Toyota ทำตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันในเมืองไทย ด้วยรถ 2 รุ่นด้วยกัน คือ Hilux Revo และ Fortuner หรืออีกในชื่อหนึ่งก็คือ Hilux SW4 ที่ถือว่าเป็นคู่แฝดคนละทรง แต่ใช้พื้นฐานเดียวกัน ซึ่งหมายความว่า การเปลี่ยนเจนเนอเรชั่นที่เกิดขึ้นกับรถกระบะ Hilux ก็ย่อมหมายถึงการปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคัน สำหรับ Fortuner ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความสดใหม่ให้กับสินค้า ถือว่าเป็นการกระตุ้นตลาดครั้งใหญ่
อย่างไรก็ดี ตลาดเมืองไทย อาจจะเป็นกรณียกเว้น เมื่อยอดรวมของรถกระบะทั้งสองประเภทของ Toyota ยังตามหลังค่าย Isuzu ในช่วง 2-3 ปีหลังมานี้ ซึ่ง D-MAX เป็นรุ่นที่ช่วยให้ยอดขายรวมของ Isuzu แซงหน้า Toyota ไปได้ แม้ว่า Fortuner จะทำได้ดีกว่า MU-X อยู่มาก แต่ด้วยขนาดตลาดที่เล็ก เมื่อเทียบกับตลาดรถกระบะทั่วไป ยอดขายที่นำห่าง MU-X จึงไม่สามารถมาชดเชยกับยอดขายของ Hilux Revo ที่ยังตาม D-MAX ได้ โดยยอดขายรถยนต์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา สะท้อนออกมาชัดเจน ซึ่งจากรายงานสถิติการขายรถยนต์ ประจำเดือนเมษายน 2565 ของโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย มีตัวเลขการขายรวมทั้งสิ้น 63,427 คัน เพิ่มขึ้น 9.1% ประกอบด้วยรถยนต์นั่ง 20,492 คัน เพิ่มขึ้น 20.6% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 42,935 คัน เพิ่มขึ้น 4.4% และรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ มีจำนวน 33,629 คัน เพิ่มขึ้น 3.1%
ตลาดรถกระบะดัดแปลง PPV ประจำเดือนเมษายน 2565
มีปริมาณการขาย 4,559 คัน ลดลง 11.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อันดับ 1 Toyota Fortuner 2,199 คัน เพิ่มขึ้น 9.1% ส่วนแบ่งตลาด 48.2%
อันดับ 2 Isuzu MU-X 1,302 คัน ลดลง 32.5% ส่วนแบ่งตลาด 28.6%
อันดับ 3 Mitsubishi Pajero Sport 641 คัน ลดลง 3.0% ส่วนแบ่งตลาด 14.1%
อันดับ 4 Ford Everest 318 คัน ลดลง 37.2% ส่วนแบ่งตลาด 7.0%
อันดับ 5 Nissan Terra 99 คัน เพิ่มขึ้น 182.9% ส่วนแบ่งตลาด 2.2%
ในเดือนเมษายน Toyota Fortuner ยังทำยอดขายได้ดี นำห่างที่ 2 อย่าง Isuzu MU-X เกือบ 1,000 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดเกือบครึ่งหนึ่ง ถึง 48.2% ในทางตรงกันข้าม MU-X กลับมียอดขายลดลง ถึง 32.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ก็ยังนำห่างที่ 3 Mitsubishi Pajero Sport อยู่เท่าตัว ส่วน Ford Everest ที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนโฉมใหม่หมดทั้งคัน ยอดขายลดลงฮวบฮาบจากปีก่อน ในขณะที่ Nissan Terra แม้ว่าจะอยู่ในอันดับสุดท้าย แต่การปรับโฉมใหม่ ช่วยกระตุ้นยอดขายได้มาก เมื่อเทียบกับโฉมก่อน
ตลาดรถกระบะดัดแปลง PPV ใน 4 เดือนแรกของปี 2565
มีปริมาณการขาย 20,815 คัน เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อันดับ 1 Toyota Fortuner 9,964 คัน เพิ่มขึ้น 17.0% ส่วนแบ่งตลาด 47.9%
อันดับ 2 Isuzu MU-X 6,234 คัน ลดลง 12.3% ส่วนแบ่งตลาด 29.9%
อันดับ 3 Mitsubishi Pajero Sport 2,781 คัน เพิ่มขึ้น 5.8% ส่วนแบ่งตลาด 13.4%
อันดับ 4 Ford Everest 1,415 คัน ลดลง 19.4% ส่วนแบ่งตลาด 6.8%
อันดับ 5 Nissan Terra 421 คัน เพิ่มขึ้น 401.2% ส่วนแบ่งตลาด 2.0%
สำหรับยอดขายสะสมใน 4 เดือนแรก อันดับ 1 และ 2 มีตัวเลขส่วนแบ่งตลาด ไม่แตกต่างจากตัวเลขในเดือนเมษายนมากนัก โดยยังมี Toyota Fortuner ครองส่วนแบ่งตลาดเกือบครึ่งหนึ่ง ในขณะที่ Isuzu MU-X ยังตามมาเป็นที่ 2 หลังจากที่สามารถแซง Mitsubishi Pajero Sport ขึ้นมาได้ จากการจำหน่ายโฉมเดิม นั่นหมายความว่า ส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มเข้ามาโดยส่วนใหญ่ของ MU-X น่าจะเป็นการแย่งมาจากคู่แข่งอื่น ที่ไม่ใช่ Fortuner หรือมองในอีกมุมหนึ่งก็คือ แม้ว่าจะมีการทำตลาดมานาน จนถึงเวลาอันควรที่จะต้องเปลี่ยนเจนเนอเรชั่นได้แล้ว แต่ Fortuner ก็ยังถือว่าเป็นรถยนต์รุ่นที่ขายดิบขายดี ที่ยังมองไม่เห็นวี่แววความนิยมที่ลดลงไป เมื่อดูจากตัวเลขยอดขาย และส่วนแบ่งตลาดล่าสุด และการปรับเปลี่ยนโฉม ก็อาจจะไม่สามารถการันตีได้ว่า ยอดขายจะทิ้งห่างคู่แข่ง ได้มากเท่าในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีความสดใหม่มาทั้งคันก็ตาม เพราะดีไซน์ใหม่ อาจจะไม่ถูกใจตลาด เท่ารูปร่างหน้าตาเดิม แต่แน่นอนว่า การทำตลาดด้วยรุ่นใหม่หมดทั้งคัน จะช่วยให้ Fortuner น่าจะครองอันดับ 1 ต่อไปได้อีก แต่จะสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดได้กว่าครึ่ง เหมือนโฉมปัจจุบันหรือไม่ ยังไม่มีใครบอกได้ และถ้า Toyota คิดว่า Fortuner โฉมปัจจุบัน ยังไปต่อได้อีกอย่างน้อย 2-3 ปี ข่าวลือที่ว่า Toyota มีแผนเปิดตัว Fortuner รุ่นไฮบริด ก็จะมีน้ำหนักมากขึ้น และถ้ามีแผนตามข่าวลือจริง คาดว่าไม่เกิน 1 ปี เราก็อาจจะเห็นเวอร์ชั่นรักษ์ธรรมชาติ ของ Toyota Fortuner โฉมนี้ แต่ก่อนจะถึงตรงนั้น Toyota กำลังจะเปิดตัว Fortuner รุ่นฉลองครบรอบ 60 ปีในเมืองไทย ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมีการผลิตออกมาจำหน่าย เพียง 1,000 คันเท่านั้น