“บริษัท ซานี่ไทยยนต์ จำกัด” ผู้แทนจำหน่ายเครื่องจักรกลหนักประเภทรถขุดดินและงานวิศวกรรมโยธา แบรนด์ SANY แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ประกาศความสำเร็จ ผงาดขึ้นแท่นอันดับ 1 สองปีซ้อน ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 30.4% เตรียมพร้อมลุยตลาดปี 2565 รักษาแชมป์ต่อเนื่อง สร้างภาพลักษณ์ ลุยแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่
นายยศวัฒน์ เรืองรักษ์ลิขิต ซีอีโอ บริษัท ซานี่ ไทยยนต์ จำกัด เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ ซานีไทยยนต์ เข้ามาทำตลาดแบรนด์ SANY ในประเทศไทย จนถึงปัจจุบันได้รับการตอบรับอย่างต่อเนื่องจากลูกค้า จนทำให้วันนี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยสามารถผงาดขึ้นแท่นอันดับ 1 รถขุด 2 ปีซ้อน จากยอดขายในปี 2563 ที่กวาดยอดขายกว่า 1,600 คัน และในปี 2564 บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 1,840 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 13% มีส่วนแบ่งในตลาดถึง 30.4%
รถขุด | ยอดขายปี 2563 (คัน) | ยอดขายปี 2564 (คัน) | ยอดขายสูงขึ้น |
SANY | 1,628 | 1,840 | 13.02% |
ยี่ห้อ | จำนวน (คัน) | ส่วนแบ่งตลาด | อันดับ |
SANY | 1840 | 30.4% | 1 |
KOBELCO | 1275 | 21.1% | 2 |
KOMATSU | 917 | 15.2% | 3 |
CATERPILLAR | 711 | 11.8% | 4 |
HITACHI | 414 | 6.8% | 5 |
SUMITOMO CONSTRUCTION | 417 | 6.9% | 6 |
DOOSAN | 229 | 3.8% | 7 |
VOLVO | 136 | 2.2% | 8 |
JCB | 33 | 0.5% | 12 |
LIUGONG | 30 | 0.5% | 14 |
HYUNDAI | 19 | 0.3% | 10 |
JOHN DEERE | 16 | 0.3% | 13 |
CASE | 8 | 0.1% | 17 |
SHANDONG LINGONG | 4 | 0.1% | 16 |
LIEBHERR | 0 | 0.0% | 15 |
TOTALS | 6049 | 100.0% | |
สำหรับความสำเร็จที่ผ่านมาของบริษัทฯ เกิดขึ้นจากจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย เพราะสำหรับประเทศไทย บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์จำหน่ายถึง 7 ประเภท คือ รถขุดขนาดเล็ก, รถขุดขนาดกลาง, รถขุดขนาดใหญ่,รถขุดล้อยาง, รถตักล้อยาง, รถบด และรถเจาะ โดยสินค้าทุกประเภทสามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งาน อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยสมรรถนะ ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ทนทาน คุ้มค่า คุ้มราคา
“ปัจจุบันรถขุดซานี่ใช้ระบบ GPS รวมถึงเทคโนโลยี 5G ของจีน ซึ่งเทคโนโลยีของจีนก้าวล้ำกว่าญี่ปุ่นไปค่อนข้างมาก ทั้งในเรื่องของเครื่องจักรที่ไร้คนขับ รวมถึงระบบคอนโทรลที่ใช้ไฟฟ้าเข้ามาควบคุมทำให้ต้นทุนน้ำมันลดลงกว่าเดิม 20-30% เมื่อก่อนคนอาจจะมองว่าผลิตภัณฑ์ของจีนคุณภาพด้อยกว่า แต่ตอนนี้เทคโนโลยีได้เข้ามาช่วยพัฒนาความคุ้มค่ามากขึ้น ทำให้คนไทยตอบรับต่อผลิตภัณฑ์จากจีนเพิ่มขึ้น ไม่เฉพาะแต่วงการเครื่องจักรอย่างเดียว ทั้งรถยนต์ อุตสาหกรรมอื่น ๆ ก็สร้างความเปลี่ยนแปลงในยุคนี้เช่นกัน โดยที่ซานี่ฯ เองเป็นตัวแทนสินค้าจากประเทศจีนในอันดับต้น ๆ ที่เข้ามาเป็นผู้นำในการทำตลาดในประเทศไทย”
ส่วนนโยบายและเป้าหมายปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3,000 คัน โดยถือเป็นการตั้งเป้าแบบท้าทายความสามารถของบริษัทฯ อย่างมาก เนื่องจากถือเป็นการเติบโตเกือบ 50% ซึ่งจากเป้าหมายการขายในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมกลยุทธ์ในการสร้างยอดขายไว้ดังนี้ การแนะนำผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด โดยเน้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้กว้างมากขึ้น รวมถึงขยายกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น โดยเน้นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยม มากด้วยเทคโนโลยที่ทันสมัย ราคาประหยัด
นอกจากนี้ ในส่วนของโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการก็จะมีการขยายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่มีอยู่ 10 แห่ง ปีนี้จะเพิ่มอีก 10 แห่ง ในจังหวัด สระบุรี, สกลนคร, จันทบุรี, นครสวรรค์, เชียงราย, เชียงใหม่, และอุบลราชธานี พร้อมกันนี้ ยังได้ลงทุนเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท สำหรับเพิ่มสต็อกอะไหล่ เพื่อให้ครอบคลุมการบริการ ตาม“มาตรฐานการบริการหลังการขายของซานี่ไทยยนต์ 1137” คือ Call Center ติดต่อกลับภายใน 1 ช.ม. /ฝ่ายบริการไปถึงหน้างาน 1 วัน / งานบริการทั่วไป จบงานภายใน 3 วัน และ งานบริการพิเศษ จบงานภายใน 7 วัน มั่นใจงานบริการหลังการขาย-อะไหล่แก้ไขปัญหาได้เสร็จทุกเคส สะดวกยิ่งขึ้นด้วย SANY E-vision Application on Mobile ให้ลูกค้าดูแลรถขุดซานี่ง่ายๆ ผ่านมือถือ ทั้งนี้ เพื่อสร้างมาตรฐานการบริการด้วยการการันตี คุณภาพ มาตรฐาน การบริการเป็นเลิศ
บริษัท ซานี่ไทยยนต์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SANY Heavy Machinery ภายใต้กลุ่มบริษัท ซานี่ และบริษัท ไทยยนต์ อีควิปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไทยยนต์ แทรคเตอร์ ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจเครื่องจักรกลหนักมาเป็นเวลามากกว่า 30 ปี โดยก่อตั้งและดำเนินธุรกิจในปี 2558
บริษัท ซานี่ไทยยนต์ เป็นผู้จำหน่ายเครื่องจักรกลหนักประเภทรถขุดดิน และงานวิศวกรรมโยธา แบรนด์ SANY แต่เพียงผู้ด้วยในประเทศไทย ปัจจุบันจำหน่าย รถขุดไฮโดรลิก รถบด รถตักล้อยาง รถเจาะ และรถบรรทุกเหมืองแร่ ดำเนินธุรกิจในระดับสากล บริการแบบครบวงจร บริการด้วยความจริงใจ รวดเร็ว ฉับไว รวมไปถึงการปรับปรุและการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตามสโลแกนที่ว่า “ความสำเร็จของลูกค้า คือ ความสำเร็จของเรา” ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชนชั้นนำ