ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันของไทย ทั้งในส่วนของ Pure pickup หรือรถกระบะทั่วไป และรถกระบะดัดแปลงหรือ PPV ดูเหมือนจะเข้มข้นมากขึ้นไปทุกที จากการเปิดตัวของรถยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่แบบติดๆกัน โดยเฉพาะในปี 2023 ที่จะมาถึง เพราะจะมีการเปิดตัวเจนเนอเรชั่นใหม่อีกอย่างน้อย 1 รุ่น คือ All-New Mitsubishi Triton หลังจากที่ปีนี้ Ford ได้แนะนำรถยนต์ 3 รุ่นสำคัญ ตั้งแต่ All-New Ranger All-New Ranger Raptor และ All-New Everest ลงสู่ตลาดไปเป็นที่เรียบร้อย และกำลังส่งสัญญาณการเติบโตที่เจ้าตลาดอย่าง Isuzu และ Toyota ไม่อาจจะมองข้ามได้ แม้ว่ายอดขายจะห่างกันอยู่มากก็ตาม
ล่าสุด จากรายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนตุลาคม 2565 โดย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด มีตัวเลขการขายรวมทั้งสิ้น 64,618 คัน เพิ่มขึ้น 0.2% ประกอบด้วย รถยนต์นั่ง 19,468 คัน ลดลง 2.4% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 45,150 คัน เพิ่มขึ้น 1.4% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 35,447 คัน เพิ่มขึ้น 0.3% พร้อมยอดขายสะสม 10 เดือนแรก ที่ 698,305 คัน เติบโต 17.1% ซึ่งในส่วนของรถกระบะดัดแปลง มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจกว่าทุกเดือนที่ผ่านมา
ยอดขายรถกระบะดัดแปลง PPV ประจำเดือนตุลาคม 2565
มีปริมาณการขาย 5,371 คัน เพิ่มขึ้น 28.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
อันดับ 1 Toyota Fortuner 2,451 คัน เพิ่มขึ้น 17.9% ส่วนแบ่งตลาด 45.7%
อันดับ 2 Ford Everest 1,316 คัน เพิ่มขึ้น 167.5% ส่วนแบ่งตลาด 24.5%
อันดับ 3 Isuzu MU-X 1,044 คัน เพิ่มขึ้น 17.4% ส่วนแบ่งตลาด 19.5%
อันดับ 4 Mitsubishi Pajero Sport 459 คัน ลดลง 18.6% ส่วนแบ่งตลาด 8.6%
อันดับ 5 Nissan Terra 91 คัน ลดลง 39.3% ส่วนแบ่งตลาด 1.7%
เรื่องน่าสนใจในเดือนนี้ก็คือ Ford Everest สามารถทำยอดขายแซง Isuzu MU-X ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ได้ ด้วยยอดขายนำห่าง 272 คัน อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เซอร์ไพรซ์มากนัก เพราะตลาดนี้ไม่ได้ใหญ่เหมือนกับรถกระบะ Pure pickup ที่การเปลี่ยนอันดับ หมายถึงเงินจำนวนมหาศาล และเราก็เคยพูดถึงความเป็นไปได้นี้มาก่อนแล้ว แต่แน่นอนว่า การตกลงมาเป็นอันดับ 3 ของ MU-X ไม่น่าจะทำให้ Isuzu อยู่เฉยได้ เพราะแม้ว่าจะเป็นเซกเมนต์ที่เล็ก แต่การบอกว่าเป็นอันดับ 2 หรือ 3 ของตลาด ก็มีผลในด้านจิตวิทยากับกลุ่มเป้าหมายไม่น้อยเช่นกัน โดยเฉพาะการเป็นเบอร์ 1 ก็เสมือนเป็นการบ่งบอกกลายๆว่า รถรุ่นนั้นๆดีที่สุด การแข่งขันในการแย่งอันดับ จึงเป็นเรื่องที่มีมากไปกว่ามุลค่าจริงของตลาด จึงน่าจับตาดูต่อไปว่า Isuzu จะแก้เกมให้กับ MU-X อย่างไรต่อไป ในส่วนของ Toyota นั่น Fortuner ยังร้อนแรง ไม่มีแผ่ว แม้ว่าจะอยู่ในช่วงปลายโมเดล แต่การทุ่มปรับโฉมครั้งใหญ่ พร้อมแตกรุ่นย่อยออกมามากกว่ารถรุ่นอื่นๆ สะท้อนให้เห็นว่า การรักษาตำแหน่งแชมป์ เป็นเรื่องสำคัญ หลังจากที่ตลาดรถกระบะ Pure pickup ถูก Isuzu โค่นลงจากบัลลังค์มาจะร่วม 3 ปีแล้ว
ยอดขายรถกระบะดัดแปลง PPV ใน 10 เดือนแรกของปี 2565
มีปริมาณการขาย 51,642 คัน เพิ่มขึ้น 28.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
อันดับ 1 Toyota Fortuner 22,462 คัน เพิ่มขึ้น 24.3% ส่วนแบ่งตลาด 43.5%
อันดับ 2 Isuzu MU-X 15,141 คัน เพิ่มขึ้น 19.1% ส่วนแบ่งตลาด 29.3%
อันดับ 3 Ford Everest 6,820 คัน เพิ่มขึ้น 77.8% ส่วนแบ่งตลาด 13.2%
อันดับ 4 Mitsubishi Pajero Sport 6,198 คัน เพิ่มขึ้น 21.6% ส่วนแบ่งตลาด 12.0%
อันดับ 5 Nissan Terra 91 คัน ลดลง 39.3% ส่วนแบ่งตลาด 1.7%
สำหรับอันดับยอดขายสะสมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง จากยอดขายที่เพิ่มแบบก้าวกระโดดของ Ford Everest นั่นทำให้ Isuzu MU-X น่าจะสามารถรักษาอันดับ 2 ไปได้จนสิ้นปี ด้วยระยะห่างที่ไว้ก่อนแล้ว ถึง 8,321 คัน ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาไปสักพักหรือเซ็ตซีโร่ด้วยการเริ่มนับใหม่ในปีหน้า ที่มีความเป็นไปได้สูงว่า อันดับ 2 อาจจะถูกเปลี่ยนมือไปแบบยาวๆ จะมีได้ลุ้นกันอีกทีกับการเปิดตัวของ All-New Mitsubishi Pajero Sport ที่อย่างเร็วก็น่าจะเป็นปี 2024 ขึ้นไป เว้นเสียแต่ว่า Mitsubishi ตัดสินใจใช้แนวทางเดียวกับ Ford คือเปิดตัว PPV ออกมาพร้อมๆกับรถกระบะเลย เพราะอนาคตของรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในล้วน ดูจะสั้นลงไปทุกที บริษัทจึงต้องพยายามสร้างเม็ดเงินจากเทคโนโลยีเก่าให้ได้มากที่สุด งานนี้ทำให้ Toyota อาจจะเบาใจได้กับตลาดนี้ และมุ่งความสนใจไปในการแข่งขันกับ Isuzu ในตลาดรถกระบะ Pure pickup มากขึ้น
[yourchannel video=”-LqDMUJLE4w” autoplay=”1″ show_comments=”1″]