 และลดลงจากเดือนพฤศจิกายน 2563 ร้อยละ 5.24 โดยส่งออกลดลงเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดตลาดเอเชียและตลาดออสเตรเลียและโอเซียเนีย มีมูลค่าการส่งออก 39,216.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 4.31
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 2,146.54 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 19.29
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 14,907.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 6.01
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 1,759.59 ล้านบาท ลดลงจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 13.30
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนธันวาคม 2563 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 58,030.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 2.99 ซึ่งเพิ่มขึ้นเพราะส่งออกรถกระบะ
เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 735,842 คัน โดยส่งออกลดลงจากปี 2562 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 30.19 มีมูลค่าการส่งออก 410,911.85 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 24.74
• เครื่องยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 23,817.39 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562
ร้อยละ 25.57
• ชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ มีมูลค่าการส่งออก 137,902.12 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 25
• อะไหล่รถยนต์ มีมูลค่าการส่งออก 19,274.79 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 20.09
รวมมูลค่าส่งออกรถยนต์เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ และอะไหล่ มีมูลค่า 591,906.14 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 24.69
รถจักรยานยนต์
เดือนธันวาคม 2563 มีจำนวนส่งออก 78,429 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 19.28 โดยมีมูลค่า 32,756.818 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 359.95 เพราะส่งออกรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์มีราคาสูงเพิ่มขึ้นมาก
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 119.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 70.05
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 109.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 2.44
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนธันวาคม 2563 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 32,985.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2562 ร้อยละ 351.93
เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 727,152 คัน (รวม CBU + CKD) ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 23.36 โดยมีมูลค่า 85,801.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ร้อยละ 22.69
• ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,166.62 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 53.70
• อะไหล่รถจักรยานยนต์ มีมูลค่าการส่งออกทั้งสิ้น 1,226.07 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 19.34
รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 88,194.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2562 ร้อยละ 19.23
เดือนธันวาคม 2563 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 91,015.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ร้อยละ 43
เดือนมกราคม – ธันวาคม 2563 รวมมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 680,100.41 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ร้อยละ 20.91
ปี พ.ศ.2564 เป้าผลิตรถยนต์ 1,500,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.12
เป้าผลิตรถจักรยานยนต์ 1,860,000 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.15
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรม แห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยตัวเลขประมาณการการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของสมาชิกกลุ่มฯ ในปี พ.ศ.2564 โดยแยกเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก และการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ดังนี้
รถยนต์
ประมาณการการผลิตรถยนต์ในปี พ.ศ.2564 ประมาณ 1,500,000 คัน น้อยกว่าปี พ.ศ.2563 ซึ่งมีจำนวน 1,426,970 คัน เพิ่มขึ้น 73,030 คัน คิดเป็นร้อยละ 5.12 โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 750,000 คัน เท่ากับร้อยละ 50 ของยอดการผลิตทั้งหมด และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 750,000 คัน เท่ากับร้อยละ 50 ของยอดการผลิตทั้งหมด
• ผลิตเพื่อการส่งออก จำนวน 750,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 704,626 คัน เป็นจำนวน 45,374 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.44 และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ จำนวน 750,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 722,344 คัน เป็นจำนวน 27,656 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.83 เนื่องจากยังกังวลเรื่องการระบาดของ COVID-19 รอบสองในประเทศไทยและในต่างประเทศ ซึ่งจะยังคงทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยและของประเทศคู่ค้ายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ประกอบกับการผลิตรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศบางแห่งขาดชิ้นส่วนบางชิ้น ทำให้ต้องชะลอการผลิตบางรุ่นลงชั่วคราว
รถจักรยานยนต์
ประมาณการการผลิตรถจักรยานยนต์ในปี พ.ศ.2564 ประมาณ 1,860,000 คัน มากกว่าปี พ.ศ.2563 ซึ่งมีจำนวน 1,615,319 คัน เพิ่มขึ้น 244,681 คัน คิดเป็นร้อยละ 15.15 โดยแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกประมาณ 300,000 คัน เท่ากับร้อยละ 16.1 ของยอดการผลิตทั้งหมด และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศประมาณ 1,560,000 คัน เท่ากับร้อยละ 83.9 ของยอดการผลิตทั้งหมด
• ผลิตเพื่อการส่งออก จำนวน 300,000 คัน ลดลงจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 319,038 คัน เป็นจำนวน 19,038 คัน หรือลดลงร้อยละ 5.97
• ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ จำนวน 1,560,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ผลิตได้ 1,296,281 คัน เป็นจำนวน 263,719 คัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.34