ในที่สุด Nissan ก็ได้เปิดตัว All-New Rogue หรืออีกชื่อหนึ่งว่า X-Trail โฉมใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 3 ในสหรัฐอเมริกา โดยมาพร้อมการรองรับการใช้งานที่ดีกว่าเดิม ปลอดภัยมากขึ้น เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และรูปโฉมใหม่หมดทั้งคัน
จากภาพที่เคยหลุดออกมาก่อนหน้านี้ ดีไซน์ใหม่ของ X-Trail ยังใช้ภาษาการออกแบบล่าสุด ที่มาพร้อมกระจังหน้าแบบ V-Motion รูปทรงโดยรวม อาจจะไม่ดูโฉบเฉี่ยว ในแบบรถรุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า อย่าง Kicks หรือ Juke แต่โครงสร้างที่เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมมากกว่า ทำให้รถดูดุดัน แข็งแกร่งในแบบรถ SUV พร้อมเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ ด้วยหลังคาแบบลอยตัวที่ใช้เฉดสีดำ ที่มีให้เลือกในรุ่นบน อย่าง Platinum AWD
Nissan X-Trail ใหม่ ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม CMF-C/D ที่ได้รับการพัฒนาล่าสุด เรื่องที่น่าสนใจอีกอย่าง ในด้านการออกแบบตัวถังภายนอกก็คือ X-Trail ใหม่ มีขนาดที่เล็กลงกว่าเดิม โดยมีระยะฐานล้อ สั้นลงกว่าเดิม 2.54 มม หลังคาสั้นลง 53.3 มม และความยาวโดยรวม สั้นลง 43.2 มม แต่ระยะฐานล้อที่สั้นลง ไม่ได้ส่งผลต่อขนาดของห้องโดยสารภายใน X-Trail ใหม่ กลับมีพื้นที่ภายใน ที่กว้างขวางขึ้นกว่าเดิม ด้วยช่วง legroom ที่ยาวขึ้น 0.6 นิ้ว headroom มากขึ้น 0.7 นิ้ว แต่ X-Trail ในอเมริการุ่นนี้ จะไม่มีเบาะนั่งแถวที่ 3 อีกต่อไป แต่จะถูกแทนที่ ด้วยเบาะนั่งแถวที่ 2 ที่สามารถเลื่อนสไลด์ได้
อย่างไรก็ตาม พื้นที่จุสัมภาระท้ายรถ มีขนาดลดลงเล็กน้อย จาก 39.3 เหลือ 36.5 ลูกบาศก์ฟุต โดยสามารถเพิ่มขนาด เป็น 74.1 ลูกบาศก์ฟุต ด้วยการพับเบาะนั่ง แถวที่ 2 ลง เป็นรองเพียง Honda CR-V และ Toyota RAV4 โดยหน้ากว้างของประตูท้ายรถ มีขนาดใหญ่ขึ้น และเป็นรูปสี่เหลี่ยมมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้การนำสัมภาระเข้าออก ทำได้สะดวกยิ่งขึ้น
Nissan X-Trail ใหม่ ยังได้รับการอัพเกรด จุดยึดแท่นรองเครื่องยนต์ และระบบกันสะเทือน จาก 4 มาเป็น 6 จุด ที่แข็งแรงกว่าเดิม พวงมาลัยมีการตอบสนองที่ดีขึ้น ระบบกันสะเทือนหลังแบบ multi-link ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่เช่นกัน
ห้องโดยสารภายใน Nissan ติดตั้งระบบ infotainment ที่มีหน้าจอแสดงผลขนาด 8 นิ้ว มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ที่รองรับทั้ง Apple CarPlay และ Android Auto โดยมีจอแสดงผลขนาด 9 นิ้ว ความละเอียดสูงขึ้น เป็น option ซึ่งอย่างหลัง มาพร้อมระบบนำทางผ่านดาวเทียมแบบ Built-In ซึ่งมีในรุ่น platinum และรุ่น SL Premium
หน้าปัดเรือนไมล์ มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 7 นิ้ว จากเดิม 5 นิ้ว โดยในรุ่น Platinum จะมาพร้อมหน้าจอแบบฟูลดิจิตอล ขนาด 12.3 นิ้ว และ head-up display แบบสี ขนาด 10.8 นิ้ว โดยคอนโซลกลาง ได้รับการติดตั้งฐานเกียร์ขนาดเล็ก ที่อยู่บริเวณใกล้กับช่อง USB-A และ USB-C
รุ่นย่อยสูงสุดอย่าง Platinum ยังมาพร้อมเบาะนั่งหุ้มหนังแท้ ที่ผ่านการฟอกสีแบบ semi-aniline ลวดลาย diamond และสีน้ำตาลอ่อน ที่มีเฉพาะรุ่นนี้ โดยยังมาพร้อมระบบช่วยในการขับขี่ ProPilot Assist ที่มีระบบเรดาร์ ครอบคลุมระยะทางที่ไกลขึ้น และกล้องที่มีมุมมองกว้างขึ้นกว่าเดิม ซึ่งยังช่วยตรวจจับคนเดินถนน นอกจากนั้น ยังมีระบบ Navi-Link รองรับ Apple Carplay แบบไร้สาย แทนชาร์จไฟแบบไร้สาย ระบบลำโพง 10 ตำแหน่งจาก Bose ไฟสร้างบรรยากาศภายใน เป็นต้น
ระบบใหม่ ที่มีมาให้ใน Nissan X-Trail โฉมใหม่นี้ก็คือ ระบบควบคุมการเคลื่อนไหวของรถ ที่เรียกว่า Vehicle Motion Control ซึ่งจะทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน AWD ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ และระบบเลือกโหมดการขับขี่ ที่จะช่วยให้ผู้้ขับสามารถควบคุมล้อทั้ง 4 ได้อย่างอิสระ ส่งผลให้มีการเข้าโค้งที่ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งระบบ Vehicle Motion Control จะทำนายจากพฤติกรรมการควบคุมการขับขี่ของผู้ขับ ในการควบคุมพวงมาลัย การเร่งเครื่อง และการเบรค ซึ่งจะช่วยให้การทำงานต่างๆเหล่านี้ ทำได้อย่างราบรื่นขึ้น
ขุมพลังของ Nissan X-Trail โฉมใหม่ เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ บล็อกใหม่ รหัส PR25DD ความจุ 2.5 ลิตร จับคู่กับเกียร์ CVT ที่มีใช้ในรุ่น Altima รุ่นปี 2019 โดยให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 245 นิวตันเมตร
Nissan จะเริ่มจำหน่าย X-Trail หรือ Rogue โฉมใหม่ในสหรัฐอเมริกา ในฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึง โดยมาพร้อมสีต่างๆให้เลือกมากมาย และสีทูโทนถึง 5 แบบด้วยกัน